17 พฤษภาคม 2552 06:12 น.
บ้านวรรณกรรมคนตัวเล็ก
อนิจฺจา วต สงฺขารา
ธรรมดา ธรรมชาติ มิผัดผ่อน
ถึงเวลา ก็ไป ให้สังวร
อนุสรณ์ แทนตัว เพียงชั่วดี
ทำการงาน หาได้ ใช้เพียงอยู่
ทุกคนรู้ แก่ใจ ไม่อาจหนี
แต่ก็ทำ ลืมเลือน ผ่านเดือนปี
ดังชีวี จะอยู่ คู่โลกา
บ้างโกงกิน สินทรัพย์ รับของเถื่อน
บ้างปล้นเรือน ช่วงชิง วิ่งราวฆ่า
บ้างฉ้อราษฎร์ บังหลวง ลวงสัญญา
บ้างหลอกว่า ยืมใช้ ไม่ใช้คืน
อนิจจา มนุษย์ สุดอนาถ
คิดขายชาติ แผ่นดิน สินดาษดื่น
มิรู้จัก ความจริง สิ่งไม่ยืน
จะได้ดื่น กี่ครา ลืมตามอง
ทั้งแก่งแย่ง แข่งขัน ประชันท้า
จนรบรา ฆ่าฟัน ประหารผอง
หมู่มนุษย์ สุดช้ำ น้ำตานอง
เลือดไหลนอง อาฆาต อนาถจริง
อนิจฺจา วต สงฺขารา
บ่งบอกว่า สังขาร นั้นไม่นิ่ง
จะต้องแปร เปลี่ยนไป ให้ประวิง
สรรพสิ่ง เราท่าน นั้นมลาย
บ้านวรรณกรรมคนตัวเล็ก
๑๖ พฤษภาคม ๒๕๕๒
15 พฤษภาคม 2552 13:59 น.
บ้านวรรณกรรมคนตัวเล็ก
หนึ่งปีผ่านกาลเคลื่อนปีเดือนผัน
คืนและวันผ่านมาอายุเพิ่ม
สิ่งที่ทำจำหมายไว้แต่งเติม
เป็นแรงเสริมกำลังความตั้งใจ
ก้าวต่อไปในทางที่หวังวาด
แม้มิอาจถึงฝั่งดังฝันใฝ่
แต่ก้าวย่างอย่างผู้สู้เพื่อชัย
แม้ก้าวได้เพียงครึ่งหนึ่งยังดี
เอาความฝันมั่นเสริมเติมชีวิต
เลือกลิขิตเส้นทางต่างวิถี
แม้มิอาจสมหวังตั้งชีวี
สู้เต็มทิ่เติมแรงแห่งชีวา
มิมีใครสมใจในทุกสิ่ง
อย่างดียิ่งได้สู้สู่คุณค่า
ยินดีรับผลย้อนสะท้อนมา
ถือได้ว่าประสบการณ์เท่านั้นพอ
ยังยิ้มได้ในวันที่ผ่านพ้น
มองดูคนทุกข์ยากลำบากต่อ
เรายังดีมีครบกายใจพะนอ
สมบัติพ่อแม่ให้ได้เป็นคน
แม้วันนี้ทั้งคู่มิอยู่แล้ว
แต่ลูกแก้วยังใฝ่ใจฝึกฝน
คำสอนสั่งตั้งไว้ในกมล
ผ่านร้อนฝนลูกยังตั้งในธรรม
บ้านวรรณกรรมคนตัวเล็ก
๑๕ พฤษภาคม ๒๕๕๒
14 พฤษภาคม 2552 15:48 น.
บ้านวรรณกรรมคนตัวเล็ก
พ่อแม่บ่นจนใจลูกวัยรุ่น
เรียนต้องขุนเล่นเป็นแจ้นแสนปวดหัว
ปัญหาของแม่พ่อก็พอตัว
ยังต้องมัวสาละวนลูกตนเอง
ทำอย่างไรชนม์ต้องทนต่อ
หากแม่พ่อถอดใจไม่รีบเร่ง
ปล่อยลูกน้อยลอยเลื่อนเพื่อนละเลง
คงเพลินเพลงเสเพลเห่เกมส์กล
ยิ่งเทคโนโลยีมีมาเพิ่ม
มักแต่งเติมแสงสีที่น่าสน
มีทั้งเกมออนไลน์ให้น่ายล
กล่อมกมลพาเพลินเกินจะเรียน
ลองถามไถ่ในงานการบ้านบ้าง
อีกยามว่างเรียกมาพาอ่านเขียน
เจอบทความน้อมใจให้พากเพียร
ก็แวะเวียนจัดหามาอ่านกัน
ให้เวลากับลูกปลูกสำนึก
บอกรู้สึกจากจิตคิดใฝ่ฝัน
ทั้งต่างถามความหวังตั้งชีวัน
ลูกมุ่งมั่นทางไหนใคร่อยากรู้
น่าจะดีกว่าปล่อยเลื่อนลอยเปล่า
แล้วก็เอาแต่ว่าน่าอดสู
เรียนไม่เอาเฝ้าเกมไม่น่าดู
มาช่วยชูลูกเรียนเพียรหาทาง
ไม่มีใครชอบบ่นทนอดอู้
แม้รู้ว่าห่วงขอไกลห่าง
เจอทีไรคล้ายจับปรับผิดพลาง
หากเป็นอย่างว่ามาขอลาไกล
หากรักลูกผูกจิตให้คิดนึก
รู้ตรองตรึกสิ่งงามตามฝันใฝ่
กาลเวลาต่างกันพลันห่างวัย
ควรสนใจมากขึ้นมาชื่นชู
บ้านวรรณกรรมคนตัวเล็ก
๘ พฤษภาคม ๒๕๕๒
13 พฤษภาคม 2552 15:18 น.
บ้านวรรณกรรมคนตัวเล็ก
ความทรงจำย้ำจิตให้คิดถึง
ห้วงคำนึงวันวานที่ผ่านล่วง
ปะปนสุขทุกข์เข็ญเห็นกลลวง
อีกทั้งห้วงน้ำใจมีให้ปัน
ทุกผู้คนจนรวยสวยขี้เหร่
จะหล่อเท่ห์รูปทรามกรรมแต่งปั้น
มีโอกาสวาสนามาพบกัน
เก็บสิ่งอันดีงามติดตามใจ
สิ่งเลวร้ายไม่ลืมไม่นึกถึง
ห้วงคำนึงวางละมิมาใฝ่
มิย้อนยอกตอกย้ำพร่ำร่ำไร
พักจิตไว้คืนวันล่วงผ่านเลย
น้อมรำลึกนึกดีสิ่งที่ก่อ
สิ่งสานต่อร่วมกันนั่นควรเอ่ย
ชีวิตนี้มิยาวเราท่านเอย
ให้คุ้นเคยสิ่งดีฤดีงาม
เมื่อพบเจอกันใหม่จะได้ยิ้ม
พักตร์เอมอิ่มจากจิตคิดถ้วนสาม
ดีทั้งกาย วาจา จิตนิยาม
มิใช่พล่ามแต่ดีไม่ดีจริง
เก็บเอาความทรงจำมากำหนด
บริบทชีวิตลิขิตสิ่ง
ทั้งชั่วดีที่จิตชิดแอบอิง
ฝึกจิตนิ่งอยู่ในสายธารธรรม
บ้านวรรณกรรมคนตัวเล็ก
๑๓ พฤษภาคม ๒๕๕๒
12 พฤษภาคม 2552 05:49 น.
บ้านวรรณกรรมคนตัวเล็ก
เปิดโอกาสให้ตนได้ค้นหา
ในคุณค่าที่จากพรากภูมิถิ่น
เพื่อศึกษาเรียนรู้อยู่ให้ชิน
มิทันสิ้นลมลงจงก้าวไป
โอกาสดีรอเราเฝ้าค้นหา
สร้างคุณค่าต่อตนทนฝันใฝ่
อีกทั้งสร้างความหวังกำลังใจ
มุ่งมั่นในความฝันอันมีคุณ
ก้าวเถิดนะอย่าท้อก้าวต่อนะ
อย่าลดละความหวังยังสนับสนุน
จะต้องพบสิ่งดีที่ค้ำจุน
เวลาหมุนผ่านไปไม่วกวน
ก้าวไปดูให้เห็นเป็นประจักษ์
ยืนเป็นหลักมั่นคงจงฝึกฝน
จากบ้านพ่อเมืองแม่แลผู้คน
ปลอบกมลให้กล้ามาก้าวเดิน
ท้อถอยไปไม่มีสิ่งดีดอก
จงก้าวออกไปรู้อยู่ก็เขิน
เปลี่ยนจากรับเป็นรุกลุกเผชิญ
ให้เพลิดเพลินกับตนผจญภัย
จากไทยแลนด์แดนสยามข้ามฟากฟ้า
เพื่อเสาะหาโอกาสวาดฝันใฝ่
ต้องสร้างสมบ่มเพาะเกราะกันใจ
เพื่อจะได้เข้มแข็งแกร่งกล้าพอ
บ้านวรรณกรรมคนตัวเล็ก
๑๑ พฤษภาคม ๒๕๕๒