12 ตุลาคม 2545 18:52 น.

สื่อจากเรื่องจริง ..((กระแทกแรงสังคมปัจจุบัน))

ปลาทูสามเข่ง


      สื่อจากเรื่องจริง ..           
            อาร์ร้องไห้ ..เพราะเธอพึ่งผิดหวังในชีวิต เธอทรุดกายนอนราบกับพื้น .. มันเป็นเรื่องผิดหวังที่ไม่เข้าท่า คนนับร้อยไม่เข้าใจเธอ ..กับแค่เธอพยายามจะทำดี แต่สิ่งที่เธอพยายามทุกครั้ง คว้าน้ำเหลวตลอด เธอ ..ช่วยชีวิตเด็กชายคนหนึ่ง ใช่ .!!..แล้วเด็กคนนั่น มันก็ดันเข้าใจผิดนึกว่าเธอผลักเค้าตกน้ำ ..เหอะ .. เธอก็ยังยิ้ม ..แต่เธอไม่ใช่คนดีหนักหรอกนะ 
                    
                "..เพียงแต่คุณมองเธอผ่าน ๆ ..และก็ฟังเรื่องของเธอมาจากคนอื่น ...โดย โดย ..โดยไม่เห็นภาพขึ้นจริง ก็เหมือนที่ครูสอนนั่นแหละ ..อย่ามองคนแค่เดินผ่าน อย่ารู้เรื่องเค้าจากปากมารของคนอื่น ..ดูด้วยตา คิดด้วยใจ.."
               
           ..และนี้มันก็ทำให้เธอ ..ต้องไปคนเดียว เดินคนเดียว  ยิ้มคนเดียวหัวเราะคนเดียว ฟังคนเดียว ..คุยคนเดียว เหมือน ' คนบ้า ' ก็น่าจะใช่ แล้วแต่คุณจะคิด  ...เรื่องเล่าเธอ ยังไม่จบนะ ...ยังมีอีกหลายแบบหลายสไตส์ ให้ขำกันเล่น .. มีเรื่องหนึ่งที่เธอ ...อยากจะเปรียบเทียบและถ่ายทอดด้วยใจว่า

                 " คนเราที่ดังๆ ..มีละคร ดีเด่น แสดงดี ..ได้รับบทดี กับคนหนึ่งนะ ..ที่เค้าก็แสดงได้ดีมากๆมีผลงานละคร ..ที่ดีๆ แต่เธอได้รับบทเป็นตัวไม่เด่น แต่ก็เป็นตัวสำคัญ ที่ให้กำเนิดเรื่องขึ้น ...เปรียบกับคนสองคนที่แสดงมีคนนึง  เค้าหน้าตาดี และเด่น ดัง ...แต่การแสดงแย่ ..แต่ไม่ถึงกับแย่มากๆ..ถ้ามีสี่ระดับ ดีมาก ดีพอใช้ แก้ไข เค้าอยู่ในขั้น ดี ..แต่ถ้าเทียบอีกคนแล้วเค้าแสดงได้สุดยอด..!! ทำทุกอย่าง ดีมากๆ หน้าตาไม่ดี ไม่เด่น"
    
      ..................แต่พวกเราก็ยังจะเลือกคนที่หน้าตาดีเสมอ..........................

และนิยม คนที่ดังคนที่มีละครหลายเรื่อง เป็นที่ยิยมกันมาก คำให้เรานิยมตาม....
        
           ..............................เห็นช้างขี้ ขี้ตามช้าง...................................

 ......" แม้คนสติที่ไม่ดี ต้องอยู่โรงพยาบาลบ้า ...ก็ยังมีน้ำใจมากกว่าคนสติดี ....." 

 ...."ซึ่งเรื่องราวนี้ มันทำให้ใครหลายคนที่เค้าพยายาม ต้องน้อยใจเหมือนอาร์"
                       
                          " ...ไม่มีใครเข้าใจเธอเลย ....ไม่มีเลย...."

    ......"เข้าใจผิด ไม่ยอมคิด ....ไม่เอาเหตุผลมาเป็นใหญ่ แม้แต่น้อย ......."
                    
...." ไม่ยอมรับตัวเอง เห็นสิ่งไหนนิยม ก็นิยมตาม ตามกัน ....ทั้งที่มีอีกหลายคน"

                              ++++++ ที่เค้าพยายาม ++++++

       **** ฟังเทศน์ฟังธรรมทุกเดือน ก็จะดี ...				
10 ตุลาคม 2545 17:51 น.

มิตรภาพ #6 ตอน เหล่าขุนพล กับเหล่าเทพ

ปลาทูสามเข่ง

มิตรภาพ #6 ตอน เหล่าขุนพล กับเหล่าเทพ         

     หลังจากนั่นไม่นาน เทพสีแดงก็ล่องหายไป เพื่อไปดักรอพร้อมเหล่าเทพทั้งหลาย หวังให้ขุนพลทั้ง 5หลงมาติดกับ .. ซึ่งเป็นคู่ต่อสู้ที่ ....ร้ายมาก  ..
      ทางด้าน ฟางกับ ต้นหญ้า ..
            "ฟางครับ ดูแผนที่หน่อยสิ ว่าต่อไปจะเลี้ยวไปทางไหน" ต้นหญ้าพูดขึ้น เพราะทั้งสองกำลังยืนอยู่หน้าทางแยกสองทาง .. "อะ..เออ..เดี๋ยวนะจ๊ะ.." ฟางพูดขึ้น ขณะเธอกำลังคว้านหาแอ็ปเปิ้ลสีทอง ..." เดี๋ยว...จ๊ะ ...แป๊บนึง" เธอกำลังคว้านหาจะหนักขึ้น เพราะเธอหาแอ็ปเปิ้ลสีทองไม่เจอ "ตายละ...ฉันลืม ...แอ็ปเปิ้ลสีทองไว้..!!!" ฟางตระโกนขึ้นด้วยความตกใจ ขณะที่เธอหาทั่วกระเป๋าแล้ว ปรากฎว่า ไม่มี..!! ทางต้นหญ้าเมื่อได้ยินแล้วก็ตกใจเช่นกัน "หะ..!! บ้าน่ะ...คุณพกมันติดกระเป๋าตลอดนิ !!" ต้นหญ้าพูดคล้าย ว่า+ตระโกนใส่ฟางก็ว่าได้ "อะ..เออ...ต้นจ๊ะ..ใจเย็นๆ..คือเรา ..ขอโทษนะ.." ฟางพูดปลอบต้นหญ้า แต่ใจของฟางก็ชักกลัวต้นหญ้า ..ต้นหญ้าเพิ่งรู้สึกตัว เค้าลืมตัวไป และก็หันกลับขอโทษฟาง และทั้งสองก็ตกลงกันว่าจะไป ที่เดิม ...
      ทางด้านปราสาท ของชายในผ้าคลุม
               ชายผ้าคลุมรู้สึกตัว เค้าใจเต้นแรง และรัวมาก ...อาจเป็นว่าเค้ากำลังวิตกกังวลกับเรื่องเทพ กับขุนพลอยู่ เค้ารู้สึกเหนื่อยและอยากนอนมากๆๆ แต่ใจของเค้ามันดันบังคับไม่ให้เค้านอนซะนี่ ... ชายในผ้าคลุม เค้าเดินไปที่หน้ากระจก ..และถอดผ้าคลุมออก ...ภาพในกระจก ..เป็นภาพชายหนุ่มประมาณ วัย 18 หัวเราะเริงร่า ยิ้ม มีหญิงน้อยๆ อายุรุ่นราวคราวเดียวกันเดินข้างๆกาย เธอสวยมากเลย ...เป็นหน้าตาที่ชายต่างหมายปองก็ว่าได้ ...ทั้งสอง เดินด้วยกัน หัวเราะด้วยกัน ยิ้มให้กัน.....------------ "บัดซบ...!!!!!!!" ชายในผ้าคลุมตระโกนลั่นพร้อมหยิบรูปปั้นขนาดเล็กปาใส่กระจก .. เค้าก้มหน้าพร้อม ค่อยๆนำมือทั้งสอง มาจับบนใบหน้า ไล่ตั้งแต่นิ้วชี้ รู้สึกว่า น้ำตาได้เอ่อหยดลงมาไหลแอบแก้มเค้าแล้ว เค้ารู้ตัวอีกที ก็ทรุดลงไปนอนกับพื้นอีกครั้ง ..ยังมีเรื่องลึกลับอีกมากมาย ที่เข้ามาพัวพันกับชายหนุ่มน้อยในผ้าคลุม ...ทั้งที่ภาพในกระจก มันแต่งเติมด้วยรอยยิ้ม แต่ในความจริงมันช่างแตกต่างกันจริงๆ  .... เค้านอนราบกับพื้น ไม่คิดจะลุกขึ้น ไม่คิดจะเดินหน้า ...กว่าจะมีใครมาฉุดเค้าให้ลุกขึ้นอีกครั้ง.....
           ทางด้านฟาง และต้นหญ้า ซึ่งเดินทางกลับไปที่พักที่เดิม เพราะทั้งสองลืมแอ็ปเปิ้ลสีทอง
            "ไอ ..ทางนั่นมันไปทางไหนนะ..!!" ต้นหญ้าบ่นพร้อมกับเดินหาไปเรื่อยๆ..
"เรา..หลงทาง" ฟางซึ่งไม่เคยให้กำลังใจต้นหญ้าเลย และกลับมาซ้ำเติมอีก ซึ่งทำให้ต้นหญ้ากดดันยิ่งขึ้น "...เรา..หลงทางแน่ๆๆ.."ฟางซ้ำเติมขึ้นอีกครั้ง "ฟาง...คุณน่ะ..ไม่รู้อะไร อย่าพูดเลยครับ อย่าตรอกย้ำผม อย่าทำให้ผมกดดันไปกว่านี้!!" ต้นหญ้าตระหวาดใส่ ...ฟางซึ่งพึ่งรู้ตัวว่าตัวเองทำผิดไปก็ขอโทษต้นหญ้า ..อาจจะเป็นเพราะเธอกลัว กับการเดินทางที่เธอไปเคยไปไหนคนเดียว ใจเธอเลยอ่อนแอไม่กล้าที่จะเผชิญหน้ากับสิ่งรอบๆตัวก็ว่าได้.. "ในตอนนี้เราอาจจะไม่มีประโยชน์สำหรับต้นหญ้าเลย ในการเดินทางนี้เราอาจจะเป็นตัวถ่วง" ฟางคิด เธอยังคงเดินตามต้นหญ้าไปเรื่อยๆ จนกว่าจะไปเจอแอ็ปเปิ้ลสีทอง  "หยุด..!!!!" ต้นหญ้าหยุดกะทันหันเค้าตระโกน เพราะดูเหมือนจะมีกลุ่มคนยืนอยู่ข้างหน้า ..."ใครฮะ..." ต้นหญ้าตระโกนไปทางที่ชายพวกนั่นยืนอยู่ "เออ..เราว่านะจ๊ะ เดินไปหาเค้าเลยดีไหม ?" ฟางถามต้นหญ้า ต้นหญ้าเมื่อได้ยินคำคิดเห็นของฟาง ก็คิดหนัก สักพักเค้าก็ตอบฟางว่า "ผมว่าอย่าเดินครับ มันอันตราย" แต่ดูท่าทางฟางจะไม่เชื่อ เธอไม่อยากเป็นตัวถ่วงใคร เธอวิ่งไปทางชายพวกนั่น มันทำให้ต้นหญ้าตกใจ และตระโกนเรียกฟางให้กลับมาพร้อมวิ่งตาม "ฟางฮะ...! รอก่อน..ๆ..แค่กๆ.." ต้นหญ้าตระโกนเรียก แต่ไม่ทันซะแล้วละ ฟางไปหยุดยืนตรงหน้ากลุ่มชายพวกนั่น ดูเหมือนจะมีด้วยกัน 5 คนสวมผ้าคลุมทั้งหมด เป็นสีๆ สีต่างๆของแอ็ปเปิ้ล ...พวกเค้าทั้ง 5 เดินมาใกล้ฟางและต้นหญ้ามากขึ้น...มากขึ้น..  "ช้าก่อน ขุนพล..!!" ดูเหมือนมีใครคนหนึ่ง พูดขึ้น ...ฟางหันหน้าไปทางเสียงนั่น ..เค้าคือเทพพิทักษ์อีก 2 คนที่เดินทางมาถึงแล้ว ...เทพสีดำ...เทพสีเงิน ...ซึ่งคนที่พูดคือเทพสีดำ น้ำเสียงเค้าอ่อนหวานละมุนมาก..ชุดที่เค้าใส่สีดำมืดมิด แต่แววตาไม่ได้มืดไปด้วย แววตาเค้าเปงประกายแวววาว เค้าใส่เสื้อเกราะสีดำ ..มีหินเล็ก ...ล้อมตัวเค้า ..ใช่นั่นมันรัศมี ..ซึ่งมันทำให้คนอยู่ข้างกายเค้า..เคลิ้มตามเลย ...เทพสีเงิน ...ผิวพรรณสีเงินทั่งร่าง ใส่ชุด..สีเงินประกาย ...มีดาวดวง น้อยๆ..ลอยเคียงข้างอยู่หนึ่งดวง และนั่นมันคู่หูของเค้าเอง ..รัศมีของเค้าคนนี้ไม่เหมือนใครมันเป็นรัศมีที่อ่อนโยนก็จริง แต่ก็แฝงความเชื่อมั่น ...ใครได้อยู่ใกล้เค้าแล้วละก็ ....จะรู้สึกเยี่ยมเลย..!! ซึ่งฟางผู้อยู่ใกล้เทพทั้งสองนั่น เหมือนไม่ได้สติเลยละ เธอดูมีความสูขมาก...มากๆ ... "ขุนพล..อาร์ ..เด็กพวกนี้ไม่เกี่ยวอะไรด้วย ...เจ้าอย่าทำร้ายเค้าเลย" เทพสีดำเอ่ยขึ้น ...ซึ่งหนึ่งในขุนพลคนหนึ่งเดินออกมา ...ถอดผ้าคลุมสีดำออก ...เผยใบหน้าที่งดงาม ต้นหญ้าซึ่งยืนตกตะลึงอยู่นั่นคิดในใจว่า "พวกร้ายๆ นี่มีแต่หน้าตาดีกันแฮะ" และความคิดนั่นก็ต้องหายไปกะทันหัน ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเมื่อขุนพลสีดำหันหน้ามาทางต้นหญ้า เค้าสแหยะยิ้ม พร้อมกับกลืนอะไรบางอย่าง เค้ามองต้นหญ้าและพูดด้วยน้ำเสียงยินดีและขอบใจว่า "ความคิดเจ้า....อร่อยมาก.." 
                              ติดตามชมตอนต่อไป ...
มิตรภาพ #7 ตอน ..ศึก ..5 เทพ
- จะรู้เรื่องลึกลับมากขึ้น เนื้อหาอาจจะเข้มข้นขึ้น ..
- ศึก ขุนพลทั้ง 5 VS เทพพิทักษ์ทั้ง 5 
- ชายในผ้าคลุมได้เดินทางไปถึง ..ณ จุดหมายกำหนดของแผนที่เรียบร้อยแล้ว ...				
9 ตุลาคม 2545 15:22 น.

มิตรภาพ #5 ตอน ชายในผ้าคลุม

ปลาทูสามเข่ง

มิตรภาพ #5 ตอน ชายในผ้าคลุม
       
        เทพมองฟางเด็กน้อยด้วยความเอ็นดูแล้วก็ยิ้ม...พร้อมพูดขึ้นว่า "เค้าคนนั่นก็คือคนที่จะมาเอาแอ็ปเปิ้ลสีต่างๆไปครอบครอง..ใครได้ครอบครองแอ็ปเปิ้ลทั้งห้า คนผู้นั่นก้จะยิ่งใหญ่มากเลยละ...ถ้าถามว่าเค้าคนนั่นคือใครฉันก็ตอบได้เลยว่า..เค้าคนนั่นก็ชื่อ "ชายในผ้าคลุม"
       หลังจากที่เทพบอกลาฟางแล้ว ฟางก็ได้ไปปลุกต้นหญ้าซึ่งนอนหลับไม่ยอมลุกซักที..ฟางทั้งเรียก ทั้งตี แต่เจ้าหนูน้อยก็ไม่ยอมตื่น ฟางจึงไปทานอาหารที่หามาเมื่อคืน..และคิดไปเรื่อยว่า .."เราจะรอดไหมเราจะกลับบ้านได้รึเปล่า เราจะสู้ได้ต่อไปไหม เราจะต้องเจ็บช้ำรึเปล่า " นี่เป็นคำถามที่อยู่ในใจเด็กหญิงน้อยที่ต้องการคำตอบ อย่างมีเหตุผล เธอยังไม่รู้เลยว่าจะทำอย่างไรต่อไป ได้แต่เดินตามแผนที่..แต่อย่างน้อยเธอก็ยังมีเพื่อนสนิท ที่พร้อมจะร่วมเป็นร่วมตายกับเธอ ...ฟางคิดขึ้นพร้อมมองไปทางต้นหญ้า ซึ่งนอนละเมอ..ฟางยิ้มและก็ทานข้าวต่อไป
       และในวันนั่นหลังฟางทานข้าวเสร็จต้นหญ้าก็ตื่นขึ้นมาพอดี...อละก็โกรธฟางที่ไม่ยอมปลุกเค้า ฟางได้แต่หัวเราะ และเล่าว่าปลุกแล้วแต่ไม่ตื่นเองนิ ... ทั้งสองได้เล่นและหัวเราะกัน จนสาย และก็เตรียมการที่จะเดินทางต่อไป...
      ...ทางด้านปราสาท ของชายในผ้าคลุม...
                   " มัน...มัน..ไอ้เทพพิทักษ์..!! " ชายในผ้าคลุมตระโกนลั่น ดังทั่วปราสาท ซึ่งทำให้ทหารของเค้าต่างหวาดกลัว "ไอเทพ...!! มันขัดขวางข้า..พวกทหาร !!!" ชายในผ้าคลุมตระโกนต่อ พร้อมเรียกทหารมา ซึ่งทหารพวกนี้ก็ไม่ค่อยจะกล้าเข้าใกล้เค้าเลย แต่เป็นลูกน้องนิ ต้องทำใจ " มีอะไร..ครับท่านชาย" ทหารคนหนึ่งพูดขึ้น ท่าทีเค้าพูดออกไปไม่เต็มปาก..หรือเพราะว่ากลัว..? " ไปเรียกไอขุนพลมาสิ " ชายในผ้าคลุมพูดกับทหาร "ท่านเล่น ขุนพลเลยรึ มันมากไปรึปล่าครับ ท่าน..!!" ทหารในแถวคนหนึ่งตระโกนขึ้นถามชายในผ้าคลุมชายในผ้าคลุมส่งสายตา และก็ตระหวาดพร้อมยกมือ ไปชี้ที่ทหารคนที่พูดขึ้น "พูดมาก...!!!" ไม่นานทหารคนนั่นก็เป็นเศษผง ...ทหารที่อยู่ข้างตัวสั่นกันเป็นแถวๆ ชายในผ้าคลุมเห็นและยิ้มเยอะเย้ย และพูดขึ้นว่า"พวกเจ้า เป็นถึงมารที่เกิดมาจากความเกลียดชัง แต่ทำไมเรื่องแค่นี้ถึงกลัวได้ละ หะ..!! ข้าบอกให้พวกแกไปเรียกไอขุนพลมา..!!!! ยังมาย้อนข้าอีก พวกนี้ต้องเจอดี ...." ชายในผ้าคลุมพูดและ ตระหวาดให้ทหารไปเรียกทหารทุกคนที่ฟังคำพูดของชายในผ้าคลุม ต่างกล้าขึ้น "จริงสิ พวกเราเป็นมาร ไม่ใช่เหรอ ? น่าสมเพศที่พวกเรากลัวตัวสั่นขนาดนี้ ... ได้เลยท่าน เดี๋ยวข้าไปเรียกมาเอง" ทหารคนหนึ่งรู้สึกตัว และพูดขึ้น พร้อมเดินไปเรียกขุนพล ชายในผ้าคลุมยิ้มเหยอะ อย่างภูมิใจ และจึงไล่ทหารที่เหลือออกไป...สักพักได้มีชายรูปร่างผอม 5 คน สวมผ้าคลุมเหมือนกัน แต่เป็นผ้าคลุมสีแดงสด สีดำ สีทอง สีเงินและสีเขียว เดินเข้ามา ..มุ่งมาหาชายในผ้าคลุม และคุกเขาพูดว่า "ท่าน...จะให้พวกข้าไปแห่งใดอีกละ..?" หนึ่งในขุนพลพูดขึ้น ชายในผ้าคลุมยิ้มและพูดว่า "ข้าอยากให้พวกแก ไปขัดขวางไอเด็กสองตัว ซึ่งมันจะเดินตามแผนที่ไปหาสิ่งหนึ่ง ซึ่งสิ่งนั่นข้าก็ไม่รู้ว่าเป็นอะไร แต่ข้าอยากให้พวกเจ้าเดินทางไปขัดขวาง ชะลอการเดินทาง ส่วนข้าจะไปจุดที่สิ่งนั่นอยู่ ข้าจะได้ครอบครอง" ชายในผ้าคลุมพูดขึ้น ขุนพลทั้งห้า ตอบรับและเดินจากไปทำหน้าที่ ส่วนชายในผ้าคลุมก็พูดขึ้นว่า.." อีกไม่นานเกินรอ ลูกแก้วในตำนาน...ก็คงไม่ไกล 55-----------"  "ใครว่าละ..." รู้สึกว่ามีใครคนหนึ่งมาขัดจังหวะการหัวเราะของชายในผ้าคลุม คนคนนั่นก็คือ เทพพิทักษ์แอ็ปเปิ้ลสีแดง ลักษณะของเค้า จะมีดาบไว้เคียงกาย และมีรัศมี สีแดงล้อมรอบอยู่ เค้าสง่ามากเลยทีเดียว ชายในผ้าคลุมเห็นดังนั่นจึงพูดด้วยความตกใจว่า "เจ้า...เจ้าออกมาได้ไง ข้าให้ทหาร ส่งวิญญาณกักขังในกล่องมืด แล้วนิ.!!" เทพสีแดง ยิ้ม และพูดว่า " ของแค่นั่น...มันไม่ได้ทำให้ข้า กำลังน้อยลงเลย ..เจ้ารู้ไหม ? ตอนนี้เพื่อนๆ เหล่าเทพของพวกข้า ต่างไปสกัดเหล่าขุนพลของเจ้าแล้ว ห้าขุนพล กับห้าเหล่าเทพ ...สีต่อสี กำลังต่อกำลัง ใครกันจะพิชิตได้" เทพสีแดงยิ้ม รอยยิ้มนั่นมันทำให้ ชายในผ้าคลุมกลัวนิดๆ ไม่มีใครรู้หรอก ว่าจิตใจของชายในผ้าคลุมอ่อนแอแค่ไหน... ไม่มีใครรู้เลย มีแต่ต่างกันหวาดกลัว ทั้งๆที่ชายคนนี้..เค้าเคยทำความดีไว้มาก พอสมควร แต่ว่ากลับไม่มีใครสนใจ ...ไม่มีใครจะพูดด้วย...แม้แต่น้อย ชายในผ้าคลุม เริ่มตัวสั่น เค้ารู้ตัวดีว่าเค้าแพ้รัศมีอ่อนโยน ของเหล่าเทพแอ็ปเปิ้ล เค้าจะซุดทุกครั้งเมื่อเทพทั้ง 5 เค้าใกล้ เทพสีแดงมองเห็น แล้วก็ยิ้มอย่างเอ็นดู และพูดกับชายในผ้าคลุมว่า " เจ้าน่ะ...ยังมีเวลานะ ในการกลับตัว รู้ไหม ยังมีเทพธิดาองศ์น้อยๆ รอเจ้าอยู่เสมอ ...เธอห่วงและรักเจ้ามากนะ เทพวา..--------------" "หยุดพูด..!!!! " ชายในผ้าคลุมตระหวาดใส่ พร้อมทรุดตัวเข้าไปดิ้นกับพื้น เหมือนครั้งที่เจอเทพสีทอง "เจ้า..ไม่รู้หรอก ว...ว่า..ความเจ็บปวดมัน มันมากแค่ไหน ข้าตองทนกับมัน ข้า...-----" รู้สึกเหมือนเทพสีแดงจะ ทำให้ชายในผ้าคลุมสงบ ..เค้านั่งลงเคียงข้างร่างของชายในผ้าคลุมและพูดขึ้นว่า ...เจ้าน่ะ..ไม่รู้หรอกนะ ..ว่ายังมีเธอคอยเจ้าอยู่ ...เฝ้ารอเจ้า ...จนเธอต้องสิ้นลมหายใจ.. ซึ่งเธอ..ก็เป็นส่วนหนึ่ง...ที่ทำให้เจ้าเป็นอย่างนี้ .....เจ้าน่าจะกลับตัวนะ ...  เพราะยังมีเทพธิดาอีกคน ..ที่รักและห่วงหาเจ้ามาตลอด ...นะเทพวารี .....
                                     ติดตามชมตอนต่อไป
ตอนต่อไปคือ ...เหล่าขุนพล กับเหล่าเทพ				
5 ตุลาคม 2545 19:22 น.

เรื่องราวของหญิง..ที่รอคอยความยุติธรรม

ปลาทูสามเข่ง

ตั้งแต่ที่ฉันจำความได้..ฉันรู้ว่าพ่อกับแม่ได้หย่ากัน.. ชีวิตในอดีตฉันต้องดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด เก็บแม้กระทั่งกระดูกที่หมาแทะเสร็จ นำมาทานต่อ โดยไม่คำนึงเลย ว่าต่อไปร่างกายจะเป็นยังไง ฉันคำนึงถึงความอยู่รอดเท่านั่น.... และในปัจจุบันนี้..ฉันก็ยังเป็นอยู่..และฉันก็เป็นโรคมะเร็ง ซึ่งคงจะอยู่ได้ไม่ได้นาน ฉันเคยคิดว่าน่าจะตายๆ ไปซะ ถ้าเราอยู่โลกนี้อยู่ก็ไร้ความหมาย..นี้เป็นคำพูดที่เชยก็ว่าได้ แต่ในจิตใจฉันตอนนี้...ฉันไม่สามารถจะยิ้ม จะมีความสูขได้.. ไม่มีดวงที่จะเป็นคนธรรมดา...แม้ฉันคิดจะสู้ครั้งไหน แต่ครั้งนั่นก็ "ว่างเปล่า" อยู่ดี..ฉันเคยนั่งดูดาว..เห็นดาวตก เค้าบอกกันว่าให้อธินฐาน ว่าอยากได้อะไร สิ่งที่ฉันต้องการ  มันก็คงจะเป็น...

                               "ความยุติธรรม"

              ฉันไม่รู้เลยว่า ทำไมความยุติธรรมนี้ ฟ้าถึงไม่มาแบ่งฉันบ้าง ฉันเคยผ่านเห็นโทรทัศน์เปิดอยู่และนั่งดูก็เห็นว่า ...จะสบายได้นั่นต้องอดทน   ซึ่งมันเป็นคำพูดที่ทำให้ฉัน ยืนยัดสู้ต่อไป ฉันหางาน ทำทุกอย่างเพื่อได้เงินมาจุนเจือ แต่..ทุกครั้งที่ฉันจะไปหาที่นอนแถวๆ ขยะ..ก็จะมีพวกจิ๋กโก๋ มากจี้เอาเงินฉัน แถมซ้ำร้ายก็ลงมือข่มขื่นฉันด้วย ไม่รู้เลยนะ ว่าโลกเรานี้ โหดร้ายอย่างนี้ เพื่อนมนุษย์อาศัยในโลกเดียวกันแท้ๆ แต่ช่างทารุณกันซะเหลือเกิน..ไม่รู้เลย ว่าวันไหนจะทำให้ฉัน มีความสูขได้บ้าง   ....ชีวิตของฉัน อย่าถามถึง มันร้ายแรง มันทุเรศเลย......  .. แต่ก็อยากจะให้รู้หน่อยว่า..ฉันเกิดมาเพราะ มีผู้ชายคนนึงข่มขื่นแม่ฉัน และเกิดฉันขึ้นมา ทั้งสองสามีภรรยา "อย่า" กัน..  ฉันได้อยู่กับแม่..ตอนที่พ่อแม่ฉันอย่านั่นฉันอายุ ได้ 1 ขวบพอดีเลย มันเป็นวันเกิดฉันด้วยนะ..!! แต่วันอย่างนั่น ไม่นึกเลยว่า จะมีเหตุการณ์แบบนี้... ฉันนึกสมเพศ และเกลียดตัวเองจริงๆ หลังจากนั่นได้ไม่นานแม่ฉันก็ทิ้งฉันใต้สระพาน เพราะแม่ฉันเป็นเอดส์นี่เอง ไม่มีเงินเลี้ยงดูฉัน แต่ฉันก็คิดเสมอเลยนะ ซักวัน แม่ต้องมารับฉันใต้สระพาน แต่ว่า..ก็ไม่มา ตอนนั่นที่แม่ทิ้งฉัน ฉันอายุได้ 3 ขวบแน๊ะ..!! ถือว่าโตแล้วนะ .. แต่หลังจากที่แม่ทิ้งฉัน 3 วันละมั้ง (ตอนที่อยู่ใต้สระพานนะ มีคนเก็บของเก่ามาเอาอาหารให้ฉันกิน) ก็ดูชีวิตฉันไม่ได้เลวร้ายเพียงอย่างเดียว เพราะมีผู้หญิงคนหนึ่งมารับฉันเลี้ยงไปนะ รู้ไหม ??!! เค้าเยี่ยมมากๆเลยหล่ะ..!! ตอนนั่นฉันปลื้มมากๆๆ เลยถึงยังไงฟ้าก็ยุติธรรมกับฉันบ้าง ผู้หญิงคนนั่นเลี้ยงดูฉันดีมากๆๆเลยละ เค้าซื้อเสื้อ..ซื้อ..อะไรหลายๆอย่างให้ฉัน..!! ฉันไม่รู้หรอกว่าเค้าเป็นใคร แต่ความสงจำของฉันในตอนเด็กๆนะ ดีทีเดียวฉันก็ยังจำได้เลย ว่ามีอะไรผ่านมาในชีวิตฉันบ้าง.. ..แต่ ...หลังจากที่ผู้หญิงคนนั่นเลี้ยงฉันได้.. 5 วัน เค้าก็ต้องทิ้งฉันอีก เพราะว่าเค้าต้องไปอยู่โรงพยาบาลบ้าละ เค้านะสติไม่ดี แท้งเด็ก และเสียใจมากๆๆ เค้าเฝ้าแต่อุ้มตุ๊กตา จนเค้ามาเจอฉันเลยรับไปเลี้ยง ..ฉันไม่เสียใจ..เลยนะ..ที่เค้าสติไม่ดี แต่ฉันดีใจต่างหากที่อย่างน้อยคนสติไม่ดี ก็ยังมีน้ำใจกว่าสิ่งมีชีวิตที่สติดี วันดีดีของฉันก็คงมีได้แค่ 5 วันนี้หล่ะ เพราะหลังจากผู้หญิงคนนั่นไปอยู่โรงพยาบาลบ้าแล้ว แม่ของเค้าก็มาทิ้งฉันที่ใต้สะพานเหมือนเดิม..ชีวิตฉัน อาจจะคล้ายนิยายน้ำเน่าก็จริงอยู่ แต่ฉันก็ชินแล้วหล่ะ..!! ถึงแม้จะน้อยใจในชะตาชีวิตบ้าง แต่อย่างน้อย..ฉันก็ยังค้นหาว่า ความยุติธรรมนี้...จะมีบ้างไหม ?
                  หลังจากนั่น อย่าพูดถึงชีวิต ในระยะนั่นเลวดีกว่ามันร้ายมากๆๆๆๆ จนฉันไม่รู้เลยว่า มันเป็นโลกที่ฉันอาศัยอยู่จริงๆหรือเปล่า ฉันอ่านไม่ออกหรอก เขียนก็ไม่ได้ละ แหมม..ก็ฉันถูกทิ้งตั้งแต่ 3 ขวบนิ แต่อย่างน้อยฉันก็พูดได้นะ ยังพอพูกภาษาหมาได้เลย ก็ฉันฟังมันเห่าทุกวันนิ (หัวเราะ) ที่ฉันพูดได้เพราะเดินตามผู้ใหญ่ ได้ยินเค้าพูดๆกัน ฉันก็พูดตาม ไม่มีใครสนใจฉันหรอก เรื่องอาหารนะ ไม่ต้องพูดถึงเลย ฉันเก็บตามถังขยะ..ไม่รู้หรอกนะว่ามันมีประโยชน์อะไรบ้าง กินได้ไหม เห็นอะไรก็กินไปหมดละ บางครั้งติดคอแทบหายใจไม่ออก เกือบไม่ได้ดูโลกอันเลวร้ายต่อไป แต่ดีมีคนช่วยไว้ก่อน ...(ยิ้ม) ฉันน่ะ ถูกข่มขื่นมานับไม่ถ้วนเลย แต่ฉันไม่ท้องหรอกเพราะตอนที่ถูกข่มขื่นอายุ 1-9 ปีละ ดีนะที่เค้าไม่ข่มขื่นและฆ่าฉัน อย่างน้อยก็ยังดี ฉันคิดอย่างนี้เสมอละ แต่ฉันไม่ได้ติดเอดส์เลยนะ โชคดีตรงนี้ละ ถ้าจะถามอายุฉันตอนนี้......27 ละ แล้วนะ..แต่ความเป็นอยู่ไม่ดีขึ้นเท่าอานุที่เพิ่มขึ้นๆเลย ฉันก็ยังอาศัยตามป้ายรถเมล์อยู่...ไม่รู้หรอกว่า"ความยุติธรรม"ที่ฉัน ต้องการจะมาเมื่อไหร ฉันรู้อย่างเดียวว่า 
                      
               "ตอนนี้ฉันยังไม่ตาย"

ถึงชีวิตฉันจะน้ำเน่าแต่ก็ยังดีกว่า คนที่ไม่มีโอกาสมากกว่าฉัน
                     อย่างน้อย ก็ขอบคุณฟ้า และฉันจะอยู่ต่อไปนะ จนกว่ามะเร็งจะ....				
4 ตุลาคม 2545 14:03 น.

มิตรภาพ #4 ตอนเทพพิทักษ์ในแอ็ปเปิ้ล

ปลาทูสามเข่ง

มิตรภาพ #4 ตอน เทพพิทักษ์ในแอ็ปเปิ้ล       

         "นี่..ต้นหญ้าจ้ะเราชักเหนื่อยแล้วจ๊ะ.." ฟางพูดขึ้นด้วยความอ่อนล้า ที่เธอเดินทางโดยไม่หยุดพัก แล้วอีกอย่างเธอก็พึ่ง รอดพ้นจากเหตุการณ์ที่เลวร้ายที่ผ่านมาเมื่อไม่นาน จึงทำให้ต้องเสียพลังงานไปมาก..และเธอรู้สึกเหนื่อยอ่อนกับการเดินทาง ต้นหญ้าซึ่งกำลังเดินนำหน้าฟาง อย่างไม่คิดจะหยุดพัก ก็หันหน้ามาหาฟางแล้วพูดขึ้นว่า "เออ....ผมก็ว่างั้นแหละ เรายังไม่ได้หยุดพักเลยนิ ผมก็ชักหิวแล้วละ เอาเป็นว่าหาที่พักที่เหมาะๆก็แล้วกันฮะ.." ต้นหญ้าพูดขณะที่เค้าเดินสำรวจหาที่ที่ปลอดภัย สำหรับการรับประทานอาหารเย็นในวันนี้ "อะ..!! นั่นไงใต้ต้นไม้นั่น..!!" ต้นหญ้าตระโกนให้ฟางซึ่งตกใจในน้ำเสียงต้นหญ้าฟัง ขณะที่มือของต้นหญ้าก็ชี้ไปที่ใต้ต้นไม้นั่น.. "แต่...เหตุการณ์คงไม่ซ้ำรอยนะจ๊ะ ..ต้นหญ้า.." ฟางพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่ไว้ใจต้นไม้พวกนั่น "คงไม่มั้งครับ" คำพูดของต้นหญ้าที่พูดออกไป ด้วยท่าทีเช่นเดียวกับฟาง "เอาเป็นว่าคืนนี้เราพักที่นี้เลยนะฮะ..." ต้นหญ้าพูดขึ้นและเค้าก็ปูผ้า และจัดสำภาระให้เรียบร้อย "เออ...ฟางฮะ ทำไรอยู่น่ะ..??" ต้นหญ้าเอ่ยขึ้น เค้ามองไปทางฟาง ซึ่งท่าทีแปลกๆ "เราสวดภาวนาอยู่นะจ๊ะ" ฟางพูดตอบต้นหญ้า เธอกำลังท่องบทสวดภาวนาอย่างตั้งใจ ซึ่งมันทำให้ ต้นหญ้าหัวเราะอยู่ในใจ... ...
               คืนนั่นผ่านไปอย่างสงบราบรื่น ทั้งสองหลังจากรับประทานอาหารเสร็จเรียบร้อยก็ จัดการเก็บของและ  ตกลงกันว่าน่าจะเฝ้าเวรยามกันในตอนกลางคืน   และในขนาดนี้ ต้นหญ้าตื่นขึ้นเพื่อจะเฝ้าเวรยามต่อจากฟาง  แล้วให้ฟางเข้าไปนอน และต้นหญ้าก็ถือไฟฉายเดินออกมานั่งบทก้อนหิน เค้ารู้สึกรำคาญเหมือนกันที่มียุงมาเข้าใกล้ จนต้องให้เค้านั่งตบไม่ได้เฝ้าเวรยามเลย  ต้นหญ้าได้นั่งอยู่สักพักและ..เค้ารู้สึกเหมือนกับว่า มีกลิ่นและควันขาวๆลอยมาทางต้นไม้ที่ฟางหลับอยู่ ซึ่งไม่ไกลกลับ หินที่เค้านั่ง..แต่ก่อนที่เค้าจะรู้ตัวว่ามันเป็นผงหลับไหล เค้าก็รู้สึกว่าเค้าไม่รับรู้อะไร ไม่มีอะไรในสมอง มัน....ว่างเปล่า...นาทีนั่นเองเค้าก็ได้หลับลง....
            ชายในผ้าคลุมคนนั่นได้เดินเข้ามาที่  ที่ฟางและต้นหญ้าสลบอยู่...รู้สึกว่าเค้ากำลังก้มลงมองอะไรบางอย่าง จากตัวฟาง..เค้าได้คว้านหา..ของสิ่งหนึ่งในกระเป๋าที่ฟางกอดอยู่แน่น แต่ว่าชายในผ้าคลุมก็มีวิธีหนึ่ง ที่เค้าสามารถเอากระเป๋าใบนั่น ออกมาได้คือ แว๊บบบบบบ....วินาทีนั่นกระเป๋าก็ค่อยๆคลานออกจากอ้อมกอดของเด็กน้อย มันลอยขึ้นสูงมุ่งมา สู่ในมือของชายในผ้าคลุม ตุบ...!! กระเป๋าใบนั่นได้ลอยมาอยู่มือของชายในผ้าคลุมเรียบร้อยแล้ว...เค้าหา...หาของสิ่งหนึ่งที่อยู่ในกระเป๋า  ในที่สุด...ชายในผ้าคลุมก็นำมือขึ้นมาพร้อมกำอะไรบ้างอย่าง..ที่ส่องแสง...มันคือ แอ็ปเปิ้ลสีทอง !! "ใช่..!! ใช่!" ชายในผ้าคลุมเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงดีใจอย่างมาก เมื่อสิ่งที่เค้าปรารถนาได้มาอยู่ในมือเค้า "ในที่สุด แอ็ปเปิ้ลผลสุดท้าย สีทอง...ที่ยิ่งใหญ่ ..ก็มาอยู่ในมือข้า หึหึหึ" ชายในผ้าคลุมส่งเสียงหัวเราะอย่างดีใจ... มันไม่ได้ทำให้ฟางและต้นหญ้าตื่นเลย เพราะว่าเค้าทั้งสองโดนควันนิทราลงไป ยากที่จะตื่นขึ้นมา...อีก..นอกจาก..  ชายในผ้าคลุมเปิดแอ็ปเปิ้ลสีทอง ในนั่นส่องแสง มีปฏิกิริยาต่อชายในผ้าคลุมอย่างยิ่ง ปรากฎว่า..ในนั่น...ว่างเปล่า..!! ไม่มีอะไร  แม้แต่เม็ดแอ็ปเปิ้ลเอง..." บัดซบ..!!!!!!!!! " ชายในผ้าคลุมตระโกนลั่น..พร้อมเควี้ยงแอ็ปเปิ้ลสีทองทิ้ง " ไหนละ??ลูกแก้วในตำนาน !!!!!ทุเรศ !!! ฮึ ไอเด็กพวกนี้อยู่กันไปได้ไง " ชายในผ้าคลุมตระโกนด้วยความไม่พอใจ พร้อมเปิดผ้าคลุมออก....เค้า....ดูสง่ามาก เป็นหน้าตาที่ผู้หญิงคนไหน ได้เห็นแม้ไกล ก็จะหยุดชะงัก...แต่..  ใบหน้าอีกครึ่งหนึ่งของเค้า...ว่างเปล่า..นี้แหละที่ทำให้เค้าต้องใส่ผ้าคลุมเพราะอีกครึ่งหนึ่งใครๆก็ต่างกลัวกัน...มันแฝงไปด้วย .....---------- " อ๊ากกกกกกกกกกกก " ชายในผ้าคลุมร้องลั่น...เพราะดูเหมือนจะมีใครคนหนึ่งเดินเค้ามาซึ่งมีวงแหวนล้อมตัวเค้านั่น....ส่องแสงสีทองลางๆ ดูอบอุ่น เค้าเป็นหนึ่งผู้พิทักษ์แอ็ปเปิ้ลสีทอง และวงแหวนนั่น มันก็ทำให้ชายในผ้าคลุมร้อนรน เจ็บปวดได้โดยเฉพาะ..."  เจ้าคือใคร !!" ชายในผ้าคลุมร้องลั่นพร้อมดิ้น ด้วย ความเจ็บปวดเมื่อวงแหวนส่องแสง "เจ้า....เจ้า ข้าถามว่าเจ้าคือใคร..!!??" ชายในผ้าคลุมตระโกนถามขึ้นอีกครั้ง  แต่ถึงอย่างนั่นเค้าก็ยังดิ้นอยู่ " อืม...ข้าเหรอ...ถามตัวเจ้าเองเถอะ..ตัวเจ้าคือสิ่งเพียงสิ่งหนึ่งที่กำเนิดมาจากความแค้น...ไร้ความรัก..ไร้เพื่อน..ก็ต้องเจ็บปวดกับสิ่งที่ตัวเองทำ...  พลังของเจ้าไม่สามารถทำลายวงแหวนได้หรอก..ได้เพียง..ดิ้นเท่านั่น.." เทพพิทักษ์วงแหวนพูดขึ้นอย่างเรียบๆ..."อะไร เจ้าไม่รู้หรอก ข้า...ข้า...!!" ชายในผ้าคลุมพยายามจะพูดออกมา แต่เค้าก็ต้องดิ้นอย่างรุนแรง ดูเหมือนอากาศหายใจเค้าจะ...หมด..  และชายในผ้าคลุมก็ต้องแน่นิ่งไป.. อย่างไร้สาเหตุ เทพพิทักษ์ส่งสายตาให้ชายในผ้าคลุมที่แน่นิ่งด้วยความสงสาร...เค้าเดินมาหยุดตรงหน้าชายในผ้าคลุม และก็ลงมือทำอะไรซักอย่าง จน...ชายผ้าคลุม..หายไป เทพพิทักษ์ก็ได้ถอนหายใจ.. และพูดด้วยน้ำเสียงค่อยๆ ฟังดูเหมือนสงสาร...ว่า " เฮ้อ...เจ้าหนุ่มน้อยคนนั่นในอดีต หายไปไหนแล้ว..." และเทพพิทักษ์  ก็หันไปมองฟางที่หลับใหลอยู่ใต้ต้นไม้ และพูดด้วยความเอ็นดูว่า " หนูน้อย...หลับ.." เพียงประโยคสั้นๆ  ก็ทำให้ฟางมีสติขึ้นมาอีกครั้ง ....ฟาง..รู้สึกตัว..และเธอก็รู้สึกว่าเหมือนมีเมฆอุ่นๆ ล้อมรอบเธออยู่ เธอขยี้ตาและ เหลือบไปเห็นเทพพิทักษ์ ..!! เธอตกใจชั่วครู่นึงเพราะไม่เคยเห็น ใครที่มีวงแหวนล้อมรอบอยู่ " ไง..." เทพพิทักษ์ส่งเสียงทักทายฟางด้วยความเอ็นดู มันทำให้ฟางตกใจเล็กน้อย..และจึงยิ้มให้อย่างเป็นมิตร และก็ทักทายเทพพิทักษ์อีกครั้ง " อะจ๊ะ...สวัสดี" "เจ๋งเลย..!!! ขอบคุณฮะ สำหรับ.. เพื่อน..."  ต้นหญ้าตระโกนขึ้นมา ดูเหมือนเทพพิทักษ์จะให้ต้นหญ้าฟื้นขึ้น แต่ก็อยู่ในช่วงนอนหลับอยู่ " คิก..คิก.." ฟางหัวเราะอย่างเบาเบาและหันไปมองเทพพิทักษ์  และถามขึ้นว่า " คุณเป็นใครจ๊ะ " เทพพิทักษ์มองฟางแล้วยิ้ม เอ่ยกับฟางว่า "นี่เป็นคำถามยอดฮิต ที่ฉันได้ยินจนเบื่อแล้วละ เวลาฉันไปที่ไหน ก็จะมีถามกันเป็นประจำ เฮ้อ...แต่ก็แปลกดีนะ ตัวฉัน " เทพพิทักษ์พูดขึ้นแล้วยิ้มม อีกครั้ง  และก็เล่าประวัติว่า " ฉันเป็นเทพพิทักษ์ ในแอ็ปเปิ้ลสีทอง ..------"   เพียงแค่เทพพิทักษ์พูดประโยคนี้ก็ทำให้ฟางอึ้ง..!!      และตระโกนขึ้นมาว่า " เทพพิทักษ์..!!!!!!!! " ฟางพูดเสียงดังไปแล้ว เธอลืมตัว " เออ... ขอโทษจ๊ะ.." ฟางพูดขอโทษ และก็แอบอายเพราะเธอเผลอไปเสียมารยาทต่อหน้าเทพพิทักษ์  เทพพิทักษ์เห็นก็ยิ้มมม มองฟางอย่างเอ็นดู " ไม่เป็นไรหรอก"  เพียงประโยคสั้นๆ ของเทพพิทักษ์  มันก็ทำให้ฟางกระโดดโลดเต้นอย่างดีใจ.." อืมม แล้วเทพพิทักษ์ละคะ มาทำไมหรอ"  ฟางถามด้วยความสงสัย และเทพพิทักษ์ก็ตอบฟางว่า " จะให้เล่าไหมละ ? " ฟางตอบตกลง และถามว่า "เรื่องมันยาวหรอจ๊ะ เล่ามาเถอะคะ ฟางฟังได้ ..!!" ฟางตอบ เทพพิทักษ์ได้ยินก็ยิ้มม และดีดนิ้ว นาทีนั่นเก้าอี้สีทองก็มาอยู่ตรงหน้า  เทพพิทักษ์หันไปทางฟางแล้วก็พูดว่า "เด็กน้อย..นั่งเถิด.."  ฟางสดุ้งนิดเมื่อตัวเธอดันเขยื้อนไปนั่ง  โดยที่สมองยังไม่ได้สั่งการให้ไปนั่งเลย " ฉันจะเริ่มเล่าเรื่องละ " เทพพิทักษ์พูดขึ้น ฟางพยักหน้าตอบตกลง  ในใจก็อยากฟังเร็วๆ...เทพพิทักษ์เริ่มขึ้นว่า " ฉัน..ทำหน้าที่เป็นเทพ คอยเฝ้าแอ็ปเปิ้ลสีทอง..ในตำนานผลนี้ มานานแล้ว และที่ฉันออกมาเพราะมีใครคนหนึ่ง มาทำร้ายแอ็ปเปิ้ล..-----" ฟางได้ขัดจังหวะเทพพิทักษ์ ซะก่อนและถามว่า " ใครเหรอจ๊ะ คนนั่น" เทพพิทักษ์ก็ยิ้มมม และเริ่มเล่าต่อว่า "เค้าก็คือคนที่จะมาเอาของที่อยู่ในแอ็ปเปิ้ลผลนี้ไปครอบครอง และของสิ่งนั่นคือลูกแก้วในตำนาน ....." ฟางขัดขึ้นมาอีกครั้ง " อะ..ลูกแก้ว ?? ไม่เห็นมีเลยนิจ๊ะ มีแต่แผนที่.." เทพพิทักษ์ก็เล่าต่อว่า " ลูกแก้วในตำนาน ลูกนี้...มันถูกผู้หนึ่งเก็บไป  และผู้นั่นก็ได้ไปตั้งนานแล้ว เหลือลูกแก้ว...ซึ่งหายสาบสูญไป โดยที่ยังไม่รู้เลยว่า เค้าผู้ครอบครองคนนั่นไปซ้อนไว้ไหน...รู้ไหมฟาง?? แอ็ปเปิ้ลไม่ใช่มีแค่สีทอง แอ็ปเปิ้ลไม่ใช่มีนิดเดียว แอ็ปเปิ้ล..ไม่ใช่จะครอบครองได้ง่ายๆ โดยเฉพาะผลแท้.." ฟางพูดขัดอีกครั้งด้วยความสังสัยว่า " มีผลแท้ ผลปลอมด้วยเหรอจ๊ะ แล้วแอ็ปเปิ้ลมีสีอะไรบ้างละ ?? ทำไมมัน ซับซ้อนอย่างนี้..." เทพพิทักษ์ยิ้มม อีกครั้ง และก็พูดกับฟางว่า....ถึงมันจะซับซ้อน..แต่มันก็สามารถบรรยาย สื่อถึงกัน ให้เข้าใจได้..."  ฟางหยุดนิ่ง กับคำพูดที่เทพพิทักษ์กล่าวมา เธอไม่เคยรู้สึกว่า จะมีคนที่อบอุ่นพูดสั้นๆ แต่คำให้เรา...เข้าใจ ถึงมันจะซับซ้อน... เทพพิทักษ์มองฟาง และจึงเล่าต่อว่า "แอ็ปเปิ้ลมีด้วยกัน 5 สี แอ็ปเปิ้ลสีเงิน แอ็ปเปิ้ลสีดำ แอ็ปเปิ้ลสีแดง แอ็ปเปิ้ลสีเขียว และแอ็ปเปิ้ลสีทอง..ในแอ็ปเปิ้ลทั้ง 5 ชนิดจะมีของบางอย่างที่ยิ่งใหญ่ ...แต่ ที่บอกว่ามีทั้งของแท้และของปลอมก็คือ...ของปลอมนี้..มีมาก ที่เราเห็น มันถูกสร้างขึ้นมาปะปนกับของแท้ ของปลอมและของแท้มีคุณสมบัติต่างกัน...ของปลอมสามารถจะแกะออกมาเป็นของที่เราปรารถนาได้ แต่...ไม่มีสิ่งวิเศษอะไรมากหนัก แอ็ปเปิ้ลของปลอม..จะมีแค่เม็ดเดียว.... ผิดจากของแท้ซึ่งมีหลายเม็ด..แต่แอ็ปเปิ้ลทุกสีที่เป็นของแท้จะมีเพียงผลเดียว....ผลเดียวเท่า มีผลนึงในโลกก็ว่าได้ และจะมีเทพพิทักษ์ ของแต่ละผลอาศัยอยู่ อย่างฉันนี้ไง... ฉันเฝ้าดูเธอมาตลอดนะฟาง เธอเป็นเด็กน้อยที่มี่เมตตา เป็นเด็กที่อ่อนโยนเลยทีเดียว" ฟางได้ฟังดังนั่นก็เขิน...หน้าแดง...เทพพิทักษ์เห็นแล้วยิ้มมและเล่าต่อว่า "ส่วนแอ็ปเปิ้ลของแท้นั่น...บางลูกก็หายสาบสูญไป อย่างไร้ร่องรอย ไม่มีใครที่จะพบเจอ บางลูกก็ตกอยู่ในมือก็เค้าคนนั่น"..ฟางที่อายเมื่อเทพพิทักษ์ชม ก็กลับมาสงสัยอีกครั้ง และถามว่า " เค้าคนนั่นคือใครอีกละจ๊ะ ?? "
                                             ติดตามชมตอนต่อไป
ตอนต่อไป จะรู้ความเป็นมาของชายในผ้าคลุม
จะทราบถึงแอ็ปเปิ้ลแต่ละชนิดว่า...แต่ละผลมีความเป็นมาอย่างไร
++ ตอน ชายในผ้าคลุม...++				
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟปลาทูสามเข่ง
Lovings  ปลาทูสามเข่ง เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟปลาทูสามเข่ง
Lovings  ปลาทูสามเข่ง เลิฟ 0 คน
Calendar
Lovers  0 คน เลิฟปลาทูสามเข่ง
Lovings  ปลาทูสามเข่ง เลิฟ 0 คน
ไม่มีข้อความส่งถึงปลาทูสามเข่ง