27 ตุลาคม 2549 01:41 น.
ปากกาดอกไม้(2)
หนึ่งน้ำหยดเผาะเซาะผาหิน
กี่วันกี่คืนมิรู้สิ้น ทลาย
บุปผชาติผงาดกล้ากลางผืนทราย
ทรายยังมิอาจต้านแรงภาย ในทะลวง
ความรักกระแทกกระทั้นเต็มทรวง
มีฤาอุระอุราและดวง หทัยจะทน
ยิ่งรักก็หวาดก็หวั่นและสับและสน
เพราะรักมาดาลมาดลให้ดวงกมล มิอาจจะทัดทาน
แม้รู้ว่ารักมิอาจจะยั่งจะยืนอยู่นาน
แต่ไฉนละใจเจ้าเอ๋ยจะยืนจะกราน ปฏิญาณในรักเอย
แม้เจ็บเพราะรักเพียงลมให้ชมให้เชย
แต่ใยละอกเจ้าเอ๋ย จึงเต้นจึงสั่นระริกรัว
พิษรักกำเริบมิทันจะตั้งตัว
จะแกร่งจะกล้าก็กลับกลัว ว่าเวลาของหัวใจจะหยุดเดิน
ปล.ไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นฉันทลักษณ์ของอะไรนะ เพราะแต่งขึ้นมาเอง
มั่วๆ
ปล.2 สังเกตดีๆ วรรคสุดท้ายของบทที่ 1 จะเริ่มที่ 2พยางค์ บทต่อๆมาจะเพิ่มทีละพยางค์ ยกเว้นบทสุดท้ายเป็นบทจบอยากให้ลงเลขสวยคือ9 เลยข้าม8ไป
18 เมษายน 2549 00:51 น.
ปากกาดอกไม้(2)
เพลงลม ไล่คม เรียวไผ่
แกว่งไกว ยอดใบ ไผ่เขียว
ลมลู่ สู่ยอด ไผ่เรียว
เลาะเลี้ยว เกี่ยวยอด ไผ่ใบ
ค้างพรม บนยอด ไผ่สน
ลมบน ลอดเลาะ ไผ่ไหว
ค้างหล่น จากยอด ไผ่ไกว
ลงไล่ เริงเล่น ล้อลม
ดินแล้ง แดนร้าง ก็ฟื้น
ชุ่มชื้น กลับคืน เหมาะสม
ดินยัง ป่าย่อม อุดม
น้ำลม สั่งสม อุดมดิน
29 กรกฎาคม 2548 22:31 น.
ปากกาดอกไม้(2)
ภาพพิมพ์ ซา กุระเคลื่อน - กลบตะวัน
เล็ดลอดหนึ่ง สุริยัน - กลีบฟ้า
เงาระบำ พิมพ์ภาพ - ปรากฏ
ร่ำสุราเดินร่าย เหยียบเย้ย - เงาตะวัน
สิ้นเสียงกลีบ ซา กุระคือ - คมจันทร์
สะท้อน สาด ฟาดฟัน - ดับดิ้น
แดงชาดปาดฉาบทั่ว - แดนดิน
ทุกผู้ต่างเศร้า ต่างสูญสิ้น - ซา กุระแดง
ร่ำสุราเดินร่าย เหยียบเย้ย - เงาจันทร์
ทอดร่าง ทิ้งกายพลัน - ดับสิ้น
นักรบกวีฉกรรจ์ - อาจหาญ
ร้อยเลือดประพันธ์สาน - ตำนาน ซากุระแดง
28 กรกฎาคม 2548 12:42 น.
ปากกาดอกไม้(2)
บ่อยครั้งที่ฉันก็อยากยิ้มอย่างใครบ้าง
แต่หัวใจลืมทางยิ้มแล้วเธอรู้ไหม
หัวใจที่ขาดน้ำมาเติมใจ
ย่อมแห้งเหี่ยวและเฉาไปตามเวลา
เก็บงำความรู้สึกในใจ
เกินกว่าใครจะเห็น
ยิ้มได้หากใครอยากให้ฉันเป็น
แต่อาจแฝงเช่นรอยน้ำตา
อาจจะเข้มแข็งภายนอก
แต่ภายในมันบอกว่าอ่อนแอรู้ไหม
คนกลัวกลัวแสดงความกล้าเพื่ออะไร
ไม่ใช่เพื่อรอใครสักคน มาเห็นใจ
ลึกๆที่ใจแอบหวัง
ว่าจะยังมีใครสักคนเห็นไหม
ความกล้าของคนอ่อนแออย่างฉันไง
ภาพลวงตาที่ใจมันสร้างมา
และแล้วเมื่อเจอคนอย่างเธอ
หัวใจมันล้นเอ่อทันทีรู้ไหม
ความรู้สึกกลับเต็มทั้งใจ
เมื่อมีใครรู้ว่าฉัน มันอ่อนแอ
เธอมาดึงฉันออกจากมุมเปลี่ยว
พาไปเที่ยวกับเพื่อนบ้าง ฉันไม่เหงา
รอยยิ้มที่เคยแย้มบนความเศร้า
กลับเป้นความ เข้าใจ อันอ่อนละมุน
ถึงคราวที่คนอ่อนแอจะเข้มแข็ง
ทิ้งความหวังลมๆแล้งๆให้ไกลห่าง
เปิดประตูหัวใจให้ใครบ้าง
ให้ใครต่างก้าวย่างสู่หัวใจ
8 มิถุนายน 2548 21:19 น.
ปากกาดอกไม้(2)
เพียงชั่ว ขยับดีด สังคีตศิลป์
นกที่โผ ผกผิน ก็บินหวน
ฝูงมัจฉา กลับว่าย กระแสทวน
มาลีมวล แย้มดอก ออกเบ่งบาน
ผ่านม่านฟ้า มหารา ชิกาสวรรค์
เหล่าคนธรรพ์ บรรเลงร่วม ทำนองขาน
สะท้านสั่น สวรรค์หล้า ก็กังวาน
สะท้อนงาน สังคีตสู่ สามัญชน
เพียงเคลื่อน วรองค์ ลงจากฟ้า
ท้องนภา สงัดเงียบ ทุกแห่งหน
เยื้องก้าว เสด็จเยื้อง จากเบื้องบน
ประชาชน ก็หยุดร้อง จะชิงชัย
หยดฝน ที่เคยหยาด ก็ยอมหยุด
ฟ้าวิสุทธิ์ แสงทอง ก็ส่องใส
ทุกสิ่ง มินิ่งสงบ แต่กาลใด
กลับหยุดได้ ประการด้วย ตะลึงงาม