12 มิถุนายน 2550 01:52 น.
ปลายตะวัน
เคยร่ำรอ พะนอ พ้อเสียงเจ้า
เคยหวนเฝ้า อาลัย ชวนใจหาย
เคยมอบรัก หนักหน่วง ดวงใจชาย
เป็นมั่นหมาย สลักไว้ ในอารมณ์
ต่อแต่นี้ จะไม่รอ พะนอเสียง
สิ้นสำเนียง ไปกับรัก จักเหมาะสม
สิ้นเสียงเจ้า สิ้นเงา รักจ่อมจม
ไม่ภิรมย์ ชมเชย เขนยเคียง
ให้รักจบ ยามพลบค่ำ ดังค่ำนี้
ยามค่ำที่ รักหยุด สิ้นสุดเสียง
ให้คำพลอด มอดวาย ปลายสำเนียง
เหลือก็เพียง ใจเรา ที่เปล่าเปลือย
12 มิถุนายน 2550 01:25 น.
ปลายตะวัน
ว่างเปล่า ใต้เงาจันทร์
คลายสัมพันธ์ อันหวั่นหวาม
จิตตรึง จึงผ่อนตาม
เงาวาบวาม ตามรู้ตน
วูบหนึ่ง ซึ่งรักเจ้า
จนโศกเศร้า เขลาสับสน
ด้วยรัก เจือใจปน
จึงหมองหม่น ร้อนรนทรวง
อารมณ์ เป็นเช่นเงา
คอยทาบเทา เศร้าหม่นสรวง
จึงวาง ว่างทั้งปวง
คลายหนักหน่วง จากบ่วงใจ
แต่นี้ จะหยุดนิ่ง
วางทุกสิ่ง สิ้นหวั่นไหว
รักพราก หมดจากใจ
หมดสิ้นใน ใครบางคน
รักได้ ก็ร้างได้
รู้วางใจ ไม่สับสน
ว่างไว้ ในใจตน
ไม่หมองหม่น ร้อนรนทรวง
11 มิถุนายน 2550 21:10 น.
ปลายตะวัน
ที่รักจ๋า รู้ไหม ใจมันเหงา
ใจมันเศร้า กับเงา ชวนเหงาหงอย
รักหรือลวง หลอกใจ ให้หลงคอย
ตะวันคล้อย ลาลับ กับใจนาง
ที่รักจ๋า ใจพี่ นี้คิดถึง
เฝ้าคำนึง หาเจ้า จวบเช้าสาง
เฝ้าละเมอ เพ้อหา เจียนวายวาง
ฤาเจ้าร้าง ลืมได้ แม้ใจคน
10 มิถุนายน 2550 22:20 น.
ปลายตะวัน
อยู่ที่ใจ ใช่พระจันทร์ กระนั้นหรือ
รักที่ถือ คือที่ใจ อาลัยหา
แม้นจะหวง ห่วงยอด สุกานดา
ก็มีค่า เพียงเงาจันทร์ เท่านั้นใจ
ก็ตัวจริง ที่ใจ ของใครถือ
ก็คงคือ หัวใจ ของใครไหน
ก็คงเป็น เช่นใจ ของใครใคร
ที่มั่นใน รักนั้น ไม่ผันแปร
โอ้ตัวเรา คงเป็น เช่นกระต่าย
ที่เฝ้าหมาย แม้จันทรา ไม่แยแส
ที่เฝ้าหลง เพียงเงา เขาไม่แล
เพียงชะแง้ ชะเง้อหา ด้วยอาลัย
10 มิถุนายน 2550 18:55 น.
ปลายตะวัน
รักที่ มิอาจรัก
ฤาจะหัก หทัยไหว
หวามหวั่น และพรั่นใน
หฤทัย ระริกรัว
สุดที่ จะรักได้
ก็เพราะใจ มิพร้อมทั่ว
ถ้วนใน หทัยกลัว
มนมัว จะชั่วทราม
ร่ำอัส สุชลริน
บ่มิสิ้น จะไหวหวาม
ร่ำรัก มิพักยาม
บ่ลุตาม มโนปอง
รักได้ มิได้รัก
สิก็หนัก อุราหมอง
แต่นี้ บ่มีมอง
บ่มิต้อง มิเติมใจ
สิ้นรัก มิรักแล้ว
ตะละแก้ว ลุหล่นหาย
รอยร้าว ก็รั้งลาย
หฤทัย ฤาวางลง
อ้างว้าง บ่มีหมาย
บ่ลุวาย สวาทหลง
ลืมรัก บ่ลืมลง
ดุจะจง ทวีคูณ