25 กรกฎาคม 2550 07:31 น.
บุญนำ
ณ เวลา ปรัตยุบรรณ วรรณภพ
โศรกสลด อาธรรพ์ แพร่แผ่ขยาย
หลู่เกียรติ หลู่คุณธรรม อันพรรณราย
แพ้อบาย พ่ายศักดิ์ เสื่อมธรรม
เจตจำนงค์ มุ่งหมาย คลาดเคลื่อน
โลภะเกลื่อน โมหะเพลิน ลุ่มไหลหลง
แสวงหา ลาภยศสรรญเสริญจมไม่ลง
มิอาจปลง มิอาจวาง อย่างตั้งใจ
ข้าขอพนม ก้มกราบ อภิวาท
ขอคุณชาติ ศาสน์ กษัตริย์วาสนา
จงน้อมนำ ตัวข้า แลพารา
ได้นำพา รอดม้วย มรณัง
ทุขภิกภัยใดใดเกิด
ขอบรรเจิดปกป้องแจ่มจรัส
ทั่วพราราตัวข้าไม่อัตคัต
พ้นวิบัติพ้นกรรมที่ราญรอน
หวังพึ่งอิงองค์เทพท่านก็โปรด
แต่อย่าโลดอึงอื้อนั้นไม่ได้
กรรมของเขาของเราหรือของใคร
เป็นไปได้ตามจริงทุกสิ่งอัน
ขอบารมี ศักดิ์สิทธิ์ อิทธิ์ประเสริฐ
ที่เลอเลิศ ในสามภพ สบสมัย
จงอำนวย อวยพร ให้พ้นภัย
สุขสวรรค์ครรลัยในคลองธรรม
เมื่อรู้ธรรม ก็รู้กรรม หทัยนิ่ง
ไม่ไหวติง ร้อนรน ขวนขวาย
ไม่หลวมตัว หลวงสู่ หุบอบาย
ที่ลอดลาย สอดส่าย หลอกลวง
ที่ผ่านมา หากยังคิด ว่าฉลาด
เทียบเป็นปราชญ์ จริงแน่แท้ ฤาไฉน
แต่ความจริง หากทราบแล้วจะตกใจ
แท้แล้วไซร้ คนโง่ดีดีนี้เอง
เมื่อได้คิดก็ละเมียดละไมขึ้น
บทความอื่นค่อยค่อยอ่านค่อยค่อยเขียน
เฝ้าสังเกตุเนื้อหาแฝงอย่างพากเพียร
เริ่มจะเรียนรู้แบบใหม่ใจตึงตัง
22 กรกฎาคม 2550 21:08 น.
บุญนำ
พอพบต้องเหลียวกลับจับใจนัก
เกือบจะรัก อีกแล้ว แม่แก้วเอ๋ย
ผิวขาวขาว ตากลมกลม น่าชมเชย
กระไรเลย มาเจอกัน บนรถเมล์
นั่งตอนท้าย ลมก็แรง แสดงสวย
ยิ้มเสียด้วย ต้องตะลึง ใจตึงหนอ
อยากจะพูด อยากจะคุย แนบเคล้าคลอ
โอ้ละหนอ มองมากเกิน จนเกินงาม
ริมฝีปาก เจ้าก็แดง หวานแหววนัก
จะอดรัก เจ้าได้ อย่างไรไหว
แก้มก็เต่ง ตาก็คม ทนได้ไง
แล้วไฉน ทำอย่างไร จะได้ชม
ถึงดอนเมือง เจ้าซิลุก ลงจากรถ
ใจสลด หดหู่ ให้ขื่นขม
แม้คู่แล้ว ไม่แคล้วคลาด ให้เชยชม
คงได้สม ได้สนิท ได้ชิดใจ
18 กรกฎาคม 2550 20:47 น.
บุญนำ
อาจมีหลัก ในใจ ใสใสปิ๊ง
แต่เมื่อกลิ้ง ก็มีช้ำ ระกำบ้าง
แต่ก็หาย เป็นปกติ ไม่อ้างว้าง
แม้แรมร้าง จากไกล ใจยังดี
มีแต่เธอ ที่เข้าใจ ในหัวอก
แม้จะฟก แต่ไม่ช้ำ ไปกว่าเก่า
มีแต่ดวง ใจสอง ที่แนบเนาว์
นอนกอดเรา พร่ำพรอด ปลอบดวงใจ
เข้าใจแล้ว ความเครียด ที่เค้นแค้น
ความขาดแคลน ไม่มากกว่า ความขลาดเขลา
แม้จะว่า ตัวเอง มีไม่เบา
แต่ก็เขลา ขลาดโง่ หลงลืมไป
แม้หินผา ตามภูเขา จะเว้าแหว่ง
เพราะโดนแรง ลมฟ้าฟน ยังทนไหว
ยังคงนิ่ง ไม่เพ้อพร่ำ ทำอะไร
วันผ่านไป เดือนผ่านไป ไม่รอรี
10 กรกฎาคม 2550 12:08 น.
บุญนำ
หากมีสิ่งที่ผ่านมายังเป็นเสมือนวัชชพืชรกใจ
จงปลดปล่อยให้หมดจด
ไม่โกรธ ไม่รัก ไม่หลง ทิ้งความผิดพลาด ทิ้งความพยาบาท อื่นๆที่ทำให้ร้อนใจทั้งปวง โดยอาจจะยกให้แก่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เราเคารพนับถือให้ท่านเป็นพยานให้แก่เรา
และเริ่มต้นกันใหม่ พอสักเวลาหนึ่งเราเกิดระฤกได้ในสิ่งเก่าๆ เราก็ให้คำตอบแก่ตัวตนเองว่า เรื่องเก่าๆนี้เราได้ถวายท่านที่เรานับถือไปแล้ว เราจะไม่โกรธเรื่องเก่าๆอีก เราจะไม่พยาบาทเรื่องราวเก่าๆอีก เราจะไม่หลงใหลเรื่องในอดีตอีก
ลองดูกันนาคร๊าบ...
8 กรกฎาคม 2550 10:43 น.
บุญนำ
พระราหู จรเข้า ตนุลัคน์
เหตุประจักต์ แจ้งจิต ไม่สงสัย
อาจมีเหตุ เกิดอาเพธ และอันตราย
แก่ตนได้ อย่างแน่ ไม่แปรปรวน
อีกเมื่อไหร่ ท่านจะผ่าน ได้ตรวจสอบ
ตุลารอบ หน้านี้แน่ หายสงสัย
ที่ผ่านมา ต้องปรักปรำ ต้องรับภัย
ทนไม่ได้ ก็ต้องจาก พรากห่างกัน
วันนี้ได้ ตรวจสอบองศาราหูลัคน์
ก็ประจักษ์ ออกจากสิบ องศาใหญ่
บรรดาเหตุ อาเพธ และโภยภัย
เริ่มจากไกล ตั้งแต่นี้ ดีเรื่อยไป
เมื่อตกต่ำ ที่สุดสุด ยังทนได้
สาอะไร ต่อไป นับจากนี้
จะไม่มี อะไร มาย่ำยี
ให้ราคี ระคายข้อง ให้หมองใจ
เมื่อเสื่อมลาภ เสื่อมยศ เสื่อมสรรเสริญ
เสื่อมเจริญ เป็นจริง ไม่แปรผัน
ก็จะมี ลาภ ยศ สรรเสริญสุขกัน
หมุนหมุนกัน ผลัดเปลี่ยน เวียนคละปน
ท้องฟ้าย่อม มีมืดดำ และสดใส
ดวงดาวไซร้ ย่อมมีสวย และอับแสง
ดวงเดือนเล่า มีทั้งเว้า มืดเต็มแวว
ฤาอับแสง อับเฉาได้ ตลอดไป