23 มิถุนายน 2555 20:06 น.
บุญเพิ่ม
คืนอาวรณ์
ค่ำคืนนี้เดือนพร่างบนทางคด
เราสลดริมทางใหญ่ด้วยใจหมาย
นั่งรอคนผ่านมาแต่ละราย
ดึกเดือนฉายคืนนี้ไม่มีใคร
แสนวังเวงอ้างว้างบนทางเปลี่ยว
เราหนึ่งเดียวเท่านั้นนั่งฝันใฝ่
มองหาคนโผล่ร่างเดินทางไกล
เหตุไฉนค่ำคืนนี้ไม่มีคน
อยากจะหลอกคนให้ตกใจเล่น
พวกเขาเห็นผีอย่างเรา คงเศร้าหม่น
พรุ่งนี้อาจอุทิศทานบันดาลดล
อำนวยผลให้เรานี้อิ่มดีเอย!ฯ
อริญชย์
๒๓/๕/๒๕๕๕
22 มิถุนายน 2555 16:25 น.
บุญเพิ่ม
ใต้ร่มต้นหูกวาง
ต้นหูกวางกว้างใหญ่ก้านใบหนา
เย็นทุกคราเข้าร่มสายลมเฉื่อย
ไม่ต้องเพิกเสื้อถกเผยอกเปลือย
ลมพัดเอื่อยมาอยู่ใต้หูกวาง
ผลแก่แห้งตกดินแคะกินได้
รสชาติใกล้กะบกขอยกอ้าง
เกิดมากมายอยู่บนริมหนทาง
ตระหง่านอย่างพฤกษาล้ำค่าไทย
เปลือกผลใช้เป็นยาฝาดสมาน
แก้อาการท้องเสียถ่ายเรี่ยไหล
เป็นไม้ประจำมหาวิทยาลัย
สยาม ให้คนเห็นความเด่นงาม
อีกเป็นไม้เด่นชัดจังหวัดตราด
เติบโตอาจแผ่สาขาเขียวอร่าม
มีคุณค่าจรรโลงทุกโมงยาม
ใครก็ตามเข้าร่มสุขสมพลัน
ต้นหูกวางแผ่ก้านตระหง่านกิ่ง
คนพักพิงร่มได้มิไหวหวั่น
ไม่ต้องกลัวว่าจะวิ่งหลบกิ่งมัน
หูกวางนั้นมิได้หักง่ายเลย! ฯ
อริญชย์
๒๒/๖/๒๕๕๕
21 มิถุนายน 2555 17:30 น.
บุญเพิ่ม
อโหสิกรรม
บางครั้งความลำเค็ญซ่อนเร้นอยู่
ในใจผู้หลงผิดก้าวติดบ่วง
ยอมพาชีวิตตนสู่กลลวง
แม้อาจดวงร่วงดับโดยฉับพลัน
เพราะยังมีความจริงที่ยิ่งใหญ่
ซึ่งบางใครไม่เห็นประเด็นนั่น
เมื่อหยามเย้ยครอบงำเสียงรำพัน
เส้นทางฝันที่ใฝ่จึงไร้แวว
ใช่อยากโชว์โง่งมสังคมปราชญ์
แต่ยอมพลาดพ่ายแพ้อย่างแน่แน่ว
เพื่อสิ่งที่เลิศกว่าดาวแสงพราวแพรว
จึงยอมแล้วพาตนสู่กลลวง
โรครุมเร้าพ่อชราอย่างสาหัส
อัตคัดลูกที่ไหนหรือไม่ห่วง
แม่นัยน์ตาฝ้าฟางไม่พร่างดวง
ช้ำในทรวงลูกยิ่งกว่าสิ่งใด
เงินจึงเป็นสิ่งที่แสนมีค่า
จำต้องหาจุนเจือแม้เหงื่อไหล
ไม่อยากมือเท้างอเที่ยวขอใคร
จึงจำใจทำสิ่งควรหญิงอาย
อภัยเถิดสังคมอย่าข่มขวัญ
เติมใจกันสักนิดยามมิตรพ่าย
อย่าปล่อยให้เธอโดดเดี่ยวอยู่เดียวดาย
เธอควรตายอย่างศักดิ์ศรีเสรีชน!ฯ
อริญชย์
๒๑/๖/๒๕๕๕
21 มิถุนายน 2555 13:40 น.
บุญเพิ่ม
ชายชรา
ซ่อนตัวตนมิอยากให้ผู้ใดเห็น
เพราะลำเค็ญชีวิตเคยคิดฝัน
ต้องพังลงกับตาเจ็บจาบัลย์
ทุกคืนวันขมขื่นยิ้มฝืนทน
ยอมพ่ายแพ้ทุกอย่างที่ขวางหน้า
ใครจะมาหรือจะไปมิใคร่สน
เหมือนสิ้นไร้ปลีกตัวมืดมัวมน
ปล่อยผู้คนหยามให้สะใจพอ
กระท่อมไม้กลางป่าที่อาศัย
เก็บพืชผักกินไปเห็ดไม้หน่อ
ใครเห็นก็กล่าวหาไอ้บ้าบอ
บ้างด่าทอหลายคำจนหนำใจ
คล้ายนินจาป่าเขาไม่เข้าเรื่อง
สังคมเมืองช่วงชิงความยิ่งใหญ่
ชายชราซ่อนร่างอยู่กลางไพร
อาบน้ำใสไหลหลั่งมาจากป่าภู
ใครจะเรียกไอ้บ้าหรือว่าปราชญ์
ก็แค่วาดถ้อยจำนรรจ์ให้มันหรู
หลายคนต่างหวาดผวาเมื่อมาดู
"ซดเลือดหมูดิบแล้วข้าหันมามอง!"ฯ
อริญชย์
๒๓/๔/๒๕๕๕
20 มิถุนายน 2555 12:23 น.
บุญเพิ่ม
ควายเอย
ควายเอยเคยเลาะทุ่งผดุงถิ่น
บนแผ่นดินพิณขับขานมานานโข
เที่ยวเล็มหญ้าเคียงตัวเอี้ยงหัวโต
ไม่อวดโอ้หงุดหงิดเข้าขวิดใคร
อยู่ท้องนาน้ำหลากแสนยากเข็ญ
ทั้งเช้า-เย็นองอาจลากคราดไถ
ฟังดนตรีกล่อมเห่หริ่งเรไร
มิสนใจเป็ดมาไก่กาบิน
เคี้ยวเอื้องเพียงฟางหญ้าเป็นอาหาร
สู้ทนทานเหนื่อยอยู่ไม่รู้สิ้น
ใครด่าควายต่อ คน ไม่ยลยิน
เหลืบยุงริ้นกัดหนังคันช่างมัน
คนจะรู้ค่าควายในภายหน้า
เมื่อควายลาโลกลับไม่กลับหัน
วันนี้คนหมางเมิน ไม่เพลินกัน
ลืมคืนวันโบราณที่เคยมีควาย!ฯ
อริญชย์
๒๐/๖/๒๕๕๕