21 มิถุนายน 2555 17:30 น.
บุญเพิ่ม
อโหสิกรรม
บางครั้งความลำเค็ญซ่อนเร้นอยู่
ในใจผู้หลงผิดก้าวติดบ่วง
ยอมพาชีวิตตนสู่กลลวง
แม้อาจดวงร่วงดับโดยฉับพลัน
เพราะยังมีความจริงที่ยิ่งใหญ่
ซึ่งบางใครไม่เห็นประเด็นนั่น
เมื่อหยามเย้ยครอบงำเสียงรำพัน
เส้นทางฝันที่ใฝ่จึงไร้แวว
ใช่อยากโชว์โง่งมสังคมปราชญ์
แต่ยอมพลาดพ่ายแพ้อย่างแน่แน่ว
เพื่อสิ่งที่เลิศกว่าดาวแสงพราวแพรว
จึงยอมแล้วพาตนสู่กลลวง
โรครุมเร้าพ่อชราอย่างสาหัส
อัตคัดลูกที่ไหนหรือไม่ห่วง
แม่นัยน์ตาฝ้าฟางไม่พร่างดวง
ช้ำในทรวงลูกยิ่งกว่าสิ่งใด
เงินจึงเป็นสิ่งที่แสนมีค่า
จำต้องหาจุนเจือแม้เหงื่อไหล
ไม่อยากมือเท้างอเที่ยวขอใคร
จึงจำใจทำสิ่งควรหญิงอาย
อภัยเถิดสังคมอย่าข่มขวัญ
เติมใจกันสักนิดยามมิตรพ่าย
อย่าปล่อยให้เธอโดดเดี่ยวอยู่เดียวดาย
เธอควรตายอย่างศักดิ์ศรีเสรีชน!ฯ
อริญชย์
๒๑/๖/๒๕๕๕
21 มิถุนายน 2555 13:40 น.
บุญเพิ่ม
ชายชรา
ซ่อนตัวตนมิอยากให้ผู้ใดเห็น
เพราะลำเค็ญชีวิตเคยคิดฝัน
ต้องพังลงกับตาเจ็บจาบัลย์
ทุกคืนวันขมขื่นยิ้มฝืนทน
ยอมพ่ายแพ้ทุกอย่างที่ขวางหน้า
ใครจะมาหรือจะไปมิใคร่สน
เหมือนสิ้นไร้ปลีกตัวมืดมัวมน
ปล่อยผู้คนหยามให้สะใจพอ
กระท่อมไม้กลางป่าที่อาศัย
เก็บพืชผักกินไปเห็ดไม้หน่อ
ใครเห็นก็กล่าวหาไอ้บ้าบอ
บ้างด่าทอหลายคำจนหนำใจ
คล้ายนินจาป่าเขาไม่เข้าเรื่อง
สังคมเมืองช่วงชิงความยิ่งใหญ่
ชายชราซ่อนร่างอยู่กลางไพร
อาบน้ำใสไหลหลั่งมาจากป่าภู
ใครจะเรียกไอ้บ้าหรือว่าปราชญ์
ก็แค่วาดถ้อยจำนรรจ์ให้มันหรู
หลายคนต่างหวาดผวาเมื่อมาดู
"ซดเลือดหมูดิบแล้วข้าหันมามอง!"ฯ
อริญชย์
๒๓/๔/๒๕๕๕
20 มิถุนายน 2555 12:23 น.
บุญเพิ่ม
ควายเอย
ควายเอยเคยเลาะทุ่งผดุงถิ่น
บนแผ่นดินพิณขับขานมานานโข
เที่ยวเล็มหญ้าเคียงตัวเอี้ยงหัวโต
ไม่อวดโอ้หงุดหงิดเข้าขวิดใคร
อยู่ท้องนาน้ำหลากแสนยากเข็ญ
ทั้งเช้า-เย็นองอาจลากคราดไถ
ฟังดนตรีกล่อมเห่หริ่งเรไร
มิสนใจเป็ดมาไก่กาบิน
เคี้ยวเอื้องเพียงฟางหญ้าเป็นอาหาร
สู้ทนทานเหนื่อยอยู่ไม่รู้สิ้น
ใครด่าควายต่อ คน ไม่ยลยิน
เหลืบยุงริ้นกัดหนังคันช่างมัน
คนจะรู้ค่าควายในภายหน้า
เมื่อควายลาโลกลับไม่กลับหัน
วันนี้คนหมางเมิน ไม่เพลินกัน
ลืมคืนวันโบราณที่เคยมีควาย!ฯ
อริญชย์
๒๐/๖/๒๕๕๕
19 มิถุนายน 2555 19:47 น.
บุญเพิ่ม
ตามวิถีแห่งฝันคนสัญจร
แสงแดดส่องลอดลายเงาไม้ร่ม
หญ้าพร่างพรมลมพัดสะบัดไหว
นกกากล่อมบรรเลงบทเพลงไพร
ท้องฟ้าใสจางปางกระจ่างงาม
สะเดาแตกช่อใหม่พลิ้วไหวลู่
ขี้เหล็กชูดอกมาเหลืองอร่าม
อินทนิลม่วงขาวสกาวงาม
ดอกมะขามเหลืองอมสีชมพู
สำโรงสูงลิบลิ่วเคียงทิวสัก
โตช้านักตะเคียนคล้ายเตียนอยู่
แคนาออกดอกยื่นพอชื่นชู
ต้นตะกูยังสั้นรอวันคืน
ร่มเงาไม้ชายป่ามีค่ายิ่ง
ได้พึ่งพิงความอุดมแสนร่มรื่น
หลายชีวิตมีความหวังอยู่ยั่งยืน
ด้วยกลมกลืนธรรมชาติอากาศดี
เหนื่อยจากการงานหนักมาพักผ่อน
เดินนั่งนอนสดชื่นใต้พื้นที่
เติมใจจินต์กลั่นมาบทกวี
ตามวิถีแห่งฝันคนสัญจร!ฯ
อริญชย์
๗/๕/๒๕๕๕
บ้านหนองสองห้อง ต.ห้วยแห้ง อ.แก่งคอย จ.สระบุรี
http://www.youtube.com/watch?v=k8Pxh1FwEpE
19 มิถุนายน 2555 16:19 น.
บุญเพิ่ม
อิสระเสรีในชีวิต
อิสระเสรีในชีวิต
ไม่ยึดติดพฤกษาหลังคาโบสถ์
แรมรอนทางพักพิงใจลิงโลด
ผ่านเขาโขดเนินผาศิลาแลง
สู่ความหวังครั้งใหม่ด้วยใจหมาย
คงพราวพรายดั่งดาวสกาวแสง
ขยับปีกหลีกเมืองอันเหลืองแดง
ใต้นามแฝงนกขมิ้นโบยบินไป
เงียบสงบลบฝันคืนวันเก่า
กลางลำเนาเขาป่าแหล่งอาศัย
ยอมสู้ทนศักดิ์ศรีกวีไพร
ไม่หวั่นไหวเรื่องราวที่ร้าวราน
ฟังจิ้งหรีดยามเช้าเกรียวกราวเสียง
กินอยู่เพียงผักปลาเป็นอาหาร
ดื่มน้ำเย็นจากต้นน้ำลำธาร
หมั่นจดจารบทกวีเสรีชน
เปิดกระดานลานใจอันใหญ่กว้าง
เพื่อถากถางทางไสวอันไร้หม่น
เก็บความงามบทกวีฤดีดล
เพื่อให้ตนคนเดียวอ่านเท่านั้นพอ!ฯ
อริญชย์
๑๓/๕/๒๕๕๕