25 มกราคม 2553 08:36 น.
ปติ ตันขุนทด
ฝึกโคลงกลอนเรื่อยรี้ ทุกวัน
เสริมส่งภาษาสวรรค์ เยื่องย้าย
คมคิดแต่งแปลงปัน ผองเพื่อน
เราต่างมีสุขคล้าย อยู่ห้องเดียวกัน
สาวสวรรค์นางพี่แย้ม เยือนมอง
งามชื่นจิตชวนปอง เกี่ยวใกล้
โคลงกลอนแม่ลำพอง ชวนอ่าน
ควรคู่ยกนางไว้ ที่ห้องเรียมเอง
22 มกราคม 2553 13:00 น.
ปติ ตันขุนทด
กายจิตปรุงแต่งสร้าง อุปทาน
มัดมั่นในสันดาน เร่าร้อน
คราใดหน่ายสังขาร คลายปล่อย
เห็นทั่วทุกข์ภัยส้อน นั่นแล้ปัญญา
พระศาสดาช่วยชี้ สายกลาง
เดินสู่นิพพานทาง ผ่องแผ้ว
เพียรไปย่อมเบาบาง เกลสหม่น
ถึงซึ่งมรรคผลแก้ว แต่ต้นโสดา
20 มกราคม 2553 15:59 น.
ปติ ตันขุนทด
วาศินีนี่นี้ สาวไทย
มองแม่ไยอาลัย รุ่มร้อน
พิสวาทเยี่ยมแทงใจ ปรุโปร่ง
ขอพี่วอนอิงอ้อน แต่งไว้ในเรือน
(ภาพน่ารัก ชูสองนิ้ว แปลว่าเราสองคนเนาะ)
20 มกราคม 2553 13:25 น.
ปติ ตันขุนทด
รักกันสรรค์แต่งสร้าง คำหวาน
รักพี่แสนทรมาน ห่างน้อง
รักเราชื่นเชยบาน เคยอุ่น
รักล่มอกเรียมร้อง ห่มไห้อาลัย
19 มกราคม 2553 10:24 น.
ปติ ตันขุนทด
ปีสองห้าสี่เจ็ดต้องเตร็ดเตร่
ดีใจรับเรื่องย้ายไม่โยเย
สมคะเนทำงานบ้านสุขฤทัย
อยู่ตำบลท่าตอนติดแม่จัน
เขตอรัญแม่อายปลายเชียงใหม่
จรจากบ้านคายมาจิตอาลัย
ต้องลาไกลบัวคำคนงามพร้อม
ครูบ้านคายครบครันสัญจรส่ง
เหมือนเผ่าพงศ์พูนพิศจิตถนอม
จีรพันธุ์หัวหน้าศรัทธาฮอม
ได้เลี้ยงล้อมส่งสันต์กันฮาเฮ
นายสมเพชรชัยวรรณ์นั้นครูใหญ่
โรงเรียนบ้านสุขฤทัยใจสรวลเส
นักเรียนกว่าหกร้อยบ้างเกเร
ครูทุ่มเทเขคักให้รักเรียน
นักเรียนจากกอแอเป็นอาข่า
จากบะหลาเป็นลีซอก็มาเขียน
อีกอาซุก็อาข่ามาพากเพียร
ร่วมรักเรียนกับอาจารย์บ้านสุขฤทัย
สอน ป.หก อกใจมอบให้ศิษย์
ไม่ขุ่นคิดว่าอาข่าเป็นสาไถย
เอ็นดูหมู่ชาวเขาเช่นชาวไทย
จึงได้ไมตรีตอบศิษย์นอบนบ
สอนศิษย์สัปดาห์เดียวต้องเลี้ยวลด
ไปถือพรตพร่ำคาถามรรคาสงบ
จำพรรษาสามเดือนจนเคลื่อนครบ
ศึกษาจบวิปัสนาวัดท่าตอน
อุทิศส่วนกุศลศีลสิ้นดินฟ้า
พระราชามารพรหมกรมอัปสร
สัตว์นรกโลกันต์ต้องฑัณฑ์กรณ์
ขอปันพรพร้อมเพรียงเสี้ยงสิ้นเวร
กลับมาสอนศิษยาอุรารื่น
บางวันหื่นทัศนาป่าเขาเล่น
ขับรถเครื่องขึ้นเขาลำเนาเนน
เลี้ยวบ่ายเบนอ้อมสิงขรเร่ร่อนไกล
ไปเลาต๋าบะหลายะผ่าเนิน
เที่ยวเพลิดเพลินเจริญตาจะหาไหน
ขึ้นทางเหนือโลดลิ่วถึงกิ่วสะไต
วกซ้ายไปแม่สะลองปองชิมชา
ลงแม่จันขึ้นแม่สายไปท่าขี้เหล็ก
ดูสาวเจ๊กแม่ม่านเมืองเมียนม่า
สองปรางนางประเหลืองเครื่องไล้ทา
งามจับตาน่าชมประโลมลอง
อยู่สุขฤทัยได้สังเกตเจ็ดนางฟ้า
นางรจนาสุขฤทัยใสผุดผ่อง
เล่นระบำรำร่ายชายตามอง
ท่วงทำนองเพลงจีนระรินรส
อยู่สองปีมีภัยเขาให้ย้าย
ลาแม่อายอบอุ่นบุญเราหมด
ลาลูกศิษย์มิตรรักหักรันทด
สู่บรรพตวิทยาพนาพนม
อาลัยลามาลีมานีนิตย์
ทั้งสมคิดอุไรใจขื่นขม
ลาบูสือลายมือดีที่นิยม
เคยอบรมเพลิดเพลินเจริญใจ
เธอจงเพียรเรียนต่ออย่าท้อถอย
ครูยังคอยห่วงหาอัชฌาสัย
อย่าลุ่มหลงร้อนรักจักมีภัย
ให้เติบใหญ่ยิ่งยศปรากฏคุณ
แล้วขับเคลื่อนเลื่อนรถเลี้ยวคดโค้ง
ทางยาวโยงคิดหลังยังข้องขุ่น
เข้าแม่จันจรดเชียงแสนดินแดนบุญ
แผ่การุณเมตตาคาถาธรรม
เลียบลำโขงโค้งไถลไปเรื่อยเรื่อย
หลังมึนเมื่อยเหนื่อยอ่อนนอนแรมค่ำ
บ้านหาดบ้ายชายโขงกระท่อมคำ
ชาวเรือทำไว้พักพบเพื่อนลาว
อรุณรุ่งมุ่งเมียงเวียงเชียงของ
ขับไม่คล่องมองข้างหน้าหมอกหนาหนาว
หยุดชมงามข้ามโขงเป็นครั้งคราว
โขงยืดยาวลาวไทยใจผูกมัด
เข้าเทิงเที่ยงถึงเวียงแก่นจนบ่ายคล้อย
วกขวาอ้อยอิ่งบึ่งถึงปางหัด
หักเลี้ยวซ้ายป่ายไปในพนัส
ขึ้นป่าชัฎเขาเขินเนินกันดาร
ไปกราบพระขอพักวัดผาตั้ง
ขอหยุดยั้งยลเขตประเทศสถาน
สิบหกมกราสี่เก้าเข้าร่วมการ
เนื่องในงานวันครูเวียงแก่นกรม
เสร็จกลับมาถึงวันใหม่ใจสะอาด
ลาอาวาสพระคุณอุ่นผ้าห่ม
ขับรถขึ้นโรงเรียนรื่นอารมณ์
นึกนิยมน่าอยู่ดูงามตา
จอดรถพบนบท่านเกียรติศักดิ์
ไม่รู้จักทักว่ามาเที่ยวก๋า
ตอบผมย้ายจากบ้านสุขฤทัยมา
ท่านยิ้มร่ารับสารรายงานตัว
พักบรรพตใจปลื้มค่อยลืมหลัง
นอนลำพังห้องครึ้มสลึมสลัว
มีเมฆหมอกหม่นหม่นแลมืดมัว
มองมัวซัวเห็นไม่ชัดอึดอัดนึก
จากสุขฤทัยมาพึ่งถึงบรรพต
เขียนสะกดจดไว้ให้ตรองตรึก
ถึงความหลังครั้งคราวอยู่เขาลึก
ไว้เป็นผลึกอนุสรณ์แต่ก่อนเอยฯ