16 สิงหาคม 2554 10:37 น.
บินเดี่ยวหมื่นลี้
๏ ถาโถมเถิดริ้วรอยของร้อยเจ็บ
เข้าแนมเหน็บฤทัยเสียให้หนำ
เพียงภาพลวงคลีผงซากทรงจำ
คราดื่มด่ำรักหวานที่ผ่านมา
เพียงลำพังบนโลกอันโศกเศร้า
ใต้เงื้อมเงาจาบัลย์กลางพรรษา
ยิ่งฝนพรำหยดหยาดสาดกายา
ประหนึ่งว่าโลกดับสิ้นลับไป
เจ้าสะอื้นในอกสะทกสั่น
เกินกักกั้นน้ำตาที่บ่าไหล
ร้องเถิดร้องออกมาให้สาใจ
ความปราชัยเพียงบททดสอบมาน
หากน้ำตาจาบัลย์ของวันนี้
ล้างราคีซากเถ้ารักเผาผลาญ
แม้นหลั่งเป็นโลหิตแทบปลิดปราณ
เพื่อพ้นผ่านชอกช้ำจงจำยอม
มวลสุมาลย์บาน-เฉาทุกเช้าสาย
ยังกำจายอวลถิ่นด้วยกลิ่นหอม
รัก - ลวง -พราง ชื่นสมและตรมตรอม
เพียงกาลย้อม-ป้ายปาดเขียนวาดกล
แม้การณ์นี้ความรักปรักซาก
เจ็บถางถากเร้ารุกแทบทุกหน
ใช่จักหม่นมืดดับจนอับจน
หากก้าวพ้นขื่นเข็ญที่เข่นทรวง
**บทส่งท้าย!..ทางฝันอันวิโยค**
คือคืนโศกครองใจอันใหญ่หลวง
ให้จางจากกมลทุกกลลวง
แล้วมิทวงถามไถ่..ว่าใครทำ??
**บทส่งท้าย!..ทางฝันอันวิโยค**
แม้นเศร้าโศกย้ำตอกจนชอกช้ำ
จงฝ่าผ่านข้ามบ่วงของช่วงกรรม
พ้นมืดดำมายาของอารมณ์ ๚ะ๛
9 สิงหาคม 2554 16:44 น.
บินเดี่ยวหมื่นลี้
๏ ตาฝ้าฟางย่างย่ำก็ลำบาก
คราเจ้าจากเรือนเหย้าแม่เฝ้าหวัง
สักวันหนึ่งเจ้าย้อนมานอนรัง
สู้หน้าตั้งตาคอยเกินร้อยกาล
เจ้าเติบโตเติบใหญ่ในหน้าที่
เกียรติศักดิ์ศรีมากล้นหลากคนขาน
ห้อมล้อมด้วยเสพสิ่งศฤงคาร
บริวารคัดสรรให้บัญชา
ปฎิทินขีดฆ่าคราวันลับ
เฝ้านั่งนับเพ็ญแรมแกมเวหา
ไตรจีวรบริขารปีผ่านมา
ล่วงพรรษาอีกหนแม่ทนรอ
ไม้ใกล้ฝั่งจักยืนกี่หมื่นหน
ก้าวย่างบนวงกรรมซ้ำซ้ำหนอ
มีสิ่งเดียวน้อยหนึ่งก็พึงพอ
แม่เพียงขอเห็นสีชายจีวร
มิได้ทวงบุญคุณให้ขุ่นจิต
ก่อนชีวิตหยุดนิ่งท่ามสิงขร
เพียงซากเถ้าผุพังยังกองฟอน
แม่ขอวอนลูกคืนได้ชื่นชม
ทรัพย์สมบัติมรดกแม่ยกให้
ขอน้ำใจมิมากหากเหมาะสม
บวชแทนคุณมารดาค่าน้ำนม
ก่อนแม่ล้มร่างลับมิกลับมา
หากมิทันดูใจด้วยไกลห่าง
ยามซากร่างแม่รั้งเพียงมังสา
หมดสิ้นปราณลงโลงโยงศาลา
ขอสักครา..บทสวด " บวชหน้าไฟ "๚ะ๛