21 สิงหาคม 2549 11:54 น.
บ้านวรรณกรรมคนตัวเล็ก
เวียนวน หล่นเกิด กำเนิดก่อ
ชูช่อ กอใบ ให้นุสรณ์
แตกยอด ถอดใบ ในตอน
สะท้อน วิถี ชีวิตคน
เวียนว่าย ตายเกิด กำเนิดต่อ
พะนอ ทอฝัน หมั่นฝึกฝน
มีกรรม ชี้ช่อง ส่องกมล
ว่ายวน ปนสุข ทุกข์เคล้ากัน
ภพกาล ผ่านชาติ ใครอาจรู้
วิญญู ครูเคย เผยความนั่น
เกิดตาย หลายครา นับอนันต์
ติดพัน กิเลส เภทนานา
จึงต้อง ข้องขัด วงวัฏฏะ
สุดละ ได้ยาก มากตัณหา
หวนหัน พันติด อวิชชา
เกิดมา ฝ่าทุกข์ สุขประปราย
---------------------
บ้านวรรณกรรมคนตัวเล็ก
๒๐ สิงหาคม ๒๕๔๙
20 สิงหาคม 2549 08:32 น.
บ้านวรรณกรรมคนตัวเล็ก
อ่านจดหมายใจความเหมือนท่วมท้น
ดวงกมลหม่นหมองข้ดข้องหนัก
ประหนึ่งว่าล้าเหนื่อยเมื่อยในรัก
ยากห้ามหักหัวใจให้ลืมเลือน
อยากจะรู้ความจริงในสิ่งนั้น
เหตุจอมขวัญหวั่นไหวใจลอยเลื่อน
ความผูกพันมั่นหมายคล้ายย้ำเตือน
เขาแชเชือนเหมือนไม่มีใจจำ
กระนั้นหรือคือเรื่องปมเขื่องขุ่น
จนเนื้ออุ่นวุ่นจิตคิดถลำ
อะไรคือซื่อจริงสิ่งที่ทำ
หากจะพร่ำบอกบ้างยังรับฟัง
สาเหตุให้ใจหม่นกมลหมอง
ขุ่นขัดข้องกล่องใจหวนให้หวัง
เธอคนดีที่รู้อยู่ประดัง
อะไรคั่งค้างคาพาระทม
----------------------
บ้านวรรณกรรมคนตัวเล็ก
๑๙ สิงหาคม ๒๕๔๙
18 สิงหาคม 2549 12:13 น.
บ้านวรรณกรรมคนตัวเล็ก
จากมานานบ้านนาและป่าไร่
สู่กรุงใหญ่หลายปีที่เสาะหา
ได้เรียนรู้ชูตนบนมรรคา
ปริญญาบัตรนั้นฉันก็มี
เคยเป็นครูผู้ช่วยอำนวยสอน
อาสาผ่อนเงินส่งเผ่าพงษี
สู้เก็บหอมรอมริบหยิบแต่ละที
ต้องพิถีพิถันสำคัญนัก
ชีวิตนี้มีแปรและเปลี่ยนเรื่อย
แม้เหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าควรตระหนัก
รอบคอบไว้ใจเราเฝ้าพิทักษ์
จะมีหลักปักจิตลิขิตตน
จากบ้านนอกคอกนามาเมืองหลวง
กาลลุล่วงช่วงวัยได้ฝึกฝน
เหินลัดฟ้าหาฝันอันแยบยล
ยังต้องทนขายแรงแข่งเวลา
ประสบการณ์ผ่านมาสารพัน
ยังไหวหวั่นพรั่นพรึงคะนึงหา
ยามเม็ดฝนหล่นโปรยลมโชยมา
โอ้บ้านนาข้าเป็นเฉกเช่นใด
อยากจะกลับคืนนาข้าเคยอยู่
ย้อนคืนสู่อู่เคยนอนดอนนาไร่
แต่ต้องทนปนทุกข์คลุกเคล้าไป
อีกเมื่อไหร่ได้กลับมิทราบเลย
--------------------
บ้านวรรณกรรมคนตัวเล็ก
๑๗ สิงหาคม ๒๕๔๙
17 สิงหาคม 2549 11:19 น.
บ้านวรรณกรรมคนตัวเล็ก
ยังจำได้ไร่นาข้าเคยอยู่
เหมือนดังอู่เคยนอนสะท้อนค่า
เมื่อเติบใหญ่ได้จากพรากบ้านนา
ยังหวนหาเสมอไม่เจอนาน
ยามเมื่อฝนหล่นโปรยลมโชยโบก
วิปโยคตกไกลรอยไถผ่าน
ถอนกล้ามัดจัดวางหว่างไม้คาน
ล้มคลุกคลานค้นนาครายังเยาว์
อุ้มกล้าหนักปักดำกรำแดดฝน
สู้อดทนก้มเงยเผยความเก่า
บ่งบอกถึงครึ่งชีวีนี้ไม่เบา
เริ่มจะเล่าความหลังครั้งวานวัน
ลุปลายฝนต้นหนาวคราวลมกลับ
หนาวเริ่มจับนับดาวเมื่อคราวนั่น
เก็บเกี่ยวข้าวออกรวงเร่งช่วงกัน
เดี๋ยวมิทันข้าวแห้งแข่งเวลา
ช่วงหน้าร้อนผ่อนพักจากหว่านไถ
ตามท้องไร่แห้งผากยากปลูกหว่าน
เลี้ยงวัวควายห้วยหนองพร่องกันดาร
แต่ดอกจานบานแย้มพอแจ่มตา
หนุ่มสาวรุ่นกรุ่นรักมักสาดน้ำ
สงกรานต์ฉ่ำฤทัยไปทั่วหล้า
พอหายร้อนอ้อนออดพร่ำพรอดจา
สิเนหาคราจากพรากห่างไกล
คิดถึงคนเคยทักบอกรักพี่
มาวันนี้ห่างนักยากเชื่อได้
ด้วยต่างมีภาระหน้าที่ใคร
หวังแก้วใจในฝันยังมั่นคง
---------------------
บ้านวรรณกรรมคนตัวเล็ก
๑๗ สิงหาคม ๒๕๔๙
15 สิงหาคม 2549 09:41 น.
บ้านวรรณกรรมคนตัวเล็ก
ชีวิตติดฝุ่นวุ่นวายนัก
ห่างรักห่างไกลไร่นาเปลี่ยว
มาอยู่เมืองกรุงยุ่งยากเชียว
ใครเหลียวแลบ้างอ้างว้างจัง
ฝนฟ้ามิต้องตามฤดู
หดหู่หัวใจในความหลัง
ดั้นด้นค้นหามาประทัง
จึงตั้งหน้าสู้อยู่ในกรุง
การเรียนต่ำนักสุดหนักจิต
ครุ่นคิดทำงานการใดรุ่ง
สมัครที่ใดใครเขามุง
สุดยุ่งวุฒิต่ำจำใจยอม
ก้มหน้าทำงานการก่อสร้าง
หมดทางใช้แรงแลกเงินย่อม
เหนื่อยยากอยากพักหน้าแมมมอม
จำถ่อมน้อมฟังคำสั่งนาย
เก็บเงินก้อนน้อยคอยความหวัง
จะตั้งใจต่อก่อความหมาย
เฝ้าฝันวันหนึ่งจะสบาย
จะค้าขายอาหารอีสานดู
ปีเดือนเคลื่อนไปหลายฟ้าฝน
จำทนจนยากลำบากสู้
จึงได้มีร้านตระหง่านชู
"ตำปู-ปลาร้า-ท้าชิม" นะ
------------------
บ้านวรรณกรรมคนตัวเล็ก
๑๕ สิงหาคม ๒๕๔๙
ว่าง ๆ เชิญแวะ "ร้านตำปู-ปลาร้า-ท้าชิม" ด้วยนะ
เมนูหลัก ๆ ได้แก่ ส้มตำปูปลาร้า ตำแตงปูปลาร้า ตำถั่วปูปลาร้า ตำตาปูปลาร้า (สูตรพิเศษ สำหรับคนอกหักโดยเฉพาะ) ซั่นดอกวา