15 มีนาคม 2552 01:06 น.
บ้านวรรณกรรมคนตัวเล็ก
ก่อนยลยินกาพย์กลอนสุนทรเสนาะ
ฟังไพเราะเพราะพริ้งคนิงหา
จักรวาลกวี ที่เจรจา
ผ่านสื่อมาว่ากลอนย้อนคืนวัน
หนุ่มเอยจะบอกให้ กล่าวไว้ก่อน
เป็นบทกลอนให้คิดสะกิดฝัน
สาวเอยจะบอกให้ ใช่เหมือนกัน
บัดนี้พลันเหลือเพียงเสียงอาวรณ์
หนึ่งชีวิตปลิดปลงจงใจหนุน
ตั้งกองทุนฯ ไว้เป็นเช่นนุสรณ์
เพื่อวันหน้าระลึกถึงเจือจุน
เคยอบอุ่นด้วยกลอนสุนทรกวี
แม้ชีพวายปราณไปไม่หวนกลับ
ยังสดับอักษรสุนทรศรี
เคยเอื้อนเอ่ยเผยจิตคิดสิ่งดี
สังคมนี้ยังจำลำนำนั้น
ไปดีเถิดเกิดใหม่ก็ให้สุข
นิราศทุกข์ด้วยบุญหนุนส่งนั่น
คนข้างหลังตั้งกอนทุนหนุนร่วมกัน
เสริมสร้างสรรค์สิ่งดีที่ร่วมแรง
แม้รูปกายตายจากพรากไม่หวน
แต่ในส่วนกรรมดีมิเสแสร้ง
จะคงยังตรึงตราและแสดง
เป็นภาพแห่งบุคคลคนกวี
บ้านวรรณกรรมคนตัวเล็ก
๑๔ มีนาคม ๒๕๕๒
12 มีนาคม 2552 15:20 น.
บ้านวรรณกรรมคนตัวเล็ก
สบายดีหรือเปล่า
ความหงอยเหงาคงเบาบาง
สุขทุกข์ปะปนบ้าง
ในระหว่างเส้นทางเดิน
ชีวิตต้องก้าวไป
ฐานะไหนต้องเผชิญ
วิหคยังหคเหิน
เราประเมินต่างเดินนะ
มิมีอะไรแน่
ล้วนเปลี่ยนแปรทุกขณะ
ต่างกันตามภาวะ
เปลี่ยนวาระระหว่างวัน
รักษาตัวเสมอ
จะพบเจอคนสังสันทน์
หรืออยู่กับความฝัน
ก็ให้มั่นทุกวันคืน
บ้านวรรณกรรมคนตัวเล็ก
๑๒ มีนาคม ๒๕๕๒
7 มีนาคม 2552 06:17 น.
บ้านวรรณกรรมคนตัวเล็ก
คืนวันกาลเวลา
พ้นผ่านมาช่างเร็วรี่
คล้อยเคลื่อนเลื่อนอีกปี
ยังมิมีสิ่งมั่นคง
คืนวันกาลเวลา
สอนเราว่าอย่าลุ่มหลง
พลาดพลั้งพลางพะวง
อีกมิตรงตามเวลา
คืนวันกาลเวลา
มิหวนมาหรือรอท่า
ผ่านไปใช่บีฑา
แต่ทว่ามิอาจยั้ง
คืนวันกาลเวลา
บ่งคุณค่าที่ปลูกฝัง
ก่อนกายจะภินท์พัง
จิตให้ตั้งระวังตน
คืนวันกาลเวลา
มิรอท่า ณ แห่งหน
ก้าวไปไวชอบกล
ยามเมื่อคนงานมากมี
คืนวันกาลเวลา
เหมือนเชื่องช้าอะไรนี่
ในยามเรารอรี
รอคนที่ใจเฝ้ารอ
คืนวันกาลเวลา
อนิจจามิแน่หนอ
ทุกข์หนักจากมิพอ
ยังอยากต่อขอเรื่อยไป
คืนวันกาลเวลา
ก่อเกิดมาอย่าหลงไหล
คืนวันผ่านช่วงวัย
เมื่อสิ้นใจไร้ค่าคุณ
บ้านวรรณกรรมคนตัวเล็ก
๗ มีนาคม ๒๕๕๒
1 มีนาคม 2552 03:09 น.
บ้านวรรณกรรมคนตัวเล็ก
คืนวันผ่านนานเนิ่นเดินขวักไขว่
พ้นปีใหม่อีกทีขวบปีผ่าน
ถามหาความมุ่งหวังดังต้องการ
ยังเหมือนม่านเมฆาดูพร่ำมัว
ยังเผชิญเดินต่อพะนอขวัญ
แต่ละวันยังคงพะวงทั่ว
มองข้างหน้ามิเห็นเป็นหวาดกลัว
ภาพอีกขั้วด้านหลังนั้นวังเวง
ยามทุกข์ยากตรากตรำระกำหนัก
ขาดคนรักสนใจใจเคยเก่ง
มาบัดนี้อ่อนล้าไร้บทเพลง
กล่อมบรรเลงย้อมใจให้ชื่นรมย์
จึงมีเพียงความเหงาปนเศร้าสร้อย
ฝันเลื่อนลอยคืนวันฉันขื่นขม
ความเคยหวังตั้งต่อก่อระทม
จิตจ่อมจมทนทุกข์ทุกค่ำคืน
หัวใจเคยเชยชื่นระรื่นฝัน
ต้องมีอันเปลี่ยนแปรแย่สุดฝืน
อนาถนักรักหายไม่ยั่งยืน
หลับหรือตื่นโศกเศร้าเคล้าน้ำตา
อีกนานไหมใจฉันจะมั่นต่อ
สืบสานต่อความหวังสร้างคุณค่า
เพียงลำพังตั้งมั่นผ่านเวลา
ที่ผ่านมาฝันร้ายให้ผ่านเลย
บ้านวรรณกรรมคนตัวเล็ก
๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๒
3 กุมภาพันธ์ 2552 00:15 น.
บ้านวรรณกรรมคนตัวเล็ก
ถ้าเหนื่อยรักพักไว้ที่ปลายฝัน
แล้วมุ่งมั่นกับงานการหน้าที่
ยังต้องเรียนเพียรต่อก่อทวี
บุพการีแม่พ่อยังรอเรา
เขาแค่ใครคนหนึ่งเพิ่งรู้จัก
ควรรู้หักห้ามบ้างทั้งเราเขา
ค่อยเรียนรู้ดูไปใจอย่าเบา
อย่าได้เอาเป็นอารมณ์จมปัญญา
เรื่องความรักใช่สิ่งจีรังแน่
มีผันแปรตามการณ์มากปัญหา
ทำหน้าที่เราไว้ในเวลา
สิเนหามีได้อย่าให้เกิน
ถ้ามากเกินเดินไปไม่แคล่วคล่อง
มันติดข้องหัวใจให้ขัดเขิน
หากจะรักสักคนบนทางเดิน
ขอฝากเกริ่นรักตนด้วยช่วยส่องทาง
บ้านวรรณกรรมคนตัวเล็ก
๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๒