10 มิถุนายน 2550 22:20 น.
ปลายตะวัน
อยู่ที่ใจ ใช่พระจันทร์ กระนั้นหรือ
รักที่ถือ คือที่ใจ อาลัยหา
แม้นจะหวง ห่วงยอด สุกานดา
ก็มีค่า เพียงเงาจันทร์ เท่านั้นใจ
ก็ตัวจริง ที่ใจ ของใครถือ
ก็คงคือ หัวใจ ของใครไหน
ก็คงเป็น เช่นใจ ของใครใคร
ที่มั่นใน รักนั้น ไม่ผันแปร
โอ้ตัวเรา คงเป็น เช่นกระต่าย
ที่เฝ้าหมาย แม้จันทรา ไม่แยแส
ที่เฝ้าหลง เพียงเงา เขาไม่แล
เพียงชะแง้ ชะเง้อหา ด้วยอาลัย
10 มิถุนายน 2550 18:55 น.
ปลายตะวัน
รักที่ มิอาจรัก
ฤาจะหัก หทัยไหว
หวามหวั่น และพรั่นใน
หฤทัย ระริกรัว
สุดที่ จะรักได้
ก็เพราะใจ มิพร้อมทั่ว
ถ้วนใน หทัยกลัว
มนมัว จะชั่วทราม
ร่ำอัส สุชลริน
บ่มิสิ้น จะไหวหวาม
ร่ำรัก มิพักยาม
บ่ลุตาม มโนปอง
รักได้ มิได้รัก
สิก็หนัก อุราหมอง
แต่นี้ บ่มีมอง
บ่มิต้อง มิเติมใจ
สิ้นรัก มิรักแล้ว
ตะละแก้ว ลุหล่นหาย
รอยร้าว ก็รั้งลาย
หฤทัย ฤาวางลง
อ้างว้าง บ่มีหมาย
บ่ลุวาย สวาทหลง
ลืมรัก บ่ลืมลง
ดุจะจง ทวีคูณ
10 มิถุนายน 2550 10:01 น.
ปลายตะวัน
จะถนอม หัวใจนี้
รอวันที่ อันเหมาะสม
จะปลอบขวัญ อภิรมย์
เพื่อรอชม ความงดงาม
จะกอร์ปก่อ กิจการงาน
จะสร้างสรรค์ ไม่หวั่นหวาม
จะเด็ดเดี่ยว จะเติบตาม
จะโตท่าม กลางผู้คน
จะรักให้ ใจหมดรัก
แจ้งประจักษ์ ไม่สับสน
จะไม่แย้ม รักยินยล
ให้หมองหม่น ฤดีเอย
7 มิถุนายน 2550 12:09 น.
ปลายตะวัน
แม้นเหน็บหนาว ร้าวแสน ฤาแม้นเหมือน
ความรักเลือน ลบไป จากใจเขา
รักเหินห่าง เวิ้งว้าง ข้างในเรา
ให้โศกเศร้า เหงาเพียง เคียงเงาตน
เปรียบรักเช่น เป็นดาว อันพราวแสง
ต่างไขแข่ง แรงสว่าง แตกต่างหนอ
เหมือนดั่งคน แตกต่าง มากเหล่ากอ
ฤาจะท้อ เพียงใคร ไม่ยินยล
ไม่แน่นัก รักนั้น ใครรั้นแฝง
แอบแสดง อยู่ข้างใน ใจสับสน
แม้นจะเงียบ ใช่เงียบร้าง รักอับจน
อาจมีคน สักคน เฝ้ายลยิน
6 มิถุนายน 2550 15:16 น.
ปลายตะวัน
"........."
ทุกห้วง อุราร้าว
มนราว ระด่าวสูญ
ใต้ฟ้า มนาดูร
ตะละกูณฑ์ จะสุมทรวง
ไต้ใต้ ก็ร้อนร้อน
ดุจะฟอน จะฟ่อนสรวง
ใจกาย ก็รายล่วง
ฤาจะถ่วง จะถมจม
ร้อนร้าย ก็ลามฟ้า
พสุธา ถลาถม
กลบกาย ก็ใจตรม
ฤาภิรมย์ ฤาอย่างไร
สนเท่ห์ อุเหม่นัก
ทรลักษณ์ อุบาทว์หมาย
หรือถ้วน มโนใน
มนไร้ มโนธรรม