14 พฤษภาคม 2557 15:07 น.
บินเดี่ยวหมื่นลี้
๏ ร่ำเขียนงานผ่านกลอนอักษรศิลป์
หวังแผ่นดินจดจำหลากคำขาน
ทั้งโคลงฉันท์มั่นหมายบรรยายกานท์
ที่บอกผ่านลายสลักอักษรา
เพียงความฝันลมแล้งที่แกล้งปลอบ
แม้นสุดขอบมวลเธียรอย่าเพียรหา
ด้วยยังด้อยมิติหลากวิชา
งามภาษาหาเด่นเป็นวรรคทอง
เป็นกวี..ซีอิ๊ว..ตามทิวทุ่ง
มิหมายมุ่งมั่นเอาเป็นเจ้าของ-
เกียรติยศรายรุมมาสุมกอง
ฤๅลำพองอวดกล้าเป็นอาจารย์
เป็นกวี..ซีอิ๊ว..หน้านิ่วเขียน
แอบร่ำเรียนกลกลอนอันอ่อนหวาน
ของบรรดาคนครูผู้เชี่ยวชาญ
แทรกซึมผ่านกระโหลกหนาปัญญาเบา
อันกวี..ซีไรท์ ไกลเกินกู่
จึงขออยู่อย่างเจียมมิเทียมเขา
รังสรรค์งานตามคิดลิขิตเรา
อย่าลอกเอางานท่านพึงหมั่นตรอง๚ะ๛
14 พฤษภาคม 2557 16:17 น.
บินเดี่ยวหมื่นลี้
๏ ระหว่างวันเคลื่อนคล้อยอย่างอ้อยอิ่ง
บนโลกจริงสุข-ทุกข์ปลอบปลุกฝัน
บ้างดั้นด้นย่ำย่างระหว่างวัน
บ้างนิ่งหยุดรอจันทร์ขึ้นผันวน
ความอาทรต่อกันคล้ายวันคล้อย
ที่แสงค่อยเลือนรางระหว่างหน
แล้วมืดดับลับฝากจากสกล
เหลือเงาหม่นเงามืดที่ยืดยาว-
เข้าครองคลุมกุมห้วงทุกช่วงคาบ-
ราตรีอาบหัวใจให้เหน็บหนาว
ท่ามวารคืนฟ้าแกล้งเร้นแสงดาว
ยิ่งรวดร้าว เย็นเยียบเกินเปรียบเปรย
ยังรักกันบ้างไหม?? ถามในฝัน
ด้วยช่วงวันความจริงดูนิ่งเฉย
เหมือนหัวใจปล่อยปะและละเลย
สิ่งที่เคยอาทรดูรอนลง
คิดถึงกันบ้างไหม?? อยากไถ่ถาม
ฤๅนิยาม "รัก" ยุยเป็นผุยผง
จึงเฉยชาต่อกันมิมั่นคง
ลืมจำนงจำนรรจ์สะบั้นใย
ระหว่างวันเคลื่อนคล้อยดูอ้อยอิ่ง
ในโลกจริงเจ็บช้ำเกินคำไข
แล้วในฝันจักถามหาความใด??
ปล่อยวางให้...เลือนหายกับปลายวัน๚ะ๛