22 สิงหาคม 2552 06:46 น.
ปรางทิพย์
ชีวิตจริง หญิงหม่น ระคนหมอง
ชายหมายปอง ครองคู่ ดูสับสน
โชคชะตา พาเศร้า เคล้ามืดมน
ดวงอับจน ปนหนาว ร้าวฤดี
ครั้งหนึ่งสพ พบชาย คล้ายหวังช่วย
จิตอำนวย ด้วยคิด ชิดวิถี
คอยปลอบขวัญ หมั่นให้ ในวจี
เขาแสนดี ชี้ถ้อย คอยดูแล
ดังชีวิต ติดหล่ม ปมอาถรรพ์
ความสัมพันธ์ พลันร้าง อ้างว้างแท้
เคยสัญญา ครานั้น มาผันแปร
ทิ้งดวงแข แช่ร่าง กลางฝนพรำ
เหมือนตราบาป สาปไว้ ไร้ศักดิ์ศรี
แม้คนดี ที่ฝาก มาจากซ้ำ
คลื่นชีวิต ผิดหนัก รักระกำ
โดนตอกย้ำ คำหยาม ยามเขาชัง
ดุจพายุ คุกรุ่น หมุนสยาย
เข้าทำลาย หมายบั่น มิทันยั้ง
คลื่นลมโหม โถมทับ ให้ดับพัง
หมดสิ้นดัง หวังใคร ใจบางเบา
เรือลำน้อย ลอยคว้าง กลางลมคลื่น
แม้สุดฝืน ขืนสู้ อยู่หงอยเหงา
มองรอบกาย คล้ายจบ มิพบเงา
โอ้ตัวเรา เฝ้าลอบ ปลอบตัวเอง
17 สิงหาคม 2552 23:03 น.
ปรางทิพย์
ดั่งถ้อยคำ ย้ำถาก พิพากษา
ไร้เมตตา คราโค่น โดนประหาร
ยืนสดับ รับฟัง ทั้งร้าวราน
โดนประจาน ผลาญล่า ฆ่าด้วยคำ
ดาบคมพ่าย ร่ายคำ ย้ำเย้ยหยัน
ทำลายกัน สรรหา วาจาช้ำ
เที่ยวขุดคุ้ย คุยต่อ ข้อลำนำ
ให้ระกำ ย่ำแย่ แค่ข้ามคืน
ด้วยรักนี้ ที่หล่น บนทางท้อ
ใจคนรอ ขอแบ่ง แม้แข็งขืน
หนทางไกล ใช่คั่น กั้นกล้ำกลืน
ดุจจะฝืน ยืนล้า คราเดียวดาย
กระดาษใจ ใครหนา มาขยี้
ให้ยับยี่ บี้บด กดสลาย
เหมือนโดนฉีก หลีกขาด คาดทำลาย
ทำดังคล้าย ตายได้ ให้คามือ
สิ่งเดียวที่ มีเหลือ ไว้เผื่อถาม
ใช่ติดตาม ยามพราก จากกันหรือ
หากหัวใจ ใฝ่หา คว้าได้ฤา
คนใจซื่อ ยื้อรอ ท้อภายใน
ฟังคำตอบ มอบให้ ใจสะท้าน
ขอหยุดกานต์ สานต่อ รอไฉน
ใจระทม ตรมรัก พักที่ใด
ซ่อนอายใคร ไว้ด้วย ช่วยบอกที
14 สิงหาคม 2552 11:09 น.
ปรางทิพย์
ต้นคิดถึง ตรึงจิต ชิดเป็นช่อ
มิรั้งรอ ขอคิด สนิทหวาน
แรกได้พบ สพพักตร์ ดอกรักบาน
หมายสมาน สานต่อ เป็นกอใจ
ต้นรักแตก แยกกอ เกิดหน่อหวาม
ช่างสวยงาม ยามยล จนหวั่นไหว
หวังคลอเคล้า เย้าหยอก ทั้งดอกใบ
มอบกายใจ ให้แนบ แอบซึ้งทรวง
อันต้นงิ้ว ริ้วหนาม ยามรักซ้อน
หลีกหลบซ่อน อ้อนหา คราห่วงหวง
หนามตำเจ็บ เหน็บหนาว ให้ร้าวทรวง
ดั่งกลลวง บ่วงใจ ในหนามคม
มองต้นโศก โยกไหว ไร้จุดหมาย
รักกลับกลาย หายชื่น เหลือขื่นขม
แสนวิโยค โศกเศร้า เฝ้าตรอมตรม
ใจระทม ก้มหน้า น้ำตานอง
เห็นต้นจาก พรากแล้ว แก้วพี่เอ๋ย
ก่อนนั้นเคย เชยชู้ เคียงคู่สอง
เพราะรักซ้อน ซ่อนเงื่อน เตือนใจปอง
อกกลัดหนอง ร้องร่ำ เพียงลำพัง
โอ้ต้นท้อ รอเก้อ เผลอใจร้าว
กับเรื่องราว หนาวใจ ในหนหลัง
เส้นทางรัก หักเห จนเซซัง
เสมือนดัง ยังกาย แต่ไร้ใจ
8 สิงหาคม 2552 13:38 น.
ปรางทิพย์
ในอ้อมกอด สอดอุ่น เคยกรุ่นหวาน
แม้วันวาน ผ่านพ้น หม่นใจหาย
เคยเจ็บช้ำ ย้ำยอก บอกพี่ชาย
กลับสลาย คล้ายปล่อย ลอยเดียวดาย
ดั่งโดนคลื่น กลืนกลบ จบอ้างว้าง
จมอยู่กลาง ทางแยก แตกสลาย
คำพิพาก จากคำ ย้ำให้ตาย
หากชีพวาย คลายได้ ใจอยากทำ
แสงตะวัน พลันแดง แกล้งร่ำไห้
ต่อนี้ไป ใครหนา มาปลอบช้ำ
เช็ดน้ำตา คราเจ็บ เหน็บใจจำ
นั่งระกำ พร่ำโกรธ โทษตัวเอง
มองสายฝน หล่นร่วง ให้ห่วงหา
ยามเหว่ว้า คว้าเงา ใจเหงาเคว้ง
มิอาจเอ่ย เฉยเช่น เน้นด้วยเกรง
ให้วังเวง เพลงเก่า เคล้ารำพัน
ณ วันนี้ พี่ชาย คงหายยอก
มิคิดหลอก กลอกกลิ้ง ทิ้งความฝัน
ยอมก้มหน้า พาตัว มืดมัวทัณฑ์
เขาโจษจัน หันหน้า น้ำตาริน
สิ่งที่ขอ พอแล้ว แก้วพี่จ๋า
โชคชะตา พาพบ แล้วจบสิ้น
ขอจดจำ ลำนำ พร่ำอาจิณ
ใจขาดวิ่น หมิ่นท้อ เพียงรอคอย
7 สิงหาคม 2552 23:27 น.
ปรางทิพย์
สายลมพลิ้ว ปลิวไหว ไกวยอดหญ้า
ไกลสุดตา คราเห็น เป็นริ้วคลื่น
ดั่งสัมผัส รัดรึง ตรึงกลมกลืน
โลมไล้รื่น ชื่นหวาน ซ่านทรวงใน
คล้ายจุมพิต ชิดใกล้ ให้วาบหวิว
สุดสยิว หิวหา พาคลั่งไคล้
กับเรียวปาก ฝากอุ่น กรุ่นฤทัย
นึกคราวใด ให้ร้อน อ่อนระทวย
สายน้ำไหล ใสเย็น เป็นระลอก
ไหลกระฉอก ซอกหิน ประทินสวย
ที่เลี้ยวคด ลดหลั่น เป็นชั้นกรวย
ดั่งเทพช่วย ด้วยแยก แตกเป็นฟอง
บนผิวน้ำ ฉ่ำสาย พรายร่ายริ้ว
ข้างต้นหลิว ทิวพุด ดุจสนอง
เคยหนุนตัก พักกาย หมายใจปอง
ดั่งได้ครอง จองคู่ ชู้ชื่นชม
หอมไออุ่น กรุ่นกลิ่น ถวิลหา
ท่ามนภา ราตรี ที่สุขสม
ระเริงร่าย ก่ายกอด พรอดภิรมย์
แสนสุขสม พรมหอม ล้อมดวงใจ
ปล่อยหัวใจ ไหลตาม ท่ามสายน้ำ
เก็บจดจำ คำหวาน วันวานไว้
คำออดอ้อน วอนถึง คนซึ้งใจ
อีกเมื่อไร ใดหนอ ได้พบพาน