ครันว่า....ยินคำเว้าขมในในอย่าฟ่าวจ่ม ลางเทื่อขมขี่เพี้ยภายหน้าหากสิดี บ่ฮู้อย่าฟ้าวติเตียนเว้าผักกะเดาว่าขมเฝื่อน ได้กินกับลาบก้อยสิหลงย้องว่าดีซื่อว่าแนวเด็กน้อยตากอกอความคิดม่อ ได้ ก ข ข้อหล้อ ความเว้าอยู่ดาวซื่อว่าแนวความเว้าของคนมันเกินง่าย ได้ทั้งหงายแลขว่ำความเว้าบ่อยู่ความเขาฮักเขาก็ย้องเขาซังเขาก็ว่า คือดั่งบักเขือเม้าเหมาเฒ่าเห่าแต่เขาครันเอาฌอ็ดดีแล้วเขาสิซังก็ตามซ่าง ครันเฮาเฮ็ดแม่นแล้วสิหยันหย้อก็ซ่างเขาเขาสิพากันท้วงทั้งเมืองก็บ่เหยี่ยง เขาสิติทั่วค่ายขายหน่ากะบ่อายบุญมีได้เป็นนายให้เขาเพิ่ง คันแม่นบุญบ่พร้อมแสนสิดิ้นก็เปล่าดายคันคอยแต่บุญมากค้ำบ่ทำการกะบ่แม่น คอยแต่บุญส่งให้มันสิได้ฮ่อมใดคันได้ขี่ซ้างแล้วอย่าดังเปิดดังเหิน อย่าได้เสินเสินหัวแย่งสิพาพานฮ้ายคันว่าได้ขี่ซ้างให้หาแย่งยองหลัง คันบ่ยองแย่งลงสิบ่สมทรงช้างซื่อว่าแนวนามซ้างพลายสารเผือกผ่อง มันหากเกิดอยู่ห้องดงกว้างด่านไพรอัศจรรย์แต่หมาขบซ้างสารแฮงล้มท่าว มาอีดูบาดซ้างลุกขึ่นได้หมาสิไห้ต่อสารครันว่าได้ขี่ซ้างอย่าลืมหมู่หมูหมา ห่าขโมยมาลักสิเห่าหอนให้มันย้านลางเทอกวางฟานเต้นในดงสิได้ไล่ คันหากได้ต่อซิ้นยังสิโอ่อ่าวคุณ**ถวิล ทองสว่างรัตน์ ประวัติผู้ไทย และชาวผู้ไทยเมืองเรณูนคร โรงพิมพ์ศรีอนันต์ กทม 2530**
พระยาจักรีชั่วช้า ทรยศเอาพม่าเป็นกำหนด เที่ยงแท้กรุงศรีัอ่อนรันทด เสียแก่ พม่าแฮเป็นแต่ไทยเองแล้ ช่วยข้างพม่ามอญฝ่ายพระเจ้าหงสาวดีบุเรงนองให้เข้าระดมตีกรุงศรีอยุธยาอีกหลายครั้งก็เข้าเมืองไม่ได้ เพราะข้างในกรุงฯ ข้าราชการทั้งปวงพร้อมใจกันต่อสู้เป็นสามารถ จนถึงเดือน ๗ ยังตีกรุงศรีอยุธยาไม่ได้ จึงคิดกลอุบาย เอาพระยาจักรีซึ่งได้ตัวไปจากกรุงศรีอยุธยาคราวเสียพระสุริโยทัยนั้นมาเกลี้ยกล่อม พระยาจักรีรับอาสาจะเข้ามาเป็นไส้ศึก พระเจ้าหงสาวดีจึงแกล้งให้จำพระยาจักรีแล้วเอาตัวไปคุมไว้ในค่ายตะวันตก สั่งเป็นความลับแก่นายทัพที่ควบคุมให้แกล้งทำละเลยให้พระยาจักรีหนีมาได้ทั้งเครื่องพันธนาการ เวลากลางคืนวันหนึ่ง พระยาจักรีหนีมาทั้งเครื่องพันธนาการ เข้ามาหาเจ้าหน้าที่รักษาพระนครทางด้านวัดสบสวรรค์ ครั้นรุ่งเช้านายทัพพม่าซ้ำให้เอาผู้คุมมาตัดศีรษะเสียบไว้ที่ริมน้ำให้ไทยเห็น จะมิให้สงสัยว่าแกล้งปล่อยพระยาาจักรีเข้ามา พระมหินรไม่ทราบว่าเป็นกลอุบายของบุเรงนอง สำคัญว่าพระยาจักรีหนี (คิดโง่ ๆ ) เข้ามาได้ก็ยินดี (จะเสียกรุงเพราะคิดเชื่อคนทรยศ) จึงตั้งพระยาจักรีให้เป็นผู้บัญชาการรักษาพระนครแทนพระยาราม พระยาจักรีก็ตั้งต้นคิดอุบายทรยศต่าง กล่าวคือ ทูลยุยงว่า พระศรีเสาวราชน้องยาเธอจะเป็นขบถ จนถูกสำเร็จโทษ ๑ ข้าราชการคนไหนที่มีฝีมือต่อสู้ข้าศึกเข้มแข็งก็แกล้งย้ายหน้าที่ให้ไปรักษาการทางที่ไม่มีข้าศึกจะเข้ามา ๑ เอาคนที่เห็นว่าอ่อนแอมารักษาหน้าที่ที่สำคัญ ๑ พระยาจักรีพยายามทำการทรยศมาจนเห็นว่าการรักษาพระนครอ่อนแอมากเต็มทีแล้ว ก็ลอบให้สัญญาออกไปยังกองทัพพระเจ้าหงสาวดีบุเรงนอง บุเรงนองจึงให้ระดมตีพระสนครพร้อมกันทุกด้าน ก็เสียกรุงศรีอยุธยาแก่พม่า เมื่อวันอาทิตย์ เดือนเก้า แรมสิบเอ็ดค่ำ ปีมะเส็ง พ.ศ. ๒๑๑๒ คิดเวลาตั้งแต่ล้อมเมืองมาได้ ๙ เดือน ( 9 เป็นเลขดี ที่เสียกรุงในเวลาเก้าเดือน) บุเรงนองเอาพระยาจักรีไปเลี้ยงไว้หน่อยหนึ่ง แล้วก็พาลเอาผิดให้ประหารชีวิตเสีย ด้วยเกลียดชังว่าเป็นคนทรยศต่อบ้านเมืองของตนเอง ***ไทยรบพม่า*** กรมพระยาดำรงราชานุภาพ บรรณาคาร กรุงเทพฯ
ขอเดชะพระเจดีย์คีรีมาศ บรรจุธาตุที่ตั้งนรังสรรค์ข้าอุตส่าห์มาเคารพอภิวันท์ เป็นอนันต์อานิสงส์ดำรงกายจักเกิดชาติใดใดในมนุษย์ ให้บริสุทธิ์สมจิตดังคิดหมายทั้งทุกข์โศกโรคภัยอย่าใกล้กราย แสนสบายบริบูรณ์ประยูรวงศ์ทั้งโลโภโทโสแลโมหะ ให้ชนะใจได้อย่าใหลหลงขอฟุ้งเฟื้่องเรืองวิชาปัญญายง ทั้งให้ทรงศีลขันธ์ในสันดานอีกสองสิ่งหญิงร้ายและชายชั่ว อย่าเมามัวหมายรักสมัครสมานขอสมหวังตั้งประโยชน์โพธิญาณ ตราบนิพพานชาติหน้าให้ถาวรนิราศภูเขาทอง ของ สุนทรภู่
คิดถึงฟ้ามองฟ้าหาฟ้าสาว คิดถึงคราวฟ้าสวยด้วยดาวใส คิดถึงเดือนเดือนงามแจ่มอำไพ คิดถึงใจจิดข้าหวังคว้าดาว โอ้ดาวเอ๋ยเคยชิดสนิทสนม มาพลัดชมเชยงามเพราะคำกล่าว คนเขาพูดใส่ความสองสามยาว เจ้างามขาวคมคิดไม่พิศฟัง ไปหลงเชื่อคนพาลสันดานหยาบ มันหมายคาบคนงามเอาตามหลัง เจ้าลาพี่พี่ยังรักแต่เจ้าชัง พี่ฝากฝังฟ้าดาวดูเจ้าแทน ขอหลีกลับเลยลาเป็นดาบส หนีรันทัดเสกสวดพระธรรมแถน เกิดแสนชาติปรารถนาวิมานแมน ได้พบแสนสุดสวาทไม่คลาดคลา
รักกันสรรแต่งสร้าง คำงามหากไม่รักลืมถาม ข่าวข้ออนิจจังอย่าคิดความ ปรุงแต่งทุกอย่างสูญจริงน้อ บ่ต้องอาลัย