23 พฤษภาคม 2553 20:56 น.
ปลายตะวัน
ขอถามคุณ จันทร์ดำ วราคุณ หน่อยครับ
เกี่ยวกับ ความหมายในบทประพันธ์ที่ชื่อ "คนเถื่อน"ของคุณ
ในวรรค ที่ว่า "ไม่มีไท้กูนำตนเข้าห่ำหั่น"
มีความหมายอย่างไร
ซึ่งคุณได้แสดงผลงานไว้ที่ url ดังนี้
http://thaipoem.com/forever/ipage/poem134851.html
โดยมีเนื้อหาดังนี้
กูจะทุบปฐพีที่แข็งกร้าว ให้ดิ้นด่าวละเอียดเป็นผุยผง
กูจะขุนแผ่นดินปลิ้นเอาองค์ นางธรณีนี้สรงพรมน้ำเหงื่อ
กูจะจับขิณียักษ์มาหักเขี้ยว ง้างคมเคียวเกี่ยวตัดชัดเข้าเนื้อ
นำกระดูกมาขดบดเป็นเกลือ แล้วจุลเจือจัดห่อล่อพิรุณ
กูจะเอาลูกหินกินต่างข้าว ไม่ง้อท้าวเทวามาเกื้อหนุน
ถึงเจ้านงค์องค์เทพไท้ไม่การุน โปรยพิรุนมาให้ไม่ถวิล
กูมีแรงแข็งขั้นดันสู้ฟ้า กูมีหน้าโน้มน้าวเข้าสู่ดิน
กูเกลือกกล้ำย้ำเท้าเข้าทำกิน จะถวิลหาเทวาทำไมกัน
ไม่มีน้ำกูนำเหงื่อมารดได้ ไม่มีไท้กูนำตนเข้าห่ำหั่น
ด้วยสองมือสองตีนกูฝ่าฟัน จะบากบั่นแม้ตัวสิวายวาง
กรุณาให้ความกระจ่างด้วยครับ
เพราะหลายคน อ่านแล้วไม่สบายใจ
...........................................
ใครคิดบังอาจหมิ่นถิ่นทององค์ไท้ เราพร้อมพลีใจป้องหมู่ไทยและองค์ราชันย์
21 พฤษภาคม 2553 23:37 น.
ปลายตะวัน
สาเหตุโรคพระหทัยของในหลวง!!
ทุกคนคงทราบกันดีว่าในหลวงทรงมีพระอาการประชวรเรื้อรัง ในส่วนของพระหทัยเต้นผิดปกติ หากจำกันได้ ในหลวงเคย ต้องทรงรับการผ่าตัดใหญ่มาแล้วครั้งหนึ่ง เมื่อปี 2538 ครั้งนั้นพสกนิกรทั้งแผ่นดินแทบไม่เป็นอันทำอะไร ใครๆ ก็รู้ว่าโรคหัวใจไม่ใช่โรคล้อกันเล่นๆ ได้ ทั้งสมัยนั้นการผ่าตัดหัวใจก็เสี่ยงพอดู แต่ทุกอย่างก็เป็นไปโดยเรียบร้อย
แต่ทราบกันหรือไม่ว่า สาเหตุของโรคพระหทัยเต้นผิดปกตินี้มาจากอะไร?
ราวปี 2530 ในหลวงเสด็จไปเยี่ยมประชาชนที่อำเภอสะเมิง จังหวัดเชียงใหม่ ทรงพบว่าชาวบ้านจำนวนมากเป็นโรคคอพอก ซึ่งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทูลว่า มีการเอาเกลือเสริมไอโอดีนมาแจกประจำ แต่ชาวบ้านไม่ยอมใช้ เพราะไม่รู้จักก็กลัวจะเป็นอันตราย ในหลวงจึงรับสั่งให้นำเกลือเสริมไอโอดีนมาแจกประชาชนด้วยพระหัตถ์
ชาวบ้านได้รับเกลือพระราชทาน จึงยอมเชื่อว่าเกลือชนิดนี้กินได้จนแพร่หลายต่อๆมา ปัจจุบันไม่มีคนป่วยโรคคอพอกที่สะเมิงแล้ว นอกจากนี้ยังทรงเสด็จขึ้น-ลงสะเมิงอีกหลายครั้ง เพื่อติดตามแก้ปัญหา เรื่องน้ำและถนน จนชาวบ้านทำกินกันได้เป็นปกติสุข มีรายได้เลี้ยงชีพได้พอเพียง
หากกลับเป็นพระองค์เองที่ทรงพระประชวร!
ในหลวงทรงได้รับเชื้อไมโครพลาสม่าจากการเสด็จไปที่สะเมิงนี้เอง อันเป็นสาเหตุของโรคพระหทัยเต้นผิดปกติเรื้อรังมาถึงปัจจุบัน แม้คณะแพทย์จะพยายามเท่าใด ก็ไม่อาจถวายการรักษาให้หายขาดได้ ทำได้เพียงถวายพระโอสถประคองพระอาการมาตลอดจนกระทั่งต้องทรงรับการผ่าตัดใหญ่ เมื่อปี 2538 ดังเล่ามาแล้ว
ในหลวงเคยมีพระราชกระแสเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า...
"ฉันขึ้น-ลงสะเมิงอยู่หลายปี จนได้รับเชื้อไมโครพลาสม่า ซึ่งในที่สุดทำให้ฉันเป็นโรคหัวใจเต้นไม่ปกติ จนเกือบต้องเสียชีวิต"
เป็นถ้อยรับสั่งที่แสนจะเรียบง่าย ราวกับว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยธรรมดาเสียเหลือเกิน!
อ่านแล้ว...อย่าแค่ผ่านเลยไป ช่วยกันจดกันจำเอาไว้ มีเพื่อนบอกเพื่อน มีครอบครัวขยายต่อให้ทราบทั่วกัน อีกหน่อยมีลูกมีหลาน อย่าลืมเล่าให้พวกเขาฟังด้วยว่า...
"การรักผู้อื่นยิ่งกว่าชีวิตของตนเองนั้น...ยิ่งใหญ่อย่างไรและเพียงไหน"
ทรงพระเจริญ
แหล่งที่มา
http://dek-d.com/board/view.php?id=640059
20 พฤษภาคม 2553 23:56 น.
ปลายตะวัน
ข้อเท็จจริง เกี่ยวกับคำทำนาย ของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ
บทกลอนที่ว่า
.....
ประเทศชาติจะรุ่งเรืองและเฟื่องฟุ้ง
น้ำมันผุดขึ้นมาจนเห็นค่า
พวกกาขาวจะบินรี้หนีเข้ามา
เป็นประชาชนเต็มพระนคร
ชนทั่วโลกจะยกพระองค์ท่าน
ชื่อกระฉ่อนร่อนทั่วทุกสิงขร
ออกพระนามลือชื่อดั่งทินกร
องค์อมรเอกบุรุษแห่งแผ่นดิน
ชาวประชาจะปีติยิ้มสดใส
แต่อกไหม้หนอนกินข้างในสิ้น
จะมีพวกกาฝากคอยกัดกิน
เพื่อให้ได้สิ่งถวิลสมจินตนา
จะมีการต่อตีกันกลางเมือง
ขุนนางเขื่องกังฉินกินทั่วหล้า
คอรัปชั่นจะกัดกร่อนทั้งพารา
ประดุจปลวกกินฝานั้นปะไร
ข้าราชการตงฉินถูกประณาม
สามคนหามสี่คนแห่มาลากไส้
เกิดวิกฤติผิดเพี้ยนโดยทั่วไป
โกลาหลหม่นไหม้ไร้ความดี
ประชาชีจะสับสนเรื่องดีชั่ว
ถ้วนทุกทั่วจะมุดขุดรูหนี
ไม่แน่ใจสิ่งที่ทำนำความดี
เกรงเป็นผีตายตกไปตามกัน
พุทธศาสน์จะถูกรุกและล้ำ
มิตรเคยค้ำเป็นศัตรูมุ่งอาสัญ
เกิดวิกฤติธรรมชาติอุบาทว์ครัน
พายุลั่นน้ำถล่มดินทลาย
แผ่นดินแยกแตกเป็นสองปกครองยาก
เกิดวิบากทุกข์เข็ญระส่ำระสาย
เกิดการปราบจลาจลชนล้มตาย
เลือดเป็นสายน้ำตานองสองแผ่นดิน
ข้าเป็นนายนายเป็นข้าน่าสมเพช
ผู้มีบุญมีเดชจะสูญสิ้น
ทั้งพฤฒาจารย์ลือระบิล
จะร่วงรินดุจใบไม้ต้องสายลม
ความระทมจะถมทับนับเทวศ
ดั่งดวงเนตรมืดบอดสุดขื่นขม
คนที่ดีจะก้มหน้าสุดระทม
ส่วนคนชั่วหัวร่อทำท่าดัง
จะมีหนึ่งนารีขี่ม้าขาว
ควงคทามุ่งสู่ดาวสร้างความหวัง
ผู้ปกครองจะเป็นหญิงพึงระวัง
สายน้ำหลั่งกรากเชี่ยวหวาดเสียวใจ
ศิวิไลซ์จะบังเกิดในสยาม
หลังฝนคร้ามลั่นครืนจะยืนได้
จะเข้าสู่ยุคมหาชนพาไป
เปลี่ยนเมืองใหม่ศักราชแห่งประชา
คนชั่วจะถูกปราบราบคาบสิ้น
แผ่นดินเดือดสูญหายไร้ปัญหา
ประเทศชาติผ่านวิกฤติด้วยศรัทธา
ยามเมื่อฟ้าสีทองผ่องอำไพ
บทกลอนข้างต้นนี้ ไม่ใช่คำทำนายของหลวงพ่อฤๅษีลิงดำ
ซึ่งท่านสามารถหาอ่านได้จากคำชี้แจงของวัดท่าซุงได้ที่
http://www.watthasung.com/wat/viewthread.php?tid=680
หมายเหตุ**
การเปิดกระทู้นี้ ผมไม่ได้มีเจตนาตอบโต้ผู้ใด แต่อยากให้ทุกท่านได้เข้าใจในความจริงที่ถูกต้อง เพราะถ้าหากมีใครนำไปอ้างอิงประกอบกับเรื่องที่ไม่เป็นมงคล อาจจะทำให้ประชาชนสับสน เป็นทุกข์กังวลได้