3 กุมภาพันธ์ 2551 23:46 น.
ปราณรวี
เจ้าสรรสร้างโลกงามยามสัมผัส
คลายเร่งรัดร้อนรุ่มสุมในอก
ให้อบอุ่นละมุนละไมคล้ายหยิบยก
ที่เคยปกคลุมหนาวร้าวรานทรวง
เหมือนตะวันส่องฟ้าเพลาเช้า
ความหม่นเศร้าจางหายคลายจากห้วง
เหมือนฝนเย็นหยาดหยดรดรินรวง
ก่อนหลุดร่วงด้วยแล้งเกือบแห้งตาย
หรือเจ้าเป็นพฤกษ์พันธุ์อันกล้าแกร่ง
ยามแดดแรงให้ร่มข่มร้อนหาย
เป็นดอกแซมแต้มสีคลี่กระจาย
ผีเสื้อร่ายเริงร่าท้าคลื่นลม
เจ้าอาจเป็นดาวเดือนเกลื่อนฟ้ากว้าง
ส่องนำทางค่ำคืนที่ขื่นขม
แม้สูรย์ดับลับลาล้าระทม
เจ้าห่อห่มเฝ้าแฝงด้วยแสงนวล
เป็นพลังเติมใจให้ทุกผู้
ที่อุดอู้อ่อนไหวไห้กำสรวล
ดั่งเงาส่องสะท้อนจิตคิดทบทวน
โลกยังล้วนน่าอยู่เคียงคู่เรา
แม้ขึ้งเครียดเกลียดโกรธโทษมหันต์
เข่นฆ่ากันอาฆาตดังขลาดเขลา
เจ้ายังช่วยสะสางจนบางเบา
คอยปัดเป่าจางหายมลายไป
ไม่อาจพร่ำพรรณนาคุณค่ารัก
ยิ่งใหญ่นักเกินกานท์จะขานไข
ทั่วทุกแคว้นแดนดินถิ่นกว้างไกล
ต่างสดใสด้วยรักคอยถักทอ
.
1 กุมภาพันธ์ 2551 00:35 น.
ปราณรวี
ก่อนเคยเอ่ยพร่ำทวงคำมั่น
ผูกพันสัญญาว่าแน่นหนัก
เพียงห่างกันไปไม่นานนัก
สุดท้ายผลักหนีหายคลายรักลง
จึงรับรู้ผู้เดียวหยุดเหนี่ยวรั้ง
เมื่อรักพังเพราะใครเขาไสส่ง
ต่างคนต่างไป..ไม่มั่นคง
จับขังกรงใจเราให้เศร้าจาง
แม้วันนี้แผลร้ายคล้ายผนึก
แต่ร้าวลึกข้างในใช่จะสร่าง
ยังเคลือบคลุมคล้ายเงาที่เบาบาง
แต่กระจ่างทุกตอนที่ย้อนคิด
มันเรื้อรังฝังรากยากรักษา
ปิดดวงตาปิดใจไว้สนิท
ไม่อาจเปิดรับใครมาใกล้ชิด
กลัวเบือนบิดร้างลาปัญหารุม
จึงเหลือซากรักเลือนเป็นเพื่อนเล่น
ซ่อนร้าวเร้นลุกไล่ดั่งไฟสุม
กับหมอกมัวรายรอบที่ครอบคลุม
เก็บซุกซุ่มจมฝัง..ทั้งน้ำตา
27 มกราคม 2551 22:40 น.
ปราณรวี
เพลงกาลลอยล่องฟ้า......ฟากไกล
ข้ามผ่านภูผาไพร...........ล่วงพ้น
ร่ำร่ำคร่ำครวญไฉน........ฤๅพี่
ราวอกระทมล้น.............ท่วมแล้วน้ำตาฯ
รอนรอนราวรักร้าง.........ห่างเรียม
เย็นย่ำพร่ำอกเกรียม......หม่นไหม้
เคว้งคว้างว่างจิตเจียม....จำจาก
กายห่างใจนั้นไซร้..........อยู่คล้องเคียงกันฯ
ฝากเพลงยามค่ำคล้อย....คลื่นลม
มอบรักชื่นชิดชม............แด่น้อง
วอนเว้าอย่าเศร้าตรม......ยามห่าง
แม้รักเพรียกร่ำร้อง........อย่าร้อนเร่งตามฯ
ฟากฟ้าเพียงลัดข้อ..........นิ้วเดียว
หากรักมั่นกลมเกลียว.....ภักดิ์ให้
ถนอมใจมิแลเหลียว.......ใครอื่น
ขอพี่อย่าคลั่งไคล้............ร่ำร้องเคลือบแคลงฯ
กราบพระตั้งจิตน้อม.......อธิษฐาน
แม้ล่วงลับดับกาล............ก่อนหน้า
ขอเคียงคู่สืบสาน............ทุกชาติ ภพเฮย
อย่าทุกข์ทนหม่นล้า........ห่างร้างแรมไกลฯ
25 มกราคม 2551 14:04 น.
ปราณรวี
เรื่องอกหักรักลวงล่วงเลยผ่าน
เป็นวันวานไปแล้วเพื่อนแก้วเอ๋ย
ที่เจ็บช้ำกล้ำกลืนเคยชื่นเชย
อย่าได้เอ่ยเก็บอำมาซ้ำเติม
มองรอบกายหลายอย่างไม่ต่างนัก
พึงตระหนักพักใจให้ฮึกเหิม
หากอ่อนแอแพ้พ่ายดั่งใจเดิม
ภาระเพิ่ม..หัวใจไม่แข็งแรง
เห็นไหม..สิ่งใดล้วนไม่เที่ยง
มิอาจกลบ ลบเลี่ยงเบี่ยงแอบแฝง
น้ำ ดิน ฟ้า ดาว เดือนยังเคลื่อนแคลง
แม้ใจแกว่งบางคราว..มัวเศร้าไย
มาซิ..เป็นคนใหม่ไฉไลกว่า
เปิดดวงตาล้างหมดให้สดใส
เรื่องเก่า..ราวขี้เล็บเก็บทำไม
กว้างทิ้งไปเถิดหนาอย่ารอรี
ก็ความสวย..ความหล่อพอมีเหลือ
หาร้างเรื้อหมดไป..ใช่ไหมนี่?
อย่ารีบเข็ดระอาล้าเกินดี
โลกยังมีสิ่งใหม่ให้ชื่นชม
22 มกราคม 2551 07:22 น.
ปราณรวี
คืนจันทร์นวลแจ่มจรัสจ้า
คุ้งฟ้าใสสกาวพราวไสว
เมฆหลบซ่อนเร้นเห็นรำไร
น้ำไหลเอื่อยอ่อนอ้อนธารา
ลมเย็นพัดไกวที่ชายทุ่ง
หอมฟุ้งรวยรินกลิ่นพฤกษา
แว่วเสียงนกในไพรพนา
ดอกหญ้าแพรพลิ้วดั่งริ้วพรม
มองฟ้าหาจันทร์..นั่นเห็นไหม
สายใยอ้อมฟ้ามาห่อห่ม
ดั่งปลุกปลอบใจคลายระทม
ยิ้มข่มทุกข์ท้อทรมาน
จันทร์เอ๋ยเคยไหมไร้ใครคู่
อดสูฟ้าจ้องมองเพียงผ่าน
เมฆลอยคล้อยลับขับร้าวราน
ลมหว่านเสน่หาแล้วลาไกล
มีเพียงเสียงเพรียกจากพงพฤกษ์
ดื่นดึกแดนดอนตอนหลับไหล
อยู่คลอเคลียจันทร์อันอำไพ
มอบให้ใจภักดิ์รักนิรันดร์
เหนื่อยไหมจันทร์จ๋าข้าขอถาม
เมื่อความรักหม่นคนโศกศัลย์
ร่ำร้องเรียกมาหาแต่จันทร์
สงสารกันบ้างไหม..ใครบอกที