19 พฤษภาคม 2550 08:45 น.
ปลายตะวัน
คนที่ทำดีในแต่ละครั้ง บุญกุศลก็จะหลอมรวมลงบนเนื้อของจิตคราหนึ่ง
คนที่ทำชั่วในแต่ละครั้ง บาปกรรมก็จะหลอมรวมลงบนเนื้อของจิตอีกคราหนึ่ง
เมื่อทำบุญ มีกุศลมากก็จะทำให้ดวงจิตสดใสคุ้นเคยอยู่ในวิถีธรรม
ตรงกันข้ามกับคนที่ทำชั่วมามากก็จะหมกมุ่นอยู่ในวิถีแห่งอบายภูมิ
เมื่อจิตดับลงจากภพนี้ไปแล้ว ดวงจิตนั้นจะอยู่ในสภาวะที่คล้ายดั่งความฝัน ไม่สามารถควบคุมอะไรได้เลย ดังนั้นจิตจะเคลื่อนคล้อยไปตามวิถีทางที่มันคุ้นเคย
พระพุทธองค์ทรงสอนไว้ว่า ปลูกสิ่งใดได้สิ่งนั้น
ถึงแม้ว่าเวลาเราปลูกถั่วเขียวมันจะได้ถั่วงอกก็ตามเถอะ ถ้าเราใจเย็นรอดูอีกสักนิดก็จะเห็นว่ามันเติบใหญ่เป็นต้นถั่วเขียวอยู่ดี
อย่าหลงเดินทางผิดนะครับ
ถ้าไม่สงสารคนอื่นก็ให้สงสารตัวเอง
19 พฤษภาคม 2550 02:42 น.
ปลายตะวัน
จะลืมรัก จากใจ ใครก็ช่าง
จะลืมชัง จากใคร ใจไม่สน
จะลืมร้าว จากใจ คลายอับจน
บ่ลืมตน พ้นผ่าน จากวารวัน
จงรู้รัก ที่ใจ ให้ใจนี้
จงรู้ที่ วางใจ ไม่ไหวหวั่น
จงรู้ร้าง ลืมแกม แซมร้าวพลัน
จงรู้มั่น ในตน คนรู้จริง
เคยร้าวใจ เพราะใจ ลืมใจนี้
เคยร้าวปรี่ ทรวงใน สิ้นทุกสิ่ง
เคยร้าวล้า รอนใจ ไม่ไหวติง
ไยไม่นิ่ง กับตน คนร้าวรอน
19 พฤษภาคม 2550 01:12 น.
ปลายตะวัน
เลือนแล้ว แววทิวา
พราวดารา มาส่องใส
สุกแสง แฝงความนัยน์
จากดวงใจ สู่สายตา
แสงดาว สะกาวพร่าง
ใจเวิ้งว้าง หว่างเวหา
ห่างรัก หนักอุรา
ผืนแผ่นฟ้า มากั้นเรา
ฟอนไฟ เฝ้าใฝ่ฝัน
สุดแรงรั้น ในวันเหงา
รักแรก ร้างแรมเรา
เพียงขลาดเขลา ให้เศร้าตรม
ไฟรัก ส่องสุมอก
ยังสะทก สะท้านสม
ดอกรัก เพียงเอื้อมดม
ไยโง่งม ไม่ชมเชย
ฝากจิต อฐิษฐาน
สู่วันวาร ขานเฉลย
โลมไล้ ใจเจ้าเอย
ต่างเขนย ขนานเคียง
ตรองตรอม สักเพียงนิด
ความพลาดผิด สิ้นสิทธิ์เสียง
ฤาหวน ไปเรียบเรียง
ให้ผ่านเพียง ใจรับมัน
(เพลงมหัศจรรย์แห่งรัก)
18 พฤษภาคม 2550 12:25 น.
ปลายตะวัน
ทอดเวลา ทอดใจ ชวนให้เหงา
ไม่เหมือนเรา กินกล้วยทอด กรุ่นกลิ่นหอม
อิ่มท้องอิ่ม ประหยัดด้วย ช่วยอดออม
แม้นเหงาล้อม รักร้าง ช่างหัวใจ
*แด่คนที่เงียบเหงา ต้องอิ่มท้องด้วยนะ
เดียวจะไม่มีแรงเหงา
18 พฤษภาคม 2550 04:44 น.
ปลายตะวัน
ไร้เงา เขาก็ช่าง
ที่เคียงข้าง ยังว่างหนอ
รักเรา แค่เราพอ
ไม่เติมต่อ ให้ท้อทน
ที่เพียง เคยเคียงร่าง
แม้นเปล่าว่าง อย่าสับสน
เติมรัก ให้เต็มตน
ให้สุขล้น ให้เพียงพอ
ดารา มาร่ายร่ำ
มาพ้อพร่ำ คำหยอกล้อ
คือเพื่อน คอยถักทอ
คอยเติมต่อ รักเต็มทรวง