19 พฤษภาคม 2550 20:20 น.
ปราณรวี
เมื่อยามเศร้าเขาทั้งหลายใจห่อเหี่ยว
สิ่งหนึ่งเดียวช่วยได้ให้คลายเหงา
ฟังดนตรีนอกบ้านให้ใจเบา
ถึงแม้หนาวก็ฝ่าฟันพากันไป
เป็นผู้เฒ่าส่วนใหญ่ล้วนไปนั่ง
เพื่อรับฟังเปียโนโก้ไฉน
มีนักร้องเสียงดังดูตั้งใจ
ขับกล่อมให้เพลิดเพลินเมินทุกข์ตรม
นักดนตรีฝีมือยอดค่อยขอดเสียง
ผสานสำเนียงคนร้องดังก้องขรม
สื่อคำร้องออกไปได้อารมณ์
เศร้าระทมถูกข่มไกลได้ด้วยเพลง
หันมองดูผู้ฟังนั่งข้างข้าง
ดูท่าทางกิริยาหน้าเหมาะเหม็ง
ไร้อารมณ์ข่มใจไม่หวาดเกรง
ฟังแต่เพลงอย่างอื่นเราไม่เอาใจ
บนเวทีนักร้องหน้าผ่องผาด
สวยด้วยมาดสายตาน่าเลื่อมใส
ดูแย้มยิ้มพริ้มเพราเราถูกใจ
หน้าละไมเสียงไพเราะดูเหมาะจัง
แต่ด้านล่างเวทีที่ด้านหนึ่ง
ผู้ชมซึ่งนั่งนิ่งท่าพิงหลัง
ดูเมินเฉยหน้าตาน่าขำจัง
ทำขึงขังท่าทางดั่งวางตัว
ชมดนตรีใยไม่มีความสนุก
อย่าให้ทุกข์ลุกลามจนข้ามหัว
วางโศกเศร้าเอาไว้ใยต้องกลัว
เรื่องหมองมัวขว้างทิ้งให้กลิ้งไป
อันดนตรีมีค่ากว่าที่คิด
ช่วยให้จิตที่ขัดข้องเกิดผ่องใส
ให้โลกคลายความทุกข์..พบสุขใจ
อย่าช้าใยใช้ดนตรี ให้มีคุณ...
รูป: h**p://store.drumbum.com/
skuMGS-3.html
เพลง: No Matter What (Boyzone)
18 พฤษภาคม 2550 11:16 น.
ปราณรวี
มองฟากฟ้าคราใดใจเงียบเหงา
เพราะกั้นเราไกลห่างบนทางฝัน
จึงทุกข์ทนหม่นหมองร้องรำพัน
รักถูกบั่นจืดจางจนร้างลา
อยากฝากความคิดถึงซึ้งดวงจิต
ให้ตามติดเมฆน้อยลอยไปหา
ส่งความรักฝากไปในนภา
บอกเธอว่าเป็นห่วง..จากดวงใจ
อยากขีดเขียนสารส่งบรรจงถ้อย
แล้วเรียงร้อยลอยฟ้าส่งมาให้
แต่รู้สึกลึกล้ำเกินคำใด
จะเคียงใกล้ใจฉันบรรยายพอ
อยากจะพับแผ่นฟ้าเวลานี้
เมื่อยังมีพลังใจไว้สานต่อ
ย่นหนทางมาใกล้ได้ถักทอ
เลิกทุกข์ท้อทรมานที่นานมา
แต่ไม่อาจทำได้ดั่งใจฝัน
ด้วยฟ้านั้นกว้างใหญ่เกินไขว่คว้า
รักจึงล่มล้มหายจากสายตา
ทอดเวลาเงียบเหงา..ให้ยาวนาน
17 พฤษภาคม 2550 10:23 น.
ปราณรวี
เมื่อลมหนาวมาเยือนเหมือนบอกกล่าว
ถึงเรื่องราวรักร้างที่ห่างหาย
เจ็บระกำช้ำหนักรักมลาย
ชีพเกือบวายคล้ายปลิวพลิ้วตามลม
ครั้นหนาวลาครานี้มีแต่เศร้า
เหลือเป็นเงาตามติดจิตขื่นขม
ไม่ปลาบปลื้ม..ลืมไม่ได้ใจตรอมตรม
ดั่งโง่งมซมซานสะท้านใจ
แม้มองกรอบรอบกายดอกไม้สวย
กลิ่นระรวยหอมหวนยั่วยวนให้
แต่ทุกข์ขังฝังชิดติดเนื้อใน
เห็นสิ่งใดก็แฝงเศร้าทุกคราวครา
ไม่อาจหวังดวงใจจากใครแล้ว
เหลือแต่แววชอกช้ำร่ำเรียกหา
ถึงปลายหนาวร้าวรานที่ผ่านมา
โปรดช่วยพาช้ำไป..ไม่ย้อนคืน
เพลง: เหมันต์ที่ผ่านพ้นไป (สุชาติ ชวางกูร)
16 พฤษภาคม 2550 07:00 น.
ปราณรวี
ฟ้ามืดครึ้มเมฆลอยคล้อยลงต่ำ
สีเทาดำกำบังแสงแฝงรอยเศร้า
ลมพัดพลิ้วหวิววาบฉาบกับเงา
ความร้อนเร่าเบาบางจางหายไป
บนยอดกิ่งไม้ไหวใบละ..ร่วง
หลุดจากรวงควงหล่นบนน้ำใส
ทิ้งก้านเปลี่ยวเดียวดายไม่สนใจ
เหลือเอาไว้ใยเหงาเจ้าถักทอ
ยามฝนโปรยโรยรายคล้ายจะกล่าว
บอกเรื่องราวหนหลังครั้งรักก่อ
แต่อนาถบาดใจใยไม่พอ
ที่ถักทอจึงขาดผล็อยน่าน้อยใจ
มองฟ้าครึ้มอีกคราน้ำตารื่น
กลายเป็นอื่นแล้วรักถูกผลักใส
เหลือเพียงรอยเจ็บช้ำย้ำทรวงใน
ฝากเอาไว้ที่ปลายฟ้าคราเมฆพรม
รูป: h**p://photos5.flickr.com/
9142237_4c18adeae4.jpg
เพลง: ไม้เมือง
15 พฤษภาคม 2550 02:26 น.
ปราณรวี
เป็นเพียงไม้ก้านน้อยที่คอยซ่อน
แอบดูตอนตะวันแจ้งแล้วแฝงหลบ
โอ้ไม้งามคลี่บานเพื่อพานพบ
ยอมสยบใต้ระวีมิเปลี่ยนแปลง
เมื่อสีทองส่องมาข้าไหวหวั่น
ทานตะวันดอกงามยามต้องแสง
เจ้าเริงร่าท้าแดดที่แผดแรง
ดูกล้าแกร่งแกว่งไกวในสายลม
ไม้ขีดไฟใจเศร้าเฝ้าหลงรัก
ช่างหนาวเหน็บเจ็บหนักรักไม่สม
เจ้าไม่เหลียวมองมาพาระทม
อยากชื่นชมสบตาสักคราครั้ง
แต่ดูเหมือนยิ่งตรมสุดขมขื่น
เฝ้าทนฝืนดูนงคราญบานสะพรั่ง
หมุนตามติดสุริยาที่ข้าชัง
แล้วหันหลังให้มาน่าน้อยใจ
สุดอาวรณ์อ่อนจิตด้วยคิดหนัก
เพราะความรักล้นปรี่จนรี่ไหล
จุดตัวเองขึ้นมาไม่ช้าใย
ให้เกิดไฟส่องแสงแจ้งตระการ
ไม้ขีดน้อยใจสลายเดียวดายนัก
เพียงสักพักก็มอดไหม้ไปค่อนก้าน
ทานตะวันหันมาไม่ช้านาน
พบแต่เพียงเถ้าถ่านของก้านไม้
อนิจจาความรักใยหนักยิ่ง
ยอมทุกสิ่งทิ้งหมดรันทดไห้
แม้ชีพดับลับลาไม่อาลัย
ขอเพียงได้ปรารถนา..สบตาเธอ
รูป: h**p://2519me.com/NTOctober/
NTOctober/NTOsong&midi/NTOsongspic/
sunflower_fairylg%5B1%5D.jpg
เพลง: ไม้ขีดไฟกับดอกทานตะวัน (วิยะดา โกมารกุลฯ)