22 มกราคม 2551 17:09 น.
ประภัสสุทธ
ค่อนจะแจ้ง
ลมแยงเย้ยหยอกหมอกหนา
น้ำค้างลู่เม็ดหยดระย้า
พริบพราวเกลื่อนคันหญ้าระยับ
แดดแย้มฟ้า
สว่างท้องนาไกลลิบลับ
กิจกรรมกิจการจึงขยับ
ลางลงจอบลางลงสับกลางดิน
ชาวนาหน้าแล้ง
หน้าก่ำแดงออกแรงเหงื่อริน
จะลงฟักปลูกแฟงเอาไว้กิน
ท่าว่าฝนโปรยกลิ่นจะมาแล้ว
ลมมาโผย
ผันหัวกุดค่อยค่อยแผ่ว
คลุ้งกล้าฟักหมากแฟงตายเป็นแถว
เมื่อลมแผ้วก็พบเพียงผงดิน
ตาวันต่ำ
ดาวดาษค่ำย่ำเช้าไม่จบสิ้น
แต่น้ำตาชาวนายังเหลือริน
ผิจะนองแผ่นดินเพื่อทำนา
ข้าวในครก
กอบมาตกก้นครกพร้อมน้ำตา
จะนึ่งข้าวแทนของเครื่องบูชา
วอนฝนฟ้าหล่นมาชำระดิน
15 มกราคม 2551 16:06 น.
ประภัสสุทธ
ชนพ.
ซุ้มสร้างเรื่องราวร้อยความฝัน
ตรงมุมตึกคึกคักคราวรวมกัน
ต่างยิงยิ้มอิ่มความฝันอุ่นเอมใจ
ชนพ.
เชิญเถิดนั่งลงพักใต้ร่มไผ่
ก็ยอป่าอีกไม่นานคงแตกใบ
แล้วเงาไม้จะแผ่ใหญ่ให้ร่มให้เย็น
ชนพ.
ล่วงผ่านไปดั่งเคยเห็น
ที่ออกค่ายก็ออกค่ายไม่เคยเว้น
ที่กินเหล้าและนั่งเล่นก็เป็นไป
ชนพ.
อีกกี่คราวและอีกคราว พ.ศ.ไหน
ความรักและมวลมิตรในจิตใจ
คงกุมเกาะเป็นเยื่อใยรกเรื้อรัง
ชนพ.
ต้อนรับผู้มาใหม่มากแรงหวัง
กายท่านแรงเหงื่อก็รินมีพลัง
เชิญก่อทางต่อความหวังที่ยังคอย
ชนพ.
มีบางสิ่งทิ้งไว้ให้เป็นร่องรอย
ในความคิดหรือห้วงนึกทุกท่วงถ้อย
เป็นเรื่องเล่ายามเหงาหงอยตอนชรา...