18 สิงหาคม 2549 12:13 น.
บ้านวรรณกรรมคนตัวเล็ก
จากมานานบ้านนาและป่าไร่
สู่กรุงใหญ่หลายปีที่เสาะหา
ได้เรียนรู้ชูตนบนมรรคา
ปริญญาบัตรนั้นฉันก็มี
เคยเป็นครูผู้ช่วยอำนวยสอน
อาสาผ่อนเงินส่งเผ่าพงษี
สู้เก็บหอมรอมริบหยิบแต่ละที
ต้องพิถีพิถันสำคัญนัก
ชีวิตนี้มีแปรและเปลี่ยนเรื่อย
แม้เหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าควรตระหนัก
รอบคอบไว้ใจเราเฝ้าพิทักษ์
จะมีหลักปักจิตลิขิตตน
จากบ้านนอกคอกนามาเมืองหลวง
กาลลุล่วงช่วงวัยได้ฝึกฝน
เหินลัดฟ้าหาฝันอันแยบยล
ยังต้องทนขายแรงแข่งเวลา
ประสบการณ์ผ่านมาสารพัน
ยังไหวหวั่นพรั่นพรึงคะนึงหา
ยามเม็ดฝนหล่นโปรยลมโชยมา
โอ้บ้านนาข้าเป็นเฉกเช่นใด
อยากจะกลับคืนนาข้าเคยอยู่
ย้อนคืนสู่อู่เคยนอนดอนนาไร่
แต่ต้องทนปนทุกข์คลุกเคล้าไป
อีกเมื่อไหร่ได้กลับมิทราบเลย
--------------------
บ้านวรรณกรรมคนตัวเล็ก
๑๗ สิงหาคม ๒๕๔๙
17 สิงหาคม 2549 11:19 น.
บ้านวรรณกรรมคนตัวเล็ก
ยังจำได้ไร่นาข้าเคยอยู่
เหมือนดังอู่เคยนอนสะท้อนค่า
เมื่อเติบใหญ่ได้จากพรากบ้านนา
ยังหวนหาเสมอไม่เจอนาน
ยามเมื่อฝนหล่นโปรยลมโชยโบก
วิปโยคตกไกลรอยไถผ่าน
ถอนกล้ามัดจัดวางหว่างไม้คาน
ล้มคลุกคลานค้นนาครายังเยาว์
อุ้มกล้าหนักปักดำกรำแดดฝน
สู้อดทนก้มเงยเผยความเก่า
บ่งบอกถึงครึ่งชีวีนี้ไม่เบา
เริ่มจะเล่าความหลังครั้งวานวัน
ลุปลายฝนต้นหนาวคราวลมกลับ
หนาวเริ่มจับนับดาวเมื่อคราวนั่น
เก็บเกี่ยวข้าวออกรวงเร่งช่วงกัน
เดี๋ยวมิทันข้าวแห้งแข่งเวลา
ช่วงหน้าร้อนผ่อนพักจากหว่านไถ
ตามท้องไร่แห้งผากยากปลูกหว่าน
เลี้ยงวัวควายห้วยหนองพร่องกันดาร
แต่ดอกจานบานแย้มพอแจ่มตา
หนุ่มสาวรุ่นกรุ่นรักมักสาดน้ำ
สงกรานต์ฉ่ำฤทัยไปทั่วหล้า
พอหายร้อนอ้อนออดพร่ำพรอดจา
สิเนหาคราจากพรากห่างไกล
คิดถึงคนเคยทักบอกรักพี่
มาวันนี้ห่างนักยากเชื่อได้
ด้วยต่างมีภาระหน้าที่ใคร
หวังแก้วใจในฝันยังมั่นคง
---------------------
บ้านวรรณกรรมคนตัวเล็ก
๑๗ สิงหาคม ๒๕๔๙
15 สิงหาคม 2549 09:41 น.
บ้านวรรณกรรมคนตัวเล็ก
ชีวิตติดฝุ่นวุ่นวายนัก
ห่างรักห่างไกลไร่นาเปลี่ยว
มาอยู่เมืองกรุงยุ่งยากเชียว
ใครเหลียวแลบ้างอ้างว้างจัง
ฝนฟ้ามิต้องตามฤดู
หดหู่หัวใจในความหลัง
ดั้นด้นค้นหามาประทัง
จึงตั้งหน้าสู้อยู่ในกรุง
การเรียนต่ำนักสุดหนักจิต
ครุ่นคิดทำงานการใดรุ่ง
สมัครที่ใดใครเขามุง
สุดยุ่งวุฒิต่ำจำใจยอม
ก้มหน้าทำงานการก่อสร้าง
หมดทางใช้แรงแลกเงินย่อม
เหนื่อยยากอยากพักหน้าแมมมอม
จำถ่อมน้อมฟังคำสั่งนาย
เก็บเงินก้อนน้อยคอยความหวัง
จะตั้งใจต่อก่อความหมาย
เฝ้าฝันวันหนึ่งจะสบาย
จะค้าขายอาหารอีสานดู
ปีเดือนเคลื่อนไปหลายฟ้าฝน
จำทนจนยากลำบากสู้
จึงได้มีร้านตระหง่านชู
"ตำปู-ปลาร้า-ท้าชิม" นะ
------------------
บ้านวรรณกรรมคนตัวเล็ก
๑๕ สิงหาคม ๒๕๔๙
ว่าง ๆ เชิญแวะ "ร้านตำปู-ปลาร้า-ท้าชิม" ด้วยนะ
เมนูหลัก ๆ ได้แก่ ส้มตำปูปลาร้า ตำแตงปูปลาร้า ตำถั่วปูปลาร้า ตำตาปูปลาร้า (สูตรพิเศษ สำหรับคนอกหักโดยเฉพาะ) ซั่นดอกวา
13 สิงหาคม 2549 19:50 น.
บ้านวรรณกรรมคนตัวเล็ก
แม้จากไปไกลตามารดาเจ้า
ยังใฝ่เฝ้าเว้าวอนคำสอนสู่
แม่และพ่อก่อเกื้อโอบเอื้อชู
ตั้งแต่อยู่ในเบาะจนเกาะเดิน
สอนด้วยคำสำเนียงเยี่ยงพรหมเทพ
อย่าส้องเสพสิ่งผิดจิตขาดเขิน
ควรน้อมนำธรรมะพาก้าวเดิน
หมั่นเผชิญอย่างผู้รู้เล่าเรียน
วันนี้แม่และพ่อก็ลาลับ
ไปไม่กลับนับวันผ่านพ้นเปลี่ยน
ทุกคำสอนย้อนระลึกตรึกวนเวียน
ลูกน้อมเศียรวันทาบูชาคุณ
ถึงวันแม่และวันพ่อลูกขอกราบ
ก้มเศียรราบบูชามารดาอุ่น
อีกบิดาข้านี้ที่การุณย์
ช่วยเกื้อหนุนจุนค้ำคำว่า คน
----------------
บ้านวรรณกรรมคนตัวเล็ก
๑๒ สิงหาคม ๒๕๔๙
เริ่มจาก ๑๒ สิงหาคมนี้ หวังใจว่า...
ทุกคนจะเป็นลูก-พ่อ-แม่ ที่ดีตลอดปีและตลอดไป
12 สิงหาคม 2549 10:51 น.
บ้านวรรณกรรมคนตัวเล็ก
ฟังเธอเล่าข่าวสารการเป็นอยู่
สุดหดหู่สู้ไปเหมือนไร้ค่า
งานขัดข้องหมองจิตคิดระอา
มิรู้ว่าจะแก้ด้วยแง่ใด
โอ้ทรามวัยในฝันสุดหวั่นจิต
ค่อยค่อยคิดพิจารณาใหม่
ผู้ทุกข์หนักหลักลอยคอยงานไป
ยิ่งยากไร้ไม่มีที่พังพิง
เหนื่อยเอาการงานหนักพักผ่อนบ้าง
ค่อยหาทางอย่างผู้เรียนรู้ยิ่ง
อย่าหุนหันพลันด่วนควรประวิง
เอาแต่วิ่งเหนื่อยนะระวังตัว
ถ้าเรายังเข้มแข็งและแกร่งกล้า
จะจัดหาอะไรได้ถ้วนทั่ว
ถ้าหมดแรงแกร่งกล้าพาหม่นมัว
เหมือนเรือรั่วซ่อมแล้วค่อยแจวไกล
แทบทุกคนบนโลกมีโศกเศร้า
มีทุกเคล้าเช้าค่ำแทบร่ำไห้
แต่ต้องอยู่สู้ทนดิ้นรนไป
ตามวิสัยได้มาฟันฝ่าเดิน
อย่าฝืนแล่นเรือไปไม่ได้ซ่อม
มวยอ่อนซ้อมย้อมใจไปก็เขิน
เผลอถูกหมัดซัดหน้าเหนื่อยล้าเกิน
เรือเผชิญคลื่นทับอาจอับปาง
---------------------
บ้านวรรณกรรมคนตัวเล็ก
๑๑ สิงหาคม ๒๕๔๙