22 มิถุนายน 2551 04:45 น.
บ้านวรรณกรรมคนตัวเล็ก
ชีวิตนี้เปรียบเป็นเช่นละคร
ถึงบทตอนต้องเปลี่ยนเวียนวิถี
บทบาทเดิมเติมต่อพอเข้าที
ต่อจากนี้บทใหม่ให้ทดลอง
อาจจะมีทั้งสุขและทุกข์เคล้า
ทั้งโศกเศร้าเริงรื่นชื่นใจผ่อง
แต่ละบทบาทเราเฝ้าประคอง
ตามทำนองชีวิตติดต่อไป
มิมีสิ่งจริงแท้แน่นอนดอก
เหมือนภาพหลอกลวงจิตติดหลงใหล
พาโศกเศร้าระทมขมขื่นใจ
ชวนจิตให้ทุกข์หนักคราพรากจร
ไม่ว่าเขาเราท่านเหมือนกันหมด
บริบทชีวิตคิดนุสรณ์
สิ่งทั้งหลายถึงครามิถาวร
ล้วนถึงตอนเปลี่ยนไปไม่มั่นคง
บ้านวรรณกรรมคนตัวเล็ก
๒๑ มิถุนายน ๒๕๕๑
นครซีแอ๊ตเติ้ล รัฐวอชิงตัน
1 มิถุนายน 2551 03:07 น.
บ้านวรรณกรรมคนตัวเล็ก
อัลมิตรา เขียน (แสนปวดหัว เพราะผัวเป็นกวี) :-
เขียนอักษรตอนหิวไส้แห้งโหย
จงอดทนอย่าโวยโอดโอยหนอ
ปากกาคนทนไปทนให้พอ
ปากเมียขอข้าวอิ่มชิมลำพัง ๚ะ๛
เตือนตนคนกวี
นั่งคิดคำออดอ้อนป้อนคำหวาน
เวลาผ่านพ้นวันมิหันหลัง
มองความจริงสิ่งที่มีประดัง
มัวแต่นั่งเขียนกลอนวอนเห็นใจ
ถ้าเขียนกลอนส่งขายก็ไปอย่าง
แค่เขียนอ้างวาทะว่ายิ่งใหญ่
ขายมิออกลอกเขามาดัดไป
อาจถูกไล่เก็บเบี้ยพาเสียคน
เรื่องการงานหน้าที่มิเป็นท่า
ใช้เวลาพากเพียรเขียนพร่ำบ่น
หญิงหรือชายไม่ต่างทางอับจน
หากมิสนทำงานสักวันจม
เพียงคำหวานผ่านใจไม่อิ่มแท้
ปากท้องแย่พร่องอยู่สู้อดข่ม
สักวันต้องแตกหักพักปรารมภ์
หวานเป็นขมสักวันฉันทำนาย
ชีวิตนี้อยู่ได้ทั้งกายจิต
รวมเป็นหนึ่งชีวิตขีดความหมาย
รับผิดชอบตนเป็นเน้นใจกาย
ตราบชีพวาย "เตือนตนคนกวี"
บ้านวรรณกรรมคนตัวเล็ก
๑ มิถุนายน ๒๕๕๑