15 พฤษภาคม 2549 00:09 น.
ปราณรดี
ปลาว่ายเวียนในอ่างวน
นิ่งเบาลอยบน
ในโลกส่วนตัวของปลา
เลื่อมสีสะท้อนแสงพา
น้ำแต่งลายตา
กระเพื่อมเลื่อมพรายปลาวน
แหวกว่ายท่ามหินซอกซน
ซุกซ่อนเร้นหน
ตามแต่วิถีปลาเป็น
ปลาเอยปลาในบ่อเย็น
ประดับตัวเห็น
สีสะท้อนวามวับตา
เพลิดเพลินน้ำรื่นเริงร่า
วิถีแห่งปลา
คือโลกส่วนตัวตามมี
พิศเพลินปลาว่ายหลากสี
ระยับหางรี่
นี่แหละปลาว่ายชื่นชม
ปลาว่ายเวียนใจรื่นรมย์
หากินดินตม
วนว่ายตามใจเสรี
หยอดอาหารใส่ตามมี
กินกันอิ่มหมี
แล้วลอยให้เห็นชวนฝัน
มิสนใจกลางคืนวัน
ระแวดหวาดหวั่น
ประสาปลารักชีพตน
ปลาในอ่างหลังบ้านวน
ว่ายล่องลอยวน
ชมปลาแล้วเพลิดเพลินใจ.
13 พฤษภาคม 2549 15:34 น.
ปราณรดี
ปลายเทียนคล้ายเขียนแสง
จรัสแจ้งกลางมืดมน
ไฟงามยามเยือนยล
กระทบคนสะท้อนใจ
มืดหม่นทนหวั่นหวาด
ปลายเทียนวาดแสงสุกใส
ฤ เทียบเทียมดาวใด
ในยามหม่นหมองมืดนัก
จุดแสงแจ้งจรัส
แม้ไม่ชัดเป็นทางหลัก
แต่เปี่ยมไฟแห่งรัก
คล้ายมือผลักให้สู้ทาง
หากเปลวเทียนพูดได้
สื่อใดเท่าเทียบเทียนวาง
เปลววาดสาดแสงพราง
สิ่งมืดนั้นพลันเลือนหาย
ฟังเสียงเพียงไฟกล่อม
อย่ายอมกับสิ่งดับวาย
ฝ่าฟันอันตราย
ผ่อนคลายเถิดไฟอยู่เคียง
เปลวเทียนคล้ายเขียนแสง
จรูญแรงไร้สำเนียง
สื่อใดยิ่งใหญ่เพียง
เท่าสื่อเสียงเทียนแห่งใจ.
12 พฤษภาคม 2549 00:38 น.
ปราณรดี
วสันตดิลกฉันท์ ๑๔
ยามเดือนละเลื่อนนภจะพร่าง
ลุฉมาสผลิบันดาล
ยังโลกเฉลิมบุชิตะการ
สดุดีพระทรงพล
ก่อเกิดพระองค์ปรมพุทธ
อภิสุทธิเลิศผล
ใสสุดสะอาด ณ พระกมล
ชนะชนและเหนือมาร
เคลื่อนจันทร์วิสาขบุชิตา
พิระกล้าก็เบิกบาน
ตั้งจิตถวายและปฏิญาณ
พิษฐานจะตามองค์
บัญญัติวินัยจะปฏิบัติ
ศิละวัตรละใหลหลง
มั่นแน่นสมาธิสติคง
ศิระนบและวันทา
ยามเดือนละเลื่อนนภจะพร่าง
ก็สว่างจรัสตา
กายใจระลึกสรณะพา
จะสการะแทนคุณ.
11 พฤษภาคม 2549 19:05 น.
ปราณรดี
กลางฟ้ามีฟองดาว
ล้อมจันทร์พราวในเวหา
ประดิษฐ์อาหารตา
เสกไข่ดาวในกะทะ
ค่อยตอกไข่ใส่ลง
น่าหลงใหลไม่อาจผละ
อาหารจานโอชะ
ไข่ร้อนร้อนบนน้ำมัน
ไข่ขาวฟองฟ่องฟู
เพียงแค่ดูก็รู้กัน
อร่อยเพียงใดนั้น
เชิญมาชิมลิ้มข้าวร้อน
กลางฟ้ามีฟองดาว
มีจันทร์พราวมีดาวจร
เชิญเตรียมทั้งจานช้อน
ชิมไข่ดาวขาวนุ่มนัก.
10 พฤษภาคม 2549 13:41 น.
ปราณรดี
มืดหม่นบนฟ้าหมอง
คลั่งคะนองร้องกู่บ้า
หยาดฝนหล่นลงมา
หยดน้ำตาแต้มหน้านอง
ผวาฟ้ามืดมิด
ในดวงจิตยังคิดปอง
ฝันเรื่องเมลืองรอง
เป็นเจ้าหญิง เป็นเจ้าชาย
สาวน้อยปูนปลาสเตอร์
เธอถูกปั้นปลุกความหมาย
สีสันเสกระบาย
ถ่ายทอดฝันอันงามตา
เปลวเทียนดังเขียนวาด
ภาพพิลาสได้ทรงค่า
สะท้อนวอนเวลา
เป็นเรื่องราวเล่านิทาน
เหมือนมอบไมตรียื่น
น้ำใจชื่นดับฟุ้งซ่าน
ฟ้าฝนหล่นเนิ่นนาน
โลกขับขานแม้มืดมน
ตุ๊กตาหน้าใสใส
แสงเทียนไล้ให้เงาวน
คิดถึงเจ้าหญิงซน
ถึงสาวน้อยถึงชีวิต
มิหม่นแม้ฟ้าหมอง
โลกจะก้องซ้องถูกผิด
มีฝันกล่อมห้วงคิด
ปลูกต้นจินตนาการ.