27 พฤษภาคม 2549 11:09 น.
บ้านวรรณกรรมคนตัวเล็ก
แม้ว่าจะนำพาชีวิตน้อย ๆ ล่องลอยเหนือม่านฟ้ามาอีกซีกโลกหนึ่งจากประเทศไทย แต่ใจก็ยังคงถวิลหาแผ่นดินมาตุภูมิเสมอ
เกือบครบ ๑ ปีแล้ว ที่ต้องแจวจรจำจากพรากบ้านเกิดเมืองนอนมาอาศัยบนผืนแผ่นดินสหรัฐอเมริกา ดินแดนที่คนนับแสนนับล้าน คืบคลาน ไขว่คว้า และดิ้นรนเพื่อให้มาอาศัยหายใจสักครั้งในหนึ่งชีวิต แม้เพียงช่วงเวลาน้อยนิดก็ตามที
"คนตัวเล็ก" อดีตเด็กน้อยบ้านนา ผู้หอบความหวังมาตั้งหนึ่งกระเป๋าใหญ่ ได้มีโอกาสมาลืมตา อ้าปาก ขากเสลด และเหน็ดเหนื่อยสุดจะพรรณนา ทั้งกายาและดวงฤทัย
ตอนแรกคิดว่าโชคดีแล้วล่ะ ที่จะได้ไปเห็นเมืองฟ้า ที่ใครหลายคนปรารถนา (ทั้งนี้ อาจปราถนาทั้งไปและกลับ) แต่คิดไปคิดมา จะอยู่ที่ไหน ๆ เราก็ต้องรับผิดชอบกายและใจของเราอยู่ดี ชีวิตนี้เลือกที่จะลิขิตได้นะ ถ้ากำลังสติปัญญาและวาสนาเก่าที่เราสั่งสมผสมกลมกลืนกันได้อย่างสมดุลเป็นดุลยภาพ ที่ฉาบทาด้วย "ไฟฟัน" ในปัจจุบันที่เราเห็นและเป็นอยู่
ถามว่า เหนื่อยไหมในสิ่งที่ทำอยู่ งานครูอาสาเป็นสิ่งที่ต้องรับอาสาอยู่ร่ำไป ยิ่งเมื่อจากผืนแผ่นดินไทย ใครจะวาน ก็ต้องขานรับ ขับสู้ และอยู่ให้ทน ทนได้ก็ทน ทนไม่ได้ก็ต้องทน เพราะดิ้นรนมาแล้ว ไม่ต้องห่วงเรื่องจะกลับ เพราะเมื่อครบวาระ ถึงเวลาวันนั้น ก็มีอันต้องจากลาสู่แดนดินถิ่นมาตุภูมิ
แต่ก็อดมิได้ที่จะส่งใจ ส่งสายตา ผ่านสื่อสารพัดชนิด เพื่อรับรู้ทั้งวิกฤตและโอกาส ของคนทั้งชาติ และโอกาสน้อย ๆ เพื่อชีวิตน้อย ๆ ที่ยังล่องลอยไร้จุดหมายในวินาทีที่เงียบเหงา...เจ้าตัวเล็ก
เห็นภาพเพื่อนครูผู้อาสาพัฒนาปัญญาและวิชาการ สู่ม่านใจของเยาวชนไทยในแดนใต้ ผู้ฝันใฝ่ด้วย "ไฟฝัน" ว่าจะมีโอกาสเรียนรู้ ศึกษา และพัฒนาตนเอง ในครรลองสมควรจะเป็น
แต่ภาพหนึ่งซึ่งเพิ่งพบเห็น คราบน้ำตากระซ่านเซ็นด้วยความเจ็บปวดร้าว แต่ด่าวดิ้นสุดแรงเกิดของชีวิต ๆ หนึ่ง ซึ่งได้ชื่อว่าแม่พิมพ์ของชาติ น้ำตาผสมน้ำเลือดไหลผ่านรอบขอบม่านตาที่บอบซ้ำ ย้ำเตือนใจให้รำพึง รำพัน หวั่นไหว ใจกำสรวลยิ่งนัก
วันนี้ "ไฟฝัน" ที่ครูอาสาด้วยชีวิต ได้เริ่มมืดมิดลงเรื่อย ๆ แสงแห่งฝันที่เคยเจิดจรัสได้ถูกตัดแทบขาดสิ้น ดั่งสายฟ้าฟาดลงตรงผืนธรนินทร์ สิ้นแล้วหรือคนดีที่ฉันเฝ้าฝันถึง และคำนึงอยู่เสมอมา แม้ว่าจะไม่ได้หายใจในผืนแผ่นดินนี้ ก็ยังหวังและตั้งฤดีว่า จะได้ยินและรับรู้เรื่องราวที่เชิดชูใจ ในทุกครั้งคราที่หันกลับมาสยามประเทศ
ผืนเขตที่มีองค์ภัทรราชาผู้ทรงทศพิธราชธรรมค้ำแผ่นดิน แต่ครูผู้บริสุทธิ์กลับต้องมาแดดิ้นปานจะสิ้นใจ ใต้ร่มพระบารมี ความพอดีและความพอเพียง หนึ่งเสียงสะท้อนจากพระโอษฐ์ พระผู้โปรดปรานความสุขสงบและสันติวิธี บัดนี้ มีใครสนใจบ้าง
จะต้องเสียสละอีกกี่ร่างเพื่อสร้างชาติ อีกกี่ภัยพิบัติจากการขัดแย้ง แข่งขัน ฟาดฟัน และบีฑา จากใจของผู้ไม่รู้คุณค่าของความพอดี สยามประเทศแห่งนี้จึงจะสมดังพระปฐมบรมราชปณิธาน ที่ว่า
"เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขของมหาชนชาวสยาม"
วันนี้ "ไฟฝัน" ในการสร้างชาติให้รักสงบ กลับกรีฑากันยกธงรบแทนธงชัยไตรรงค์ แล้วจะดำรงความเป็น "ไทย" ได้อย่างไร
วานผองเพื่อนผู้เยื่อมเยือนลานกวีแห่งนี้ ได้ช่วยกันสรรค์สร้างพลังแห่งสันติวิธี ร่วมร้อยวจีเพื่อหลอมรวมใจ คนไทยทั้งชาติ ถวายเบื้องบาทพ่อหลวงแห่งปวงชนชาวไทย ในมงคลวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงครองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปี
หวังใจว่า ๖๐ ปี ใต้ร่มพระบารมีที่ทรงเสียสละอย่างยิ่ง จะเป็นมิ่งมงคลดลใจให้ไทยทั้งชาติ หันมาสมัครสมานสามัคคี เพื่อความอยู่ดีมีสุขของทุกคนในสังคม
ไฟฝัน
-----------------
ดวงไฟฝันวันนี้ริบหรี่แล้ว
แรงใจแผ่วเพื่อนครูอยู่หวาดหวั่น
อนาถจิตคิดหวนทบทวนกัน
ร่วมรังสรรค์สานถ้อยร้อยมาลี
เพื่อมอบแทนดวงใจให้พิมพ์ชาติ
ยังหวั่นหวาดระแวงไร้แสงสี
สละตนทนอยู่ทั้งรู้ดี
ว่าวันนี้มีภัยมาใกล้ตัว
ร้อยดวงใจไฟรักประจักษ์จิต
ร่วมลิขิตบทกลอนสะท้อนทั่ว
ให้กมลคนผิดคิดมัวเมา
เปลี่ยนจากชั่วเป็นดีธานีเย็น
--------------------
บ้านวรรณกรรมคนตัวเล็ก
๒๗ พฤษภาคม ๒๕๔๙
หวังใจว่า วันหนึ่งข้างหน้า กลับมาสู่มาตุภูมิ จะได้พบเจอสิ่งที่น่าภาคภูมิใจบ้าง