6 มีนาคม 2551 20:25 น.
ปราณรวี
เพลงคะนึงซึ้งข่มอารมณ์วาบ
หนาวกำซาบซ่านทรวงให้ห่วงหา
เพียงพลิ้วแผ่วสายลมพรมพร่างมา
ก็คล้ายพารำพึงคิดถึงไป
โอ้ว่าความรักเอ๋ยเคยรู้สึก
กลับร้าวลึกซ่อนเร้นเป็นไฉน
หรือรักซ้อนย้อนยอกหยอกเย้าใจ
ก่อนผลักไสไกลห่างเพื่อร้างลา
รักหล่นหายปลายทางคือว่างเปล่า
กับเรื่องราวร้าวรวดปนปวดปร่า
หรือใครแสร้งเสกสรรจำนรรจา
ปิดดวงตาปิดใจให้มืดมน
จึงมิเหลือเยื่อใยไว้สัมผัส
อัตคัดถ้อยความท่ามสับสน
สบสายตาล้าเศร้าจากเงาชล
คล้ายอับจนหนทางจะย่างแล้ว
มิใช่กาลเวลามาขวางกั้น
เกินฝ่าฟันจะคว้าถึงซึ่งดวงแก้ว
แต่หัวใจคนดีไร้วี่แวว
จะยึดแนวรักเดียวไว้เกี่ยวกัน
ลมหนาววูบลูบกายคลายจากห้วง
ขอตัดบ่วงอาลัยในคำมั่น
แล้วเลือกทางห่างไกลไปนิรันดร์
ไม่มีวันย้อนหวนทวนกลับคืน
.
19 กุมภาพันธ์ 2551 00:16 น.
ปราณรวี
น้ำใสไร้ขุ่นข้อง...............มองเห็น
บริสุทธิ์ชุ่มฉ่ำเย็น............จับต้อง
แม้สงบนิ่ง, กระเซ็น,........ซัดสาด
แสงส่องสะท้อน ฟ้อง.......กระจ่างเนื้อน้ำในฯ
ครั้นสีเพียงหนึ่งย้อย........หยดลง
สีเปลี่ยนจากที่คง.............พิสุทธิ์แผ้ว
หลากสีละลายตรง...........แต้มแต่ง
เติมใส่สีใดแล้ว..............ย่อมล้วนเปลี่ยนตามฯ
พิศใจคล้ายดั่งน้ำ............เจนตา
ทุกสิ่งใดรับมา................ย่อมเอื้อ
รับสุขเพิ่มปรีดา..............อิ่มสุข
รับทุกข์ใจก็เรื้อ..............ทุกข์ร้อนไล่ตามฯ
รับโลภหลงโกรธล้น........ดวงมาน
คล้ายดั่งไฟเผาลาญ........หมกไหม้
ยิ่งเก็บยิ่งล้างผลาญ........ข้น, ขุ่น
ร้อนเร่าโหมลามไล้........ยากยั้งหยุดลงฯ
เพียงละสิ่งยอกย้อน ........อารมณ์
ปล่อยว่างวางทุกข์ตรม....หลีกเร้น
ศีลสมาธิช่วยถม.............ที่ทุกข์ พ้นเอย
ดวงจิตคลายบีบเค้น .......หลุดพ้นบ่วงมารฯ
น้ำเจือสี
ใจของเราขณะที่เป็นปกติอยู่ เปรียบเหมือนน้ำฝนเป็นน้ำที่สะอาด
มีความใสสะอาดบริสุทธิ์เป็นปกติ ถ้าเราเอาสีเขียวใส่ลงไป เอา
สีเหลืองใส่เข้าไป น้ำก็จะกลายเป็นสีเขียว สีเหลืองไป
จิตของเรานี้ก็เหมือนกัน เมื่อไปถูกอารมณ์ที่ชอบใจ ใจก็ดี ใจก็
สบาย เมื่อถูกอารมณ์ที่ไม่ชอบใจแล้ว ใจนั้นก็ขุ่นมัว ไม่สบาย
เหมือนกันกับน้ำที่ถูกสีเขียวก็เขียวไป ถูกสีเหลืองก็เหลืองไป
เปลี่ยนสีไปเรื่อย
ที่มา
http://www.agalico.com/board/showthread.php?t=14649
.
14 กุมภาพันธ์ 2551 04:34 น.
ปราณรวี
พร่างพราวดาวระยับจับแผ่นฟ้า
เพลงแห่งห้วงจินตนาพาหวั่นไหว
ระลึกความตามสารผ่านเนื้อใน
จากหัวใจคนฝากอีกฟากดาว
ด้วยซาบซึ้งจึงตอบมอบรู้สึก
เก็บบันทึกร้อยเรียงมาเคียงกล่าว
อยากทอถักรักมั่นฝันยืนยาว
ลืมรอยร้าวคราวก่อนอย่าย้อนคิด
ขอเพียงใจแน่นหนักถ้ารักฉัน
อย่าแบ่งปันสองสามมาตามติด
วางหัวใจเดิมพัน..ปันชีวิต
ร่วมลิขิตรักแท้ให้แก่กัน
แม้ทุกข์สุขไม่ท้อจะต่อสู้
มีเธออยู่เคียงข้างสร้างความฝัน
เกาะเกี่ยวก้อยร้อยใจไปนิรันดร์
เพียงเท่านั้นปรารถนาของอารมณ์
เย็นลมพลิ้วพัดพรายยามใกล้สาง
ฟ้ายังพร่างแพรวพราวคราดาวห่ม
คนฟากดาวหลับตื่นชื่นชิดชม
ฝากลอยลม..คิดถึงคะนึงครวญ
.
10 กุมภาพันธ์ 2551 23:33 น.
ปราณรวี
อาจคือกำหนดกฎจากฟ้า
ชะตาความรักถูกหักหาญ
หัวใจโบยบินเจียนสิ้นปราณ
ข้ามผ่านห้วงเหวที่เลวร้าย
พบเพื่อพลัดพรากยากขัดขืน
สะอื้นอกตรมข่มไม่หาย
แม้ร่ำร้องเรียกตะเกียกตะกาย
ก็คล้ายลมพัดไม่ชัดความ
ต่างคนต่างไปแม้ใยรัก
ยังเหนียวแน่นหนักเกินหักห้าม
เวลาหมดลงตรงฟ้าคราม
ขวากหนามแยกใจเราไกลลับ
อยากลืมยิ่งจำเหมือนกรรมแกล้ง
อับแสงตะวันมาพลันดับ
ทับถมทรมาคณานับ
ไยทุกข์จับแต่เรา..ไม่เข้าใจ
เมื่อไม่อาจหวนทวนอดีต
เส้นขีดตัดขาดเลือดสาดไหล
จำน้อมยอมรับกับความนัย
คนของใจคือเงาความเศร้าซึม
8 กุมภาพันธ์ 2551 02:23 น.
ปราณรวี
ร้อยลำนำคำพ้อรอน่านฟ้า
เผยจันทราลอยเด่นเห็นวับไหว
เป็นกลอนกานท์ผ่านพ้นถึงคนไกล
หวังมอบใจผูกพันดังสัญญา
ฝากสายน้ำยามค่ำย้ำแน่นหนัก
ด้วยใจภักดิ์ถักทอรอเพียงว่า
ใจอีกดวงล่วงผ่านกาลเวลา
เพื่อย้อนมาเคียงใกล้ได้พบเจอ
วอนลมพัดพลิ้วพรายให้เธอรู้
ว่าใครกู่คำพ้อ..กลัวรอเก้อ
หากลืมหมดรักมั่นฝันละเมอ
คงพร่ำเพ้อเดียวดายอยู่ปลายฟ้า
อย่าหมางเมินเหินห่างร้างรักเร่
คนเสเพลขอไกลไม่เห็นหน้า
เจ็บระกำช้ำชอกยอกอุรา
คมปวดปร่าคอยย้ำจ้องทำลาย
ฝากเพลงแผ่วแว่ววอนเมื่อค่อนดึก
จากซอกลึกของใจใกล้สลาย
เมื่อยอมรับความจริงทุกข์ยิ่งกลาย
ด้วยคลับคล้าย คนไกล..ไม่เคยมี