15 สิงหาคม 2548 12:58 น.
ประภัสสุทธ
ค่ายผ่านไปแล้วในตอนเย็นของต้นเดือนสิงหา..ตึกสีขาวหลังนี้นได้รับการทาสีใหม่ตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางเนื้อที่ 26 ไร่เศษ ด้านหลังตัวตึกมีกองหญ้าถูกถางกองไว้ปรากฏให้เห็นดินสีหม่นดูสะอาดตา หน้าอาคารประดับด้วยบอร์ดวิชาการมีดอกไม้กระดาษตบแต่งตามขอบอย่างประณีตแทนที่บอร์ดเก่าที่ถูกรื้อลงสนามเปตองยังมีรอยลูกเหล็กเห็นเป็นดินยุบลงไปหย่อมๆ เมื่อตอนเด็กมาเล่นคงตื่นเต้นกับสนามใหม่ ข้างสนามมีป้ายสีดำเมื่อมปักอยู่ยังหอมกลิ่นสีน้ำไม่ขาด...ตลอดค่ายนั้นฉันพยายามเรียนรู้สิ่งรอบด้าน เริ่มตั้งแต่วันที่มาเยือนในตอนเย็นก่อนวันจริงหนึ่งวันเพื่อเตรียมค่ายพร้อมกับเพื่อนอีกห้าคน
ความจริงฉันพยายามเรียนรู้มาตลอดเมื่อตอนออกหาค่าย พวกเราเดินทางไปโดยมีจุดหมายแค่หนึ่งตำบลกับรถมอเตอร์ไซด์สามคัน จากหมู่บ้านนั้นหมู่บ้านนี้ ฉันและเพื่อนตกลงกันว่าจะมองสภาพความเป็นอยู่ ความขาดแคลน และความเจริญด้านวัตถุของคนในหมู่บ้านนั้นเป็นเกณฑ์เลือก บางหมู่บ้านมีคอนกรีตทอดยาวทุกซอกซอย บ้านแต่ละหลังใหญ่โตมีรถลากันทุกหลัง บางหมู่บ้านทางเข้าลำบากยากเย็นต้องชำนาญขี่รถหลบหลุมใหญ่น้อยเป็นว่าเล่น บ้างฝุ่นกระจายฟุ้งเมื่อผ่านถนนแดงตลบเนื้อตัวจนหมอง ครั้นเวลาเที่ยงก็ขับรถหาร้านอาหารกินเล่นเอาท้องชาไปแต่ละคน..
รสส้มตำที่ชินปากดูเหมือนว่าช่างอร่อยเหลือเกิน แกล้มด้วยปีกไก่ย่างกับข้าวเหนียวกล่องเขื่อง เมื่อท้องอิ่มก็ออกเดินทางต่อ ไม่ลืมที่จะขอบคุณแม่ค้า กับน้ำใจที่ไม่คิดค่าข้าวเหนียวให้ มุ่งหน้าต่อไปตามถนนแดงเก่าๆ จนในที่สุดพวกเราก็พารถมาหยุดอยู่ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งที่ว่างเปล่าไร้ผู้คน เพราะช่วงนั้นโรงเรียนปิดเทอมพอดี สนามบอลดูกว้างใหญ่แต่รกไปด้วยหญ้าที่ขึ้นเต็มพื้น ห้องน้ำไม้เก่าๆมีรอยกระดานแตกเป็นรู...ลมพลิ้วหอบเอาฝุ่นและเศษใบไม้คลุ้งโลมไล้ทางดินทรายที่ทอดยาวเข้ามาโรงเรียน บ่ายแก่วันนั้นพวกเราเดินทางกลับด้วยอาการอิดโรยกันทั้งหมด ในใจแต่ละคนคงไม่ลืมนึกถึงที่ที่จะไปมอบความสุข กิจกรรมปันยิ้ม และเนรมิตโรงเรียนแห่งนั้นขึ้นใหม่...
เย็นวันนี้ฉันกระอักกระอ่วนใจที่จะตอบคำถามเด็กน้อยที่ถามฉันด้วยอาการเศร้าปนอาลัยว่า " อ้ายสิกลับมาอีกบ่ครับ " ฉันตอบพลางยิ้มอย่างอายๆว่า" อ้ายกะบ่ฮู้คือกัน " ความรู้สึกตอนนั้นเหมือนคนเยือกเย็นที่มอบความเมตตาให้และจากไปอย่างไม่แยแส ฉันคร่ำคิดอยู่ตลอดทางกลับบ้านต่อคำถามเด็กน้อย...
แม้งานบางอย่างที่ได้ทำให้กับโรงเรียนจะหนักหน่วงเอาการ ต้องใช้เวลาและความละเอียดมาก แต่ด้วยความมุ่งมั่นกับเวลาที่จำกัดในหนึ่งวัน คงทิ้งให้เห็นร่องรอยความเร่งรีบของการทาสีตึก ขอบวงกบประตู หน้าต่างยังเลอะสีดูรกตา พื้นซีเมนต์เป็นจุดด่างพล้อยเมื่อสีตกใส่ สิ่งของที่นำออกมาจากในห้องเรียน ยังคงถูกกองอยู่หน้าห้องอย่างไร้ระเบียบ รอการเก็บเข้าที่ของอาจารย์ที่มีหน้าที่เป็นทั้งผู้สอนและภารโรงเนื่องเพราะไม่มีภารโรง นักเรียนที่เข้าร่วมวันนี้มี 40 คนจาก 46 คนซึ่งถือว่ามีจำนวนน้อยมากกับการตั้งอยู่ได้ของโรงเรียนประถม
...เด็กน้อยยืนเรียงหน้าทำตาเศร้าสร้อย คอยการจากไปของเหล่าพี่นักศึกษา รถหกล้อค่อยๆเคลื่อนตัวออกจากที่ เสียงร่ำลาดังเจื่อขึ้นผสมเสียงเครื่องยนต์ที่กำลังเคลื่อนผ่านตึกสีขาวหลังนั้นไปอย่างช้าๆ...