4 พฤษภาคม 2548 18:01 น.
ปากกาดอกไม้(2)
หมื่นสวรรค์...
นี่คือชั้นกวี
ทุกคำพูดจะถูกจารลงบนแผ่นฟ้า
แต่งแต้มอักษราด้วยลมหนาว
ผ่านฟ้าประดับบนม่านพรายดาว
ระยิบระยับแพรวพราวทั่วทั้งราตรี
บรรจงวิจิตรไว้..เป็นกาพย์กลอน
เมื่อลมหนาวสิ้นฤดู
วจนะก็จะหล่นพรั่งพรูสู่ผืนดินอีกครั้ง
แล้วยังต้นมาเป็นกล้า
ผลิดอกออกมาเป็นนก
เหล่าวิหคจะเริงระบำในตอนเช้า
เมื่อถึงยามสายจะร่ายรำเพลง
เมื่อถึงยามวิกาลวังเวงก็จะบินกลับ
ไปประดับบนวิมานสวรรค์ชั้นกวีอีกหน
วนไปมิรู้สิ้น
กล้าใดที่ไร้ดอกไร้ผล
เมื่อสัมผัสกับฝนหลงฤดู
ก็จะชูกิ่งก้านไพศาล
กลายเป็นตำนานภาษา
จารึกเรื่องราวมิรู้สิ้น
ไว้บนผืนแผ่นดินนั้น
กวีใดใคร่ยลสวรรค์ชั้นนี้
ต้องมีของถวายสองสิ่ง
หนึ่งถวาย-ปณิธานอันสูงยิ่ง
ที่จะร่วมสืบสาน-ตำนานกวี
สอง - ต้องมีใจอาจหาญ
กล้าประชันกานท์กลอนบทนี้
แสดงภูมิที่ท่านมี ให้ประจักษ์ในสวรรค์ชั้นกวี
จารึกไว้ ณ. ที่นี้เอย....
-ใครใคร่เชื่อก็จงเชื่อเถิด-
กวีจะเกิดบนสวรรค์ชั้นใดเล่า ถ้าไม่ใช่..ชั้นกวี
4 พฤษภาคม 2548 06:09 น.
ปากกาดอกไม้(2)
คมหอกคมดาบคม ศาตรา
ฤาจะเทียบคมปากกา แกร่งกล้า
กลั่นถ้อยคำต่างๆล้วน พรรณนา
ใช่คมมาไล่ฆ่า คมคน
คมหอกคมดาบคม ปากกา
ฤาจะเทียบคมวาจา กล่าวก้อง
ประกาศเกียรติสดับซ้อง สรรเสริญ
ใช่อาจใช่หาญกล้าวัดค่า คนคม
คมหอกคมดาบคม วาจา
ฤาจะเทียบคมมารยา หลอกล่อ
ดั่งคมดาบอาบน้ำผึ้งรอ ฟันคม
ชายใดหมายสู่สม สิ้นแล้วคมชาย
3 พฤษภาคม 2548 23:13 น.
ปากกาดอกไม้(2)
ฤาสองอยู่ขอบของ ฝั่งฟ้า
ฤาสองอาจไกลตา ฟ้ากั้น
ฤาสองใจรวมหนึ่ง เดียวกัน
ฤาสองฟ้ากั้น เพียงทาง
ฟ้าอาจใช่ผืนแผ่น เดียวกัน
แต่ต่างชั้นสวรรค์ เหินห่าง
ไกลไกลก็เพียง ระยะทาง
ใช่ใจเวิ้งว่าง ทางไกล
รักแท้มิอาจปิดกั้น โดยฟ้า
กี่หมื่นกี่แสนไกลตา กลับใกล้
ระยะทางเพียงทดสอบ หัวใจ
ขอเพียงสองเราไม่ ลืมกัน
*****ปล. กลอนที่ได้ขึ้นหน้าแรกนี่คัดกันยังไงครับ หรือว่าให้มันรันไปเรื่อยๆ
แล้วมีความหมายอะไรหรือเปล่าเอ่ย?*****
24 เมษายน 2548 16:24 น.
ปากกาดอกไม้(2)
คือ
อยากจะให้เพื่อนๆที่เล่นMSN ลงเมล์ไว้ทีอ่าคับ ไม่ได้มีอะไรมาก
เพราะเพื่อนที่ รร.ผมมันไม่ชอบแต่งกลอนกัน อย่างน้อยเวปเพจหน้านี้
ผมคงจะได้เพื่อนใหม่บ้าง คิดว่าหลายคนก็คงคิดแบบผมอ่ะ แล้วหลายคนคง
ขี้เกียจไปนั่งดูประวัติส่วนตัวแต่ละคนด้วย อิ อิ ถ้าไม่
รังเกียจช่วยลงเมล์ทิ้งไว้ด้วยนะฮะ หรือขี้เกียจพิมพ์ก็แอดมาเลยก็ได้งับ
holy_arch@hotmail.com
ปล.ตกลงใครเป็นเจ้าของเวปนี้อ่ะ สถิตย์มาพอสมควรยังไม่รุ้ซะที
23 เมษายน 2548 20:36 น.
ปากกาดอกไม้(2)
ฟ้าเจ้าจงบรรเลง
ทำนองเพลงพงไพรใช่ อุดมการณ์
ลมเจ้าจงขับขาน
เสรีภาพแห่งวิญญาณใช่ -ดนตรี
ผาหินเจ้าใช่จะแข็งกร้าว
บนกลิ่นคาวเลือด กายคน
ดาวเจ้าสว่างฤาใช่ เบื้องบน
สว่างแท้ใน-ใจเรา
อาทิตย์เห็น เป็นลาง
ทุกมือบังแสงพลางเห็น เป็นเงา
ทุกคนเห็นดวง เดียวกัน
ใช่ใครแบ่งแยก - ฟ้าดิน
เจ้าคนผู้หน้าซื่อ ใจคด
ผู้คิดเป็นกบฏ แผ่นดิน
ใช่เจ้าผู้เดียว สูญสิ้น
ไทยทั่วทั้งถิ่น บรรลัย
จงหยุดบรรเลงเพลง อุดมการณ์
รับฟังคำขาน พงไพร
เงี่ยโสตสดับเสียง คนไทย
ใช่เจ้าคนเดียวบนผืน แผ่นดิน
เห็นไหมวิญญาณแห่ง เสรี
ลมของไทยยังมี ร่มเย็น
ผาหินยังแข็ง อ่อนเป็น
ใยเจ้ามิทำเช่น อย่างมัน
อันนี้ ยังคงยึดกลอนเปล่าเหมือนเดิม อ่อ
ขอบคุณ คุณพรพระจันทร์ที่ไปเยี่ยมที่บทกลอน เรื่องของน้ำด้วย
อิ อิ