21 พฤษภาคม 2550 16:54 น.
ปลายตะวัน
คืองดงาม ในยามเงียบ ด้วยเรียบง่าย
อัตตาคลาย จากห้วง มโนฉัน
บทกวี รินถ้อย ร้อยรำพัน
ให้ใจนั้น รู้ร้างโลภ โกรธหลงลง
คืองดงาม ความรู้ว่าง วางจิตนั้น
วิญญาณอัน เก่งกล้า จนเหลิงหลง
จึงได้คิด พิศคำ ย้ำจิตปลง
จึงว่างลง ลืมร้อนรุ่ม รุมเร้าทรวง
21 พฤษภาคม 2550 11:15 น.
ปลายตะวัน
เป็นธรรมดาที่ในชีวิตหนึ่ง จะทุกข์บ้าง สุขบ้าง
นอกจากความรักที่เราจะต้องทนทุกข์กับมันแล้ว
ใจยังจะต้องทุกข์กับอีกหลายสิ่ง
ไม่กล้าเรียกร้องหาความรักที่สมใจ เพราะคงไม่มีใครที่สมบูรณ์แบบ
ขอเพียงแค่รักที่เพียงพอต่อหัวใจก็พอแล้ว
แม้จะทุกข์ยากลำบากสักเพียงไหน
ขอเพียงใจอย่าลืมใจเท่านั้นพอ
20 พฤษภาคม 2550 22:49 น.
ปลายตะวัน
ทั้งรู้รัก รู้ชอบ กอร์ปตัณหา
แต่อุรา ข้าไย ยังไหวหวาม
ทั้งรู้ควร มิควร ทุกโมงยาม
แต่ยังย่าม ใจล้น รักปรนเปรือ
ทั้งเมียงมอง ปองจิต พิศวาส
ยังหมายมาด ปรารถนา มาเสมอ
เพียงตามอง พ้องจิต พิศรักเธอ
ใฝ่เสนอ ไฟสวาท บาดหัวใจ
ลืมบาปบุญ คุณโทษ ใจโฉดเขลา
หลงมัวเมา เอวบาง มิห่างหาย
เพียงตาต้อง ปองจิต พิษซ่านกาย
ดื่มกระหาย ไฟสวาท จนบาดทรวง
20 พฤษภาคม 2550 22:30 น.
ปลายตะวัน
อย่าอ่อนล้า ล่าฝัน วันสดใส
ห้วงหัวใจ จงมั่น ไม่หวั่นหวาม
จงเอื้อมมือ ไขว่คว้า แม้โมงยาม
อย่าให้ความ ท้อถอย คอยบั่นทอน
19 พฤษภาคม 2550 22:38 น.
ปลายตะวัน
เพียงเพราะรัก สักห้วง ดวงจิตนี้
ประณตที่ ภูมี มไหศูรย์
พระเสโท หลั่งริน สิ้นอาดูร
ขอพระพูน เพิ่มสุข ทุกวารวัน
แม้นพระมี ทุกข์เพียง สักเพียงนิด
ขออุทิศ อุรา ของหม่อมฉัน
เป็นละออง รองบาท ทุกวารวัน
ขอพระนั้น พ้นทุกข์ ทุกค่ำคืน
ขอพระองค์ ทรงมั่น พระชันษา
ทุกทิวา พระล้น ภิรมย์รื่น
ขอพระดล พระสุข ทุกวันคืน
ขอพระฟื้น พระองค์ ทรงพระเจริญ
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ