21 มีนาคม 2553 19:21 น.
ปรางทิพย์
มองเกลียวคลื่นกลืนซัดแล้วพัดหาย
กลบผืนทรายชายหาดกวาดซากฝอย
ระรอกพลิ้วลิ่วไล่ไร้ร่องรอย
ทิ้งเปลือกหอยด้อยค่าปรายตาเมิน
นกนางนวลหวนกลับลับขอบฟ้า
ปีกอ่อนล้าถลาบินข้ามถิ่นเหิน
หลายปีผ่านนานวันให้หวั่นเพลิน
เจ้ายับเยินเกินกว่าเยียวยาทัน
นั่งเหม่อมองฟองคลื่นในคืนเหงา
ใต้ร่มเงาเศร้าหม่นปนความฝัน
แม้ไม่สุขทุกข์บ้างหว่างชีวัน
สู้บากบั่นฟันฝ่าอ่อนล้าแรง
ทะเลอีกซีกฟากที่ฝากฝัน
อ้อนจำนรรจ์ปั้นรักจำหลักแฝง
ทุกถ้อยเรียงเคียงใจให้เคลือบแคลง
เสมือนแสร้งแทงมีดกรีดแผลจม
เปรียบนางนวลซวนเซรักเล่ห์หลอน
ปีกเจ้าอ่อนถอนสะอื้นไห้ขื่นขม
เก็บบาดแผลแพ้ใจข้างในตรม
จำฝืนข่มก้มหน้าน้ำตาปรอย
เสียงคลื่นซัดปัดทรายสลายขวัญ
ผ่านคืนวันฝันค้างอย่างเหงาหงอย
ดังคำตอบปลอบใจไยเฝ้าคอย
แค่เพียงถ้อยลอยลมถมไม่เต็ม
6 มีนาคม 2553 20:02 น.
ปรางทิพย์
หยาดน้ำค้างกลางไพรในคืนหนาว
มองดูดาวร้าวจิตยามคิดถึง
หลับตาลงปลงใจให้คะนึง
เพียงคนหนึ่งซึ่งห่างอ้างว้างกาย
เคยบรรเลงเพลงพิณข้ามถิ่นเหงา
พลิ้วแผ่วเบาเคล้าฝันคราจันทร์ฉาย
บรรจงดีดกรีดกล่อมถนอมปราย
สื่อความหมายสายใยใคร่ผูกพัน
เพลงพิณน้อยลอยลมพรมคำหวาน
เสียงกังวาลผ่านจินต์ถวิลขวัญ
ความห่วงหาอาทรอ้อนจำนรรจ์
ฝากรักมั่นสรรหาพาละเมอ
สรรพสำเนียงเสียงไพรไล่ความฝัน
ถ้อยรำพันผันเวียนเปลี่ยนเสมอ
เรไรหรีดกรีดก้องร่ำร้องเจอ
ดั่งคำเพ้อเผลอใจไห้ลำพัง
เพลงพิณร้าวคราวหม่นระคนเศร้า
รักเพียงเงาเขาฝากซากความหลัง
ทิ้งรอยแผลแพ้พ่ายดูคล้ายชัง
ดุจกรงขังฝังปรางมิต่างเลย
หยาดน้ำใสไหลรินยามสิ้นหวัง
ไร้พลังยั้งสิทธิ์จึงคิดเฉย
นัยน์ตาช้ำย้ำเตือนเสมือนเปรย
โอ้ใจเอ๋ยเผยบอกแสนยอกทรวง
20 กุมภาพันธ์ 2553 23:05 น.
ปรางทิพย์
เพลงขลุ่ยแว่วแผ่วเสียงสำเนียงหวาน
เป่าจากกานต์ผ่านใจส่งไปถึง
บอกคนไกลให้หวนทวนคำนึง
ว่าใครหนึ่งซึ้งนักยังรักเนาว์
ขลุ่ยเลาเดิมเริ่มเป่าเคล้าสะอื้น
หลายค่ำคืนฝืนคอยอย่างหงอยเหงา
รินน้ำตาคราเร้นไม่เห็นเงา
เคยหยอกเย้าเขากลับมาลับเลือน
ดอกโมกโชยโปรยกลิ่นพาสิ้นหวัง
รอยแผลรั้งฝังเก็บเจ็บเสมือน
สาดน้ำกรดรดใจไห้สะเทือน
กว่าปีเดือนเหมือนถมจมน้ำตา
ขลุ่ยครวญผ่านม่านฟ้าอุษาสาง
ดั่งเสียงครางนางโศกวิโยคหา
ทุกวจีที่พ้อรอคืนมา
ยามโศกาอาวรณ์ซับซ้อนพูน
บทบรรเลงเพลงเก่าเฝ้าเชือดเฉือน
เพรงรักเตือนเลือนหายคล้ายสาบสูญ
ทิ้งร่องรอยฝอยซากฝากอาดูร
ดั่งกองกูณฑ์คูณทบจบสิ้นมนต์
เรียวมือบางวางขลุ่ยบนปุยหมอน
มะลิซ้อนซ่อนไว้ให้สับสน
ของแทนใจในรักภักดิ์กมล
ฤาเล่ห์ฉลกลลวงห้วงนิทรา
15 กุมภาพันธ์ 2553 02:19 น.
ปรางทิพย์
นกกระยางย่างโย่งกลางโค้งหนอง
สายตามองจ้องเฝ้าเหล่ามัจฉา
จิกปูหอยน้อยใหญ่หากใกล้มา
ทุกท่วงท่าร่าเริงบันเทิงรมย์
ไอ้ทุยพักปลักโคลนเมื่อโดนร้อน
เกลือกคลุกนอนผ่อนคลายหมายสุขสม
หลับตาพริ้มริมหนองข้างคลองตม
ไอแดดลมโลมเล้าเคล้ากลิ่นดิน
ดอกจานบานสะพรั่งบนฝั่งสอง
แว่วนกร้องก้องไพรใจถวิล
เคยนั่งพิงอิงไหล่ใกล้ยุพิน
ร่ายกลอนจินต์ถิ่นรักพำนักกาย
ปี่ซังข้าวว่าวลอยเพิ่งคล้อยเคลื่อน
นอกชานเรือนเดือนสามมะขามหลาย
ร่วมแกะฟั่นปั้นกลมผสมกลาย
บ้างเก็บขายรายทางสรรสร้างกัน
คือมนต์ขลังหลั่งรินถวิลหา
ภาพปลายนาคราเก่ายังเฝ้าฝัน
ขี่ไอ้ทุยลุยทุ่งคุยฟุ้งพลัน
มีเธอฉันกลั้นยิ้มให้อิ่มใจ
กรุ่นไอดินกลิ่นเดิมเติมความหลัง
ด้วยใจหวังยังรักมิผลักไส
เสียงขลุ่ยหวานวานวันคั้นฤทัย
เรียกบางใครไกลตาว่าข้าฯ คอย...
6 กุมภาพันธ์ 2553 20:23 น.
ปรางทิพย์
ยามหัวใจเหนื่อยล้า หงอยเหงา
ขวัญพ่ายรักบังเงา ย่อมช้ำ
วันคืนท่ามสองเรา แสนห่าง พี่เอย
นวลปลอบเพียงขอย้ำ โศกนั้นจางหาย
วันเวลาว้าเหว่โดนเล่ห์หลอน
ห้วงอาวรณ์ร้อนรุ่มไฟสุมเผา
คอยคะนึงถึงใครกลับไร้เงา
ดูอับเฉาเศร้าใจฤทัยคราง
มาเถิดมา...หารักและตักหนุน
ซับไออุ่นกรุ่นนอนก่อนฟ้าสาง
ลืมรอยช้ำดำมืดให้จืดจาง
จงปล่อยวางอย่างน้อยมิคอยใคร
โปรดซบลงตรงนี้นะที่รัก
หลับตาพักสักหน่อยคอยฟ้าใส
เมื่อเหนื่อยกลายหายล้าค่อยลาไป
สู้วันใหม่ในโลกหลังโศกคลาย
จะเก็บรักถักร้อยสร้อยสวรรค์
มาคุ้มกันขวัญพี่อย่าหนีหาย
ขอโอบแนบแอบร่างไม่ห่างกาย
รอพระพายร่ายกวีคีตะกานท์
ดูสิดู...ภูผาคราสิ้นหนาว
งามอะคร้าววาวแสงสีแดงฉาน
ไม้ทิ้งใบไชดอกออกตระการ
ดอกงิ้วบานจานสะพรั่งดั่งเชิญชวน
ฝูงนกไพรในป่าพนาสณฑ์
ต่างบินวนค้นรังเมื่อครั้งหวน
เจ้ากวางน้อยคอยเลาะละเมาะควน
ท่ามกลางสวนล้วนมอบคำปลอบโยน