10 กรกฎาคม 2545 23:24 น.
บุษราคัม
มนุษย์เรา มีกรรม ติดตามตัว
ใครทำชั่ว ผลกรรม ตามสนอง
ใครทำบุญ จิตกุศล คงสมปอง
ความดีจัก ตอบสนอง การกระทำ
-----------------------------------------------------
งดเว้นบาป ทำแต่บุญ จุนเจื้อทรัพย์
จงน้อมรับ สดับธรรม เตือนใช้ย้ำ
ตามหลัก ศาสนิกชน พึงกระทำ
เป็นเครื่องน้อมนำ..........ให้หลุดพ้น จาก อบาย
-----------------------------------------------------
ลดละเลิก...................จาก อบายมุข หก
ล้างใจสกปรก...........ให้ ผ่องแผ้ว เช่น ตะวันฉาย
ยึดมั่นในหลักธรรมะ..........จนชีพวาย
จงอย่าอาย............จะละบาป.......กล้าทำบุญ
----------------------------------------------------------
มี หิริ โอตัปปะ..............เครื่องเตือนจิต
มี สัมมาสติ...................คอยเกื้อหนุน
โยนิโสมนสิการ............นั้นเป็นบุญ
ขอให้คุณพิจารณา .......โดยแยบคาย
---------------------------------------------------------
ประกอบอาชีพ ........ด้วย สัมมาอาชีวะ
มีสติสัมปชัญญะ.......ไม่หดหาย
ศรัทธาใน........พุทธศาสนา...ไม่เสื่อมคลาย
เป็นเช่นสายธารธรรม........ฉ่ำชื่น.....จิตเบิกบาน
--------------------------------------------------------
6 กรกฎาคม 2545 14:43 น.
บุษราคัม
จงสร้างรั้วล้อมด้วยรัก.....สามัคคี
อย่าให้ใครโจมตี.........ถิ่นไทยได้
ชนในชาติ.....ต้องเหนียวแน่นกลมเกลียวไว้
เหมือนไม้ไผ่ ..... รวมกันไซร้หักไม่ลง
------------------------------------------------------------------
ทุกวันนี้......ปัจจามิตร.....โจมตีชาติ
โดยอุกอาจ...หวังย่ำยี......ให้เป็นผง
ขอหมู่เรา......ชนชาติไทย...จงดำรง
ให้มั่นคง.......ยืนยง............อธิปไตย
-----------------------------------------------------------------
ปัจจามิตร.......ภายนอก.......นั้นมีมาก
ภัยในชาติ......อย่าให้มาก....ไปตามไซร้
งดลุ่มหลง.......มัวเมา............ทำจัญไร
คุ้มกันภัย........ให้ชาติไทย....ไม่อับปาง
-----------------------------------------------------------------
จงต่อสู้............กับศัตรู...........ลุกลามถิ่น
ที่มาหมิ่นเกียรติศักดิ์ไทย.....คอยถากถาง
เกียรติภูมิ......ประเทศไทย........ให้เจือจาง
หวังให้ไทย.....อับปาง................ด้วยวาจา
-----------------------------------------------------------------
หากคนไทย.......สมานฉันท์......สามัคคี
จงรักภักดีมั่น.....ต่อ...ชาติ.........ศาสนา
อีกเทิดทูน.. ..................องค์มหากษัตรา
ใครจักมา............ล้มชาติไทย....ไม่ได้เอย
------------------------------------------------------------------
ปล. กลอนนี้ ดิฉัน ขอแต่งปลุกใจให้คนไทย ยิ่งขึ้น นะคะ
เพราะ ช่วงนี้ ข่าวคราวความไม่สงบ ทั้งภายใน และ
ภายนอก ประเทศ มีมาก ค่ะ /
รวมทั้ง ความเข้าใจผิด ที่มีต่อประเทสไทยของเรา
อย่างไรก็ หากชนภายในชาติ สมัคร สมาน สามัคคี
ย่อมเป็นรั้ว ล้อม ป้องกัยภัย ในชาติไทย ได้ค่ะ
------------------------------------------------------------------------
บุษราคัม
6 กรกฎาคม 2545 14:21 น.
บุษราคัม
กุลสตรี........ใช่งามเพียงเกษา
หรือเสื้อผา อาภารณ์ ประดับไซร้
เป็นผู้ดี งามพร้อม....กาย วาจา ใจ
หาเพียงใช่......งามแต่เปลือก....ให้คนชม
------------------------------------------------------------
กุลสตรี............งามใจ และ ปัญญา
มารยาท วาจจา...............ช่างงามสม
อีก จริต จริยา..................น่าชื่นชม
คนนิยม.................กุลสตรี ยอดหญิงไทย
-------------------------------------------------------------
ปกครองตน อยู่ใน..............นิจศีล
เป็นอาจินต์...................น่าเชยชิด...พิศมัย
มีมงคล คนนิยม ....................ชมชอบใจ
เป็นแม่บ้านแม่เรือนไซร้...........ชายไฝ่ปอง
-----------------------------------------------------------------
ประพฤติตน...เป็น............เบญจกัลยาณี
รักษาศักดิ์............สงวนศรี.........ให้ผุดผ่อง
หากชายใด............นั้นได้...........เป็นคู่ครอง
จักยกย่อง..............เป็น....แม่ศรีเรือน....เอย
---------------------------------------------------------------
ปฏิบัติ ตามธรรมเนียม..................ประเพณี
เยี่ยงสตรี ชาวไทย........................ใช่เพิกเชย
บำเพ็ญบุญ.....หมั่นทำทาน............ไม่ละเลย
ขอชมเชย...............กุลสตรี............ยอดหญิงไทย
------------------------------------------------------------------
5 กรกฎาคม 2545 22:50 น.
บุษราคัม
Oบุรุษองอาจเชื้อ ชาติอาชาไนย
แข็งแรงมีปัญญา เที่ยงแท้
ประพฤติเยี่ยงเทวา ยึดมั่น ดีแฮ
มิหมิ่นสตรีแม้ นิ่มเนื้อนวลนางฯ
Oพูดสัตย์มิเล่นลิ้น วาจา
ยกย่องเพศมารดา ยิ่งแล้ว
ถนอมไม่สร้างตรา บาปแก่ หญิงนา
มิข่มเหงนางแก้ว ผ่องแผ้วทระนงฯ
Oชายใดหากต่ำช้า เลวทราม
เห็นเหล่าสตรีงาม คลั่งไคล้
กระทำซึ่งลวนลาม เหยียบย่ำ รังแก
มิใช่บุรุษไซร้ ที่แท้เป็นเพียงเดนคนฯ
5 กรกฎาคม 2545 20:15 น.
บุษราคัม
มรณานุสติไซร้...............เตือนใจ
แม้ยิ่งใหญ่ สักเพียงไหน....ไม่พ้น
สูงสุด กลับคืนสู่ สามัญ..........ทุกคน
ไม่อาจจัก หลีกพ้น................จิตกาธาน
เกิด แก่ เจ็บ ตาย.................. สงสารวัฏ
สรรพสัตว์ เวียนว่าย..............วัฏสงสาร
เวลาอยู่ เร่งสะสม................... แต่บุญทาน
เพราะนิพพาน พาสราญ........พ้นบ่วงกรรมฯ
---------------------------------------------------------------------
ปล. คำว่า จิตกาธาน หมายถึง เชิงตะกอน ค่ะ
คำว่า สงสารวัฏ และ วัฏสงสาร หมายถึง การเวียนว่ายตายเกิด ค่ะ