24 เมษายน 2547 23:01 น.
ปะการังสีเงิน
รักบทที่ 3 ความเจ็บปวดจากคนที่ไว้ใจ
จากตอนนั้น ฉันก็ไม่ค่อยได้รู้เรื่องของฟ้าสักเท่าไหร่
แต่สำหรับนนท์ ยังคงโทรหาฉันอยู่
และมากกว่าเดิมขึ้นทุกที
ฉันรู้สึกอบอุ่นมากขึ้น
มันเหมือนราวกับว่าฉันมีนนท์เคียงข้างเสมอ
แม้แต่ตอนที่มีปัญหากับฟ้า นนท์ก็พยายามปลอบฉันมาตลอด
นนท์เป็นคนอยู่ไม่เป็นที่
เค้าทำงานด้วย เรียนด้วย ออกต่างจังหวัดบ่อย
จึงมีผู้หญิงมาพัวพันบ้าง แต่เค้าก็จะบอกให้รู้
แม้บางทีจะระแวง แต่ก็ดีกว่าเค้าไม่บอกเลย นั่นยิ่งจะทำให้เกิดความระแวงมากขึ้น
ครั้งหนึ่งฉันเคยให้เพื่อนโทรไปลองใจเค้า
ประมาณว่าได้เบอร์เค้ามาจากเพื่อนอีกทีนึง
คำเดียวที่เค้าบอกมาคือ
"มีแฟนแล้วครับ คงเป็นได้แค่เพื่อน"
"หรอค่ะ แฟนคงน่ารักสิน่ะค่ะ"
"ไม่ทราบครับ ไม่เคยเจอแต่ก็รักมาก"
"หรอค่ะ มีอย่างงี้ด้วยหรอ แล้วแฟนอยู่ไหนค่ะ"
"เรียนครับ ไม่ขอบอกชื่อและสถาบันน่ะครับ ไม่อยากให้คุณไปกวนเค้า"
"ห่วงจังเลยน่ะค่ะ"
"ก็แฟนผมนี่ครับ ไม่ห่วงเค้าแล้วผมจะห่วงใคร"
ฉันซึ้งกับคำพูดที่เค้าพูดกับเพื่อนฉันมาก
เค้าดูจริงใจกับฉันมาก
แต่สิ่งที่นนท์ไม่เคยทำให้ฉันเลย
คือการลงมาหากัน ทั้งที่รับปาก
นนท์ไม่เคยลงมาสักครั้ง ไม่เคยเลย
แต่ฉันก็ยังหวัง และไว้ใจในตัวเค้าเสมอมา
และแล้วความจริงก็ปรากฎให้ฉันได้รู้
"นนท์ อยู่ไหนหรอ"
"ตอนนี้หรอ อยู่ชุมพร ไม่กี่วันจะลงไปหาน่ะ"
"ไม่ไกลนี่ นนท์ลงมาเลยสิ อยากเจอ"
"ขอเวลาเคลียร์งาน 3 วันน่ะ"
"อื้มได้ รีบลงมาน่ะ เอ้อแล้วนี่เบอร์ใครหรอ"
"อ๋อ เบอร์เพื่อน รินโทรได้นะ"
"จ้า นนท์เป็นงัยบ้าง..............."
เวลาแห่งการรอคอยช่างยาวนานเหลือเกิน
แม้จะเป็นระยะเวลาเพียง 3 วัน
มันช่างนาน ราวกับ 3 เดือน นี่แหละน่ะความรู้สึกของการรอคอย
ผ่านไป 3 วัน นนท์ก็มาไม่ได้เหมือนเดิม
ฉันจึงตัดสินใจโทร.ไปหาที่เบอร์เพื่อน
"สวัสดีค่ะ"
"เอ่อ...(ผู้หญิงหรอ). นนท์อยู่มั้ยค่ะ"
"อ๋อ นนท์ไม่อยู่ค่ะ ไม่ทราบว่าใครค่ะ"
"ถ้านนท์กลับมาบอกว่า ริน โทรมาก็แล้วกันน่ะค่ะ"
"อ๋อริน ค่ะ ได้แล้วจะบอกให้"
"เอ่อ.....ขอโทษน่ะค่ะ ไม่ทราบว่าที่ไหนหรอค่ะ"
"พิจิตรค่ะ"
"พิจิตรหรอค่ะ"
"ค่ะ ทำไมหรอค่ะ"
"ป่าวค่ะ ขอบคุณมากค่ะ"
ฉันวางสายพร้อมทั้งน้ำตาที่ไหลออกมาทันที
(ทำไมต้องโกหกว่าอยู่ใกล้กัน)
(ทำไมต้องอยู่กับผู้หญิง เธอเป็นใคร)
(ทำไมไม่บอกเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา)
(สุดท้ายนนท์ก็ไว้ใจไม่ได้เหมือนใครๆ)
(คนหลอกลวง จากนี้ไม่ต้องคุยกัน)
ความคิดและคำถามมากมายถ่าโถมออกมา
และสุดท้ายมันก็ไม่มีคำตอบ
นับจากวันนั้นมา เราก็เริ่มห่างเหินกัน
ฉันไม่ค่อยรับโทรศัพท์ พูดกับนนท์น้อยลง
ในที่สุดก็หายเงียบไปจากการติดต่อกับนนท์
24 เมษายน 2547 11:41 น.
ปะการังสีเงิน
รักบทที่ 1 คนแปลกหน้า
ย้อนกลับไปเมื่อสองปีก่อน
มีเด็กวัยรุ่นคนหนึ่งที่นิยมเล่นแชทเหมือนกับเด็กทั่วไป
นั่นคือฉันกับเพื่อนซี้คนนึง
ฉันมักไปเล่นเน็ตกับฟ้า ซึ่งเราเรียนอยู่คนละคณะกัน
แต่ก็สนิทกันมาก เพราะคุยกันถูกคอ
"เราให้เบอร์เธอกับเด็กที่เล่นแชทน่ะ เค้าบอกจะโทรหาเรา
แต่เราไม่มีมือถือ เธอคงไม่ว่าน่ะ"
"อื้มไม่เป็นไร เดี๋ยวถ้าเค้าโทรมาฉันจะไปเรียกละกัน"
"อื้อ......ขอบใจน่ะ ไปหาไรกินกันเถอะ"
เย็นวันนี้ คนๆนั้นเค้าก็โทรมาจริง
(ช่างเป็นคนที่จริงใจดีแหะตานี่) ฉันคิดในใจ
เพราะไม่นึกว่าเค้าจะโทรมาหาเพื่อนตามสัญญา
ฉันจึงเดินไปหาเพื่อนที่ห้อง ซึ่งห่างกันไม่มาก
"ฟ้าๆ เค้าโทรมาแล้ว ชื่อนนท์ใช่ป่าว"
"อื้อๆ ขอบใจน่ะ ฮัลโหล......"
ฟ้ารับโทรศัพท์จากฉันด้วยท่าทางดีใจ
เห็นแล้วก็รู้สึกดีมากๆเลยน่ะ ดูมีความสุขดีจัง
จากนั้นมานนท์ก็โทรหาฟ้าเป็นประจำ
บางครั้งฉันก็อยู่แซวด้วย บางครั้งก็ทำตัวดีไม่ไปขัดคอ
นานวันเข้า ทั้งฉันและฟ้าต่างก็รู้สึกสนิทกะนนท์
ซึ่งเป็นคนแปลกหน้าในความเป็นจริง
แต่กลับเป็นคนคุ้นเคยในความรู้สึกของเราทั้งคู่
จนกระทั่งสิ่งที่เปลี่ยนไปก็ค่อยๆเกิดขึ้น
และนั่นคือจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมด
"ฮัลโหล.....อ๋อนนท์หรอ ฟ้าไม่อยู่น่ะ อื้ม..เดี๋ยวบอกให้น่ะ
......สบายดี ดีทั้งคู่แหละ เห็นฟ้าบ่นถึงอยู่น่ะ ไปไหนมาหรอ........"
ฉันคุยกับนนท์มากขึ้น และเล่นกันมากขึ้น
โดยไม่ได้รู้สึกผูกพันธ์ด้วย แค่รู้สึกดีด้วย
และคิดว่าเป็น เพียงแค่เพื่อนคุยทางโทรศัพท์เท่านั้น
แต่นนท์กลับทำให้ฉันรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น
นนท์คุยกับฟ้าน้อยลง บางครั้งฉันบอกจะไปตามให้ นนท์ก็บอกว่าไม่ต้อง
ฉันไม่เข้าใจความรู้สึกของนนท์ตอนนั้นเลยจริงๆ
รักบทที่ 2 รอยร้าวระหว่างเพื่อน
ผ่านไปหนึ่งปี พร้อมกลับการเริ่มต้นการเรียนปีใหม่ที่สูงขึ้น
เราขึ้นปีสอง แบบไม่มีปัญหาใดๆทั้งคู่
และเราทั้งคู่ก็ยังคงติดต่อกับนนท์อยู่เรื่อยๆ
ซึ่งส่วนใหญ่แล้ว นนท์จะเป็นฝ่ายโทร.หา
แต่ถ้าฟ้าโทร.หา ก็จะคุยนานเหมือนกัน เหมือนชดเชยกัน
จนกระทั่งระยะหลัง ฉันเริ่มไม่ค่อยเห็นฟ้าโทร.หานนท์
พอถามก็บอกว่า "เบื่อละ หาใหม่ดีกว่า ตอนนี้มีเด็กใหม่แล้ว"
"หรอ แล้วนนท์หละ ไม่คุยแล้วหรอ"
"เอาเหอะ เดี๋ยวค่อยโทร.หาก็ได้"
แต่สิ่งที่แปลกคือนนท์ ยังคงโทรเข้าเครื่องฉัน
และวันหนึ่งสิ่งที่ฉันไม่เคยคิด ไม่เคยเลย ก็เกิดขึ้น
"รินหรอ "
"นนท์ ! หายไปเลยน่ะ ทะเลาะอะไรกะฟ้าป่าว"
"ปล่าว เราแค่บอกว่าเราไม่ได้คิดกะฟ้ามากกว่าเพื่อนคุย"
"จริงหรอ ฟ้าคงเสียใจน่ะ แล้วนี่มีไรให้เราช่วยป่าวหละ"
"ริน คือเรามีอะไรจะบอกอ่ะ รินอย่าโกรธน่ะ"
"อื้ม มีรัยหรอ ว่ามาสิ แต่ไม่รับปากน่ะ 55"
"คือเราขอคบกะรินได้ป่าวหละ "
"บ้า......คิดไรอะ แล้วฟ้าหละ นายจะบอกฟ้าว่างัย"
"ก็บอกตรงๆงัยไม่ได้หรอ"
"นนท์อย่าลืมน่ะว่านนท์รู้จักกะฟ้าก่อนรินน่ะ และอีกอย่างนนท์ก็เป็นเด็กของฟ้า"
"เฮ้ย..เราไม่ใช่เด็กใครน่ะ ใครบอกว่าเราเป็นเด็กของฟ้า"
"ไม่ใช่อย่างนั้น เราหมายถึงว่า เวลาที่ใครเล่นน่ะ จะถือว่าเป็นเด็กของคนนั้น"
"หรอ...คิดกันอย่างนี้หรอ แล้วรินมีเด็กกี่คนหละ"
"เราก็มี แต่แป๊บๆหน่ะ"
"งั้นเราขอเป็นแบบถาวรได้มั้ย"
"แล้วฟ้าหละ จะให้บอกว่างัยหละ"
"เดี๋ยวเราจัดการเอง รินรับปากได้มั้ยหละ คบกับเราน่ะ"
"อะได้ๆ " ฉันรับปากด้วยความคิดที่จะจบเรื่องไว้แค่นั้น
แต่ความจริงกลับไม่ใช่ มันกลับไม่เป็นอย่างนั้น
"ริน คบกะนนท์หรอ" ฟ้าถามฉันตรงๆ โดยไม่มีปี่มีขลุ่ย
"ก็นนท์ขอคบ รับปากให้เลิกตื้ออะ ไม่มีรัยหรอก"
"แต่เราว่า นนท์เอาจริงหละ"
"บ้า คนไม่เคยเห็นหน้าน่ะ"
"แต่เราก็เคยส่งรูปไปให้นนท์ดูน่ะ"
"จริงอะ ตอนไหนหรอ ไม่เห็นรู้เรื่องเลย"
"ช่วงปิดเทอมหนะ"
"หรอ.....แล้วเอางัยหละ ถ้าฟ้าไม่สบายใจ เราบอกเลิกนนท์ก็ได้
เพราะงัยก็ไม่ได้รู้จักอยู่แล้วนี่น่ะ แค่คุยกัน ฟ้าไม่สบายใจ เราเลิกก็ได้ จริงๆนะ"
"ไม่ต้องหรอก เราไม่ได้คิดไรมาก แค่อยากรู้ ไปหาไรกินดีกว่า หิวแล้ว"
"เดี๋ยวเราขับรถให้"
"ม่ะต้อง เดี๋ยววันนี้เราซิ่งเอง ระวังไว้55"
ฉันนึกว่าทุกอย่างจะจบลง โดยที่ฟ้าไม่ได้ติดใจอะไร
แต่ฉันกลับเข้าใจผิด จนกระทั่งวันหนึ่งฉันถึงได้รู้
"นี่ริน เธอไปแย่งแฟนฟ้าหรอ"
"ที่ไหนกัน ไม่มี แตนไปเอาข่าวจากไหน"
"ก็เห็นเค้าบอกกัน ว่าฟ้าว่าเธอน่ะแย่งเด็กเน็ตแฟนเค้า"
"ปล่าว....ก็เค้าบอกว่าไม่ได้คิดรัยนี่นา ทำไมเป็นงี้หละ"
"แตนก็ไม่รู้หรอกน่ะ มีคนเล่า ก็เลยมาบอกรินก่อน"
"ขอบใจน่ะแตน ที่มาบอกให้รู้"
"ไม่เป็นไร แต่ก็ไปแก้ข่าวบ้างน่ะ เค้ารู้กันทั้งม.แล้วหละ"
"จะแก้งัยหละแตน จะให้ไปประกาศหรอ ไม่ใช่เรื่อง
เอางี้ ถ้าใครถามแตน แตนก็ช่วยบอกน่ะ หรือไม่ให้มาถามฉันเองก็ได้"
"อื้มได้ ไม่มีปัญหาริน เดี๋ยวเราช่วยแก้ข่าวให้"
"ขอบใจมาก แตน"
นับจากวันนั้น ฉันต้องสาธยายเรื่องนี้ให้ใครต่อใครฟังมากมาย
และฉันกับฟ้า ก็ค่อยๆห่างกันออกไป
ฉันไม่เข้าใจว่าทำไม ผู้ชายที่ไม่เคยเห็นหน้า สำคัญกับฟ้ามากขนาดนี้เลยหรอ
แล้วฉันหละ ฟ้ายอมแลกกับคนแปลกหน้าคนนั้นหรอ
รอยร้าวระหว่างฉันกับฟ้า เพิ่มมากขึ้นทุกวันๆ
จนในที่สุดกลายเป็นรอยที่แยกเราออกจากกัน
จากวันนั้นฉันก็ไม่ได้พูดกับฟ้าอีกเลย ทั้งที่ยังเจอหน้ากันอยู่
มันเจ็บ เจ็บมากกับการโดนเพื่อนที่เรารักหักหลังอย่างนี้
(ทำไมถึงไม่บอกหละ ว่าแคร์เค้ามาก จะได้ไม่ยุ่ง พอกันที)
ฉันได้แต่คิดในใจ
23 เมษายน 2547 20:11 น.
ปะการังสีเงิน
ความเหงา ไม่เคยลางเลือนไปจากใจ
วันเวลา ยิ่งตอกย้ำให้ความทรงจำกลับคืนมามากขึ้นทุกที
ความเจ็บปวด ที่ฉันได้ทำไว้
กลับทำให้ใจฉันยิ่งทรมาน ราวกับมันย้อนคืนมา
สิ่งเดียวที่ฉันรู้ คือไม่มีความแน่นอนใดๆในความรัก
อาจมีหลายคนพยายามฉุดรั้งไว้ แต่สุดท้ายมันก้อค่อยจางลงไป
จะมีอะไรที่ทำร้ายใจได้เท่านี้
ฉันเพิ่งรับรู้สิ่งที่ทำไว้กับเธอ
ความเจ็บปวดที่ฉันเคยสร้างมันขึ้นมา
มันไม่ได้แตกต่างไปจากวันนี้เลย
ความเหงามันช่างโหดร้ายกับจิตใจเหลือเกิน
มองคนรอบข้าง ราวกับคนไม่รู้จัก
เหมือนราวกับยืนเพียงลำพัง ท่ามกลางความมืดมนของใจ
ฉันเหนื่อยเหลือเกิน กับการค้นหาทางออก
ยิ่งเดิน ยิ่งมองไม่เห็นใคร
สุดท้าย คงมีเพียงความเงียบงัน ที่ฉันต้องเผชิญ
ความมืดมนยังคงปกปิดทางออกนั้น
ความผิดพลั้งที่ฉันทำไว้ ใครจะยอมให้อภัย
คงไม่มีทางกลับไปเหมือนเดิม
ยิ่งนานวัน ฉันกลับละอายตัวเอง
ความทรงจำที่ไม่อาจลบเลือน
ยิ่งกลืนกินฉันสู่ความเหงา อ้างว้าง และเดียวดาย
สิ่งที่ค้นหา กลับไม่เคยมีจริง
ฉันได้รับแล้ว ความรู้สึกเช่นเดียวกับเธอ
มันยากเย็นเหลือเกิน ที่จะผ่านมันไป
เธอคงเจ็บปวดมาก กับเรื่องราวในวันนั้น
ฉันไม่อาจย้อนเวลากลับไปได้
ฉันคงต้องยอมรับกับความเจ็บปวดนี้
ความเจ็บปวดที่เป็นเช่นเดียวกับเธอ
ฉันยังไม่รู้ ว่าเมื่อไหร่จะผ่านมันไปได้
สิ่งที่อยากบอกเธอ
ฉันคงไม่อาจให้เธอได้ยิน
เพราะมันช่างปวดร้าวเกินที่จะเอ่ยออกไป
น้ำตาที่รินไหล เปียกที่นอน
ไม่ช้าก้อคงแห้งหายไป เหลือไว้แต่รอยจางๆ
ฉันไม่รู้ว่าเธอจะมองเห็นหรือไม่
รอยเจ็บช้ำ ที่ฉันนั้นรู้สึกและความสำนึกต่อเธอ
สิ่งที่ฉันทำไว้ ให้กับเธอได้รู้สึก
ตอนนี้ฉันสำนึกแล้ว
และคงเป็นความสำนึกครั้งสุดท้ายที่ฉันจะมี
จากนี้ไปโลกของฉันคงเหลือเพียงความมืดมนตลอดกาล