3 มีนาคม 2548 04:03 น.
บ้านรอจันทร์
ARTICLE XV
I direct and command my Executor to raze my home at 10900 Balls Ford road, as soon as practical after my death, taking into consideration that I have hereinbefore provided for my brother and/or one or more of my nephews to occupy the house for thirty (30) days for the purpose of protecting the tangible personal property located therein until it has been distributed in accordance with the terms of my Will set out hereinbefore or sold by my Executor. I realize that this may seem to be an unusual requirement on my part but I do not want the dwelling where my husband and I spent the happy years of our marriage and where I have resided since his death to be desecrated by any commercial or other like use being made of it.
ข้อที่ 15
ข้าพเจ้าชักนำและสั่งการให้ผู้จัดการมรดกของข้าพเจ้ารื้อทำลายบ้านของข้าพเจ้า ณ เลขที่ 10900 ถนน Balls Ford ในทันทีที่สามารถกระทำได้หลังจากที่ข้าพเจ้าเสียชีวิตแล้ว โดยพิจารณาถึงคำสั่งก่อนนี้ที่ให้น้องชายกับหลานชายของข้าพเจ้าได้อาศัยอยู่ที่บ้านหลังนี้เป็นเวลา 30 วันเพื่อจุดประสงค์ในการปกป้องทรัพย์สินส่วนตัวของข้าพเจ้าซึ่งยังคงอยู่ในบ้าน จนกว่าทรัพย์สินเหล่านั้นจะได้ถูกแจกจ่ายหรือขายออกไปตามความต้องการในพินัยกรรม ข้าพเจ้าทราบดีว่าความต้องการนี้อาจจะดูเหมือนผิดปกติในส่วนของข้าพเจ้า แต่ข้าพเจ้าไม่ปรารถนาให้ที่พำนักซึ่งข้าพเจ้าและสามีได้ใช้ชีวิตสมรสร่วมกันอย่างเป็นสุข และยังเป็นที่พำนักซึ่งข้าพเจ้าได้อาศัยอยู่นับตั้งแต่เขาได้ตายจากไป ต้องมาเสื่อมสูญคุณค่าและความหมายไปโดยการนำไปใช้เพื่อประโยชน์ในทางการค้า หรืออื่น ๆ ที่คล้ายกัน
ในขณะที่ทำงานตรวจสอบเอกสารของลูกค้าคนหนึ่ง...ซึ่งกำลังจะขายที่ดินมรดก..เพื่อเอาไปจัดทำเป็นบ้านจัดสรร...พบเห็นพินัยกรรมฉบับสุดท้ายของคุณย่าของเขา..ข้อที่ 15 เห็นว่าอาจมีคุณค่า และความหมายทางใจสำหรับคนบางคน หรือหลาย ๆ คน ก็เลยคัดลอก แล้วก็แปลใจความย่อ ๆ เป็นภาษาไทยมาแบ่งกันอ่าน
คุณย่าของลูกค้ารายนั้นเขียนพินัยกรรมเมื่อเดือนพฤษภาคม 2002........... ท่านเสียชีวิตเมื่อเดือนมกราคม ปีถัดมา........บ้านรอจันทร์...จะล่มสลายไป..เมื่อชีวิตของเราสองสูญสิ้นไปนะ..คนดี....
25 กุมภาพันธ์ 2548 22:42 น.
บ้านรอจันทร์
หากจะรัก.............................
หากจะรักจำไว้ให้มั่นจิต
อย่ามัวคิดเฝ้าพะวงและสงสัย
หรือหวั่นกลัวระยะห่างเส้นทางไกล
จิตอ่อนไหวฟังวจีที่เขาลือ
เพราะนี้คือพิษร้ายทำลายรัก
เสียดายนักสองฤดีที่ยึดถือ
ด้วยต่างคนต่างทำลายไปกับมือ
สุดท้ายคือแยกทางห่างกันไป
บ้างเก็บใจไว้กับตัวกลัวผิดหวัง
แล้วจะยังหมายรักมั่นอันสดใส
บ้างถือดีมิยอมเอ่ยเผยออกไป
แล้วคอยให้รักหล่นลงตรงหน้าเอง
บ้างดื้อรั้นเมามัวแม้นตัวผิด
เรื่องเพียงนิดไม่ยอมรับกลับข่มเหง
บ้างมีรักเหมือนเพื่อให้ใจครื้นเครง
สิ้นเสียงเพลงเริ่มลำบากก็จากลา
แล้วต่างพร่ำพรรณนาว่ารักร้าย
อย่าคิดหมายฝากฤทัยกับใครหนา
รักมีพิษรักเจ็บปวดรวดอุรา
รักเย็นชาน่าเบื่อหน่ายกระไรเลย
หากใครที่คิดเห็นเป็นอย่างนี้
สมควรที่มองดูตนอย่าทนเฉย
รักไม่ผิดผิดที่คนผู้ละเลย
รักชื่นเชยจึงชืดชาพาเศร้าตรม
ใจของฉันรักเธอเสมอมั่น
ทุกคืนวันแม้นห่างไกลไม่ขื่นขม
คอยอดออมถนอมไว้ให้ชื่นชม
ร่วมภิรมย์สุขสันต์ดังฝันปอง
ฝากบทเพลงเอาไว้ในลมหนาว
ฟ้าเกลื่อนดาวแต่ไร้จันทร์ฉันหม่นหมอง
มีรักเดียวมั่นหมายให้เธอครอง
ไม่คิดมองอื่นใดไปจากจันทร์
แต่บางคราวคิดไปก็ใจน้อย
เหมือนคนคอยที่จริงใจเฝ้าใฝ่ฝัน
เธอไม่เคยซึ้งวจีที่รำพัน
คิดเพียงฉันคงหมายหลายรักลอง
ถึงอย่างไรไม่ท้อแค่พ้อว่า
ในอุราเพียงหนึ่งหมายไม่มีสอง
ตราบสิ้นลมเพียงเธอนี้ที่ใฝ่ปอง
หมายประคองเนิ่นนานผ่านเวลา
จะเข้าใจหรือไม่ใจก็แน่
ไม่ผันแปรจากยอดเสน่หา
รอวันได้ชื่นชีวิตแนบนิทรา
สิ้นเหว่ว้ารักสุขสันต์นิรันดร
.................................................
24 กุมภาพันธ์ 2548 03:08 น.
บ้านรอจันทร์
แบกปืนยืนสู้ไปด้วยใจรัก
มาสมัครเป็นรั้วชาติด้วยมาดหมาย
ฝากชีวิตอุทิศให้ทั้งใจกาย
ชั่วชีพวายใจมอบตลอดกาล
มั่นคงในหน้าที่ก่อนมีรัก
ชื่นใจนักแค่บางทีมีของหวาน
สาหัสใดใจพร้อมประจัญบาน
ด้วยรักบ้านแสนห่วงดังดวงใจ
อยู่กลางพฤษ์พงไพรอันไกลห่าง
เพียงแม้ทางก็ไม่รู้อยู่ที่ไหน
มอบชีวิตอุทิศแล้วทั้งดวงใจ
ให้ชาติไทยคงอยู่คู่ไทยครอง
หวังไว้หากหญิงใดหมายเป็นคู่
เคียงพธูร่วมทุกข์สุขสมสอง
ใจจะรักตราบตายไม่คลายปอง
จันทร์งามผ่องเป็นสักขีให้พี่เอย
...................................................
แบกรักมาหมาย ฝากกายชั่วกาล
มั่นรักชื่นหวาน สาบานด้วยใจ
อยู่ห่างเพียงไหน มอบใจให้ครอง
หวังคู่เคียงน้อง ใจปองจันทร์เอย
...................................................
***ลองดูให้ดี..จะเห็นบทกลอนสีแดง..ซ่อนอยู่ในสีฟ้า..บทกลอนแบบนี้เหมาะสำหรับมอบให้กับคนรักที่คุณพ่อค่อนข้างจะดุ..เผื่อว่าท่านจะมาเจอ...จะได้ไม่ว่าเราน่ะครับ***
24 กุมภาพันธ์ 2548 02:29 น.
บ้านรอจันทร์
รักเดียวเพียงจันทร์... พี่มั่นจริงใจ
รักษาเขตแว่นแคว้น แดนไทย
เดียวดายหว่างพงไพร ไม่ท้อ
เพียงตัวเราอยู่ไหน แปลกที่ ไกลถิ่น
จันทร์เพ็ญส่งแสงล้อ ต่อท้องชลธาร
พี่น้องไทยอย่าได้ กังวล
มั่นใจได้ทุกคน เพื่อนพ้อง
จริงจังเฝ้าฝึกฝน ถ้วนถี่ การศึก
ใจมิเคยเรียกร้อง หมองหม่นทนเอา
........................................................................
**โคลงสองบทนี้..เนื้อหาแท้จริงคือเฉพาะคำหน้าของแต่ละบรรทัดรวมกันเท่านั้น..ซึ่งก็คือชื่อของโคลงสองบทนี้นั่นเอง.**
18 กุมภาพันธ์ 2548 04:11 น.
บ้านรอจันทร์
จันทร์กะพ้อทอกะพริบระยิบแสง
ดาราแซงสาดฉายประกายฉาน
พี่พิศเพ่งมองนภามาเนิ่นนาน
ในดวงมาลย์รักแท้แต่นวลจันทร์
คืนวันเพ็ญพี่คนึงถึงจันทร์เจ้า
บางครั้งเศร้าพบได้แค่ในฝัน
พอคืนแรมหมองไหม้ด้วยไร้จันทร์
แต่รักนั้นไม่ร้างอย่างเดือนเลย
บางคราวเมฆบดบังดังคิดแกล้ง
ไร้สิ้นแสงสิ้นวจีที่เฉลย
ไม่เคยคิดหวั่นใจอย่างไรเลย
ด้วยรักเอยสูงค่ากว่าใด ๆ
ฝากบทเพลงนี้ไว้โปรดได้รู้
รักชื่นชูแม้นห่างสักเพียงไหน
ถึงต้องรอเนิ่นนานสักปานใด
รักมั่นใจชิดขวัญเพียงจันทร์เพ็ญ
........................................................