20 มิถุนายน 2550 05:25 น.
ปราณรวี
เพื่อสร้างสรรค์ปัญญาประสาด้อย
เป็นเด็กน้อยคอยถามตามสงสัย
อยากเรียนรู้อยากเห็นความเป็นไป
ที่ช่วยให้พัฒนาเวลาคิด
มีเรื่องเล่ามากมายในโลกหล้า
ถูกสรรหามาไว้ให้ตามติด
ทั้งเรื่องอ้างเรื่องจริงอิงอิทธิฤทธิ์
ประกาศิตเวทย์มนตร์ปะปนมา
เป็นนิทานขานกล่าวคล้ายเล่าเรื่อง
เพื่อประเทืองดวงจิตให้คิดหา
แทรกคำสอนตอนท้ายให้จินตนา
ถึงที่มาที่ไปในเหตุการณ์
แต่ท่ามกลางชุลมุนที่วุ่นนัก
เจ้ากลับกลายเป็นซากปรักถูกหักหาญ
เทคโนโลยีบุกมารุกราน
โลกนิทานจะเลือนหายในไม่ช้า
ทั้งภาพเสียงเคลื่อนไหวในทุกทิศ
จำกัดสิทธิ์คิดฝัน..สร้างหรรษา
เพียงนั่งมองจ้องไปไร้จินตนา
ทุกสิ่งอย่างถูกสร้างมาก่อนหน้าแล้ว
จึงกลายเป็นผู้ตามความคิดอื่น
ถึงสดชื่นแสงใสประกายแก้ว
กลับขาดฝันบรรเจิดให้เพริศแพร้ว
ด้วยหมดแล้วสิ่งกระตุ้นที่คุ้นเคย
รูป: h**p://www.pantown.com/data/
15211/board1/5-20060808070328.jpg
18 มิถุนายน 2550 16:16 น.
ปราณรวี
เพียงพิศภาพพิมพ์พักตร์ประจักษ์จิต
ก็หมองหม่นรนด้วยฤทธิ์พิสมัย
เจ้างามเนตรเกศระยับจับหฤทัย
ทั้งเอวองค์ทรงละม้ายคล้ายเทวี
รักแรกพบกลบหัวใจไปเสียแล้ว
ดั่งดวงแก้วลอยเรียบมาเทียบที่
ตกในห้วงทรวงระทึกผนึกฤดี
แรงรตีปรี่ล้นกมลเรา
แม้นข้ามภพข้ามชาตินิราศร้าง
ถึงไกลห่างเพียงใดให้โศกเศร้า
จะตามติดชิดใกล้ไปเป็นเงา
เคียงคู่เจ้านงคราญทุกวารวัน
ขอเจ้าจงเชื่อในฤทัยรัก
ลงสลักปักไว้ให้จอมขวัญ
มีฟ้าดินเป็นพยานนานนิรันดร์
ครองรักมั่นคงแท้แด่นางเดียว
อยากตอบถ้อยร้อยรสพจนารถ
แต่ประหลาดขัดเขินเมินแลเหลียว
ด้วยเกรงกริ่งทิ้งขว้างร้างกลมเกลียว
เมื่อน้ำเชี่ยวจึงยากหยั่งดั่งหมายปอง
อันแรกรักปักอุราพี่ว่านี้
ควรหรือที่จะเชื่อได้ใจจึงข้อง
ไม่เนิ่นนานจะพาลหน่ายเมื่อได้ครอง
ฤทัยน้องคงต้องช้ำน้ำตาริน
ถึงสาบานขานขับกับดินฟ้า
ไม่แน่นหนักในวิญญาณ์ค่าก็สิ้น
เมื่อรักจางห่างหายคลายดวงจินต์
ก็โบยบินจากลาสัญญากลาย
ขอตอบถ้อยร้อยรสบทกลอนกล่าว
ให้นุชเจ้าวางใจไม่ห่างหาย
แม้เป็นรักแรกร้อน..มิผ่อนคลาย
ตราบชีพวายจะวางแอบแทบน้องนาง
ถ้าแม้นควักดวงใจให้เจ้าเห็น
จะมิเว้นเพื่อให้น้องหมดหมองหมาง
ทั้งดวงตาก็พร้อมพลีรีบรี่วาง
อยู่เคียงข้างดวงใจให้เจ้าครอง
หากมิเชื่อเบื่อในน้ำใจพี่
อีกชีวีก็พลีได้ให้หายข้อง
ขอเพียงสมในฤทัยที่หมายปอง
อยู่เคียงน้องทุกภพชาติไม่คลาดครา
รูป: h**p://www.moe.go.th/
main2/pic/prayat.JPG
17 มิถุนายน 2550 12:36 น.
ปราณรวี
ออกจากกรุงมุ่งเหนือด้วยเบื่อหน่าย
หลบร้อนแดดแผดกายให้คลายผ่อน
หนีเมืองใหญ่บ่ายหน้าสู่ดงดอน
ข้ามสิงขรขุนเขาลำเนาไพร
เข้าพำนักพักพิงอิงแอบป่า
ข้างธาราเย็นฉ่ำด้วยน้ำใส
ดูวิหคนกกา..ฟากฟ้าไกล
มีร่มเงาแมกไม้ให้ชุ่มเย็น
ทั้งผู้คนล้นหลากมากน้ำจิต
กับมิ่งมิตรแดนไกลที่ไปเห็น
คือชาวเขาเผ่าไหนใช่ประเด็น
ก็ล้วนเป็นคนไทยในแผ่นดิน
ได้อาศัยอยู่กินในสินทรัพย์
รักษากลับเก็บไว้มิให้สิ้น
เป็นชาวเมือง..ไม่เรืองรุ่งจรุงจินต์
แต่คือถิ่นเคร่งครัดวัฒนธรรม
ยังสืบสานวรรณศิลป์ถิ่นที่อยู่
ไม่มากมายเลิศหรู..ดูเก่าคร่ำ
แต่กอบกู้คู่ไว้ให้จดจำ
เพื่อน้อมนำความเป็นไทยให้ยั่งยืน
รูป: h**p://k43.pbase.com/u16/urai1/
upload/7770755.1111170_IMG.JPG
15 มิถุนายน 2550 02:03 น.
ปราณรวี
ยามเหนื่อยล้าว้าเหว่ใกล้เซล้ม
อย่ามัวก้มหน้าหมองมองเพียงหญ้า
เพราะเงยขึ้นจะพานพบสบนัยน์ตา
ที่เจิดจ้าและยิ้มให้ด้วยไมตรี
คือตัวเราที่เฝ้าถามด้วยความห่วง
ติดตามทวงเป็นเพื่อนไปในทุกที่
เมื่อเศร้าโศกเลือนรางหมางฤดี
เธอยังมีฉันอยู่..ใช่ผู้เดียว
ยามร้องไห้ฤทัยหม่นทนทุกข์หนัก
จงหยุดพักให้หนักคลายหายห่อเหี่ยว
คืนทะนงองอาจเคยปราดเปรียว
เลิกข้องเกี่ยวเดียวดาย..ไร้น้ำตา
อย่าเหนื่อยนานเกินไปในวันนี้
โลกยังมีอีกมากมายให้ค้นหา
มีเพื่อนเรียงเคียงใจใกล้กายา
เพื่อสรรหาสิ่งดีไว้..มอบให้กัน
13 มิถุนายน 2550 04:52 น.
ปราณรวี
อันโบราณนานมาว่าเอาไว้
จะสั่งสอนผู้ใดให้รู้แจ้ง
ตัวของเราต้องสามารถอาจแสดง
เพื่อแถลงทีท่าว่ารู้จริง
ใช่รู้เพียงเดียงสาคิดว่าปราชญ์
อวดฉลาดคาดหมายได้ทุกสิ่ง
ต้องมั่นใจในวิชาอย่าประวิง
ก่อนจะทิ้งถ้อยคำให้นำทาง
เพราะหากแม้นมิรู้ชัดบัญญัติถ้อย
คนจะพลอยเบื่อระอาพาหมองหมาง
ภายภาคหน้าอาจมืดมัวสลัวลาง
ผู้นำทางพรางผิดบิดเบือนไป
เหมือนปูนาขาเกเดินเซมา
แม่ปูว่าลูกปูดูไม่ได้
เดินคดเคี้ยวเลี้ยวเลาะไม่เหมาะใจ
แม่เดินให้เจ้าดูอยู่ทุกวัน
มิรู้ตัวมัวพินิจคิดว่าถูก
จึงปั้นปลูกลูกไปให้ขำขัน
เมื่อผู้สอนเป็นตัวอย่างไม่ต่างกัน
ใยลูกนั้นจะผิดแผกแตกต่างไป
รูป: h**p://community.iexplore.com/
photos/journal_photos/82010018.jpg