25 ตุลาคม 2550 22:32 น.
บินเดี่ยวหมื่นลี้
..๏ ซ่อนเร้นตนเดียวดายใจกายเจ็บ
ทนหนาวเหน็บอ้างว้างบนทางฝัน
เยื่อใยรักถักทอพอนานวัน
เพียงโศกศัลย์เกาะกุมรกสุมทรวง
ความห่วงหาอาลัยยามไกลห่าง
กลับจืดจางคลอนแคลนมิแหนหวง
อันอาทรเคยล้นปรี่ฤดีดวง
กลับผันล่วงเลือนหายกับสายกาล
จำข่มความขมขื่นสะอื้นกลั้น
แม้นเจ็บอันแสนหนักเข้าหักหาญ
หวังหลุดพ้นปวดร้าวแม้นยาวนาน
เพียรประสานรอยแผลแต่ลำพัง
ซ่อนเร้นตนเดียวดายให้หายเจ็บ
แม้นหนาวเหน็บหัวใจในความหลัง
ปลดปล่อยวางรักนี้มิจีรัง
สิ่งพลาดพลั้งจำจดเป็นบทเรียน๚ะ๛
16 ตุลาคม 2550 12:57 น.
บินเดี่ยวหมื่นลี้
..๏ ลมเหมันต์ผันกลับจากลับห่าง
ม่านหมอกจางคืนถิ่นยามสิ้นฝน
ดอกหญ้าคอยน้ำค้างอย่างกังวล
หวั่นกมลเจ้ามิมาคราหนาวเยือน
ไหวล้อลมห่มดาวพร่างพราวฟ้า
สกุณาคืนคอนนอนกลางเถื่อน
จำได้ไหม? " ลมหนาวและดาวเดือน "
อยากย้ำเตือนบางใครให้ทบทวน
อย่าลืมเลือนเถื่อนพงหลงเมืองใหญ่
หนึ่งหัวใจคอยฝันวันคืนหวน
ทนอิงเงาเศร้าโศกวิโยคครวญ
ร่ำรัญจวนคำนึงหาทุกราตรี
ลมเหมันต์ผันกลับจากลับห่าง
ม่านหมอกจางโลมดินทุกถิ่นที่
เก็จน้ำค้างแต่งแต้มแซมมาลี
ดวงฤดีจักหวนมาเวลาใด??๚ะ๛
9 ตุลาคม 2550 23:06 น.
บินเดี่ยวหมื่นลี้
..๏ คืนเหน็บหนาวยาวนานบนลานโลก
ความเศร้าโบกโบยตีฤดีหมอง
ทนขมขื่นปวดปร่าน้ำตานอง
โศกจับจองตีตราพันธนาการ
เพียงลมแผ่วพลิ้วผ่านสะท้านไหว
ด้วยหัวใจยับเยินเกินประสาน
คืนน้ำค้างพร่างพรมประโลมลาน
ในดวงมานแต้มพร้อยรอยน้ำตา
ท่ามโสมส่องล่องฟ้าราตรีหม่น
มีเพียงคนเดียวดายไขว่คว้าหา-
หนึ่งเสี้ยวน้อยรอยรักสลักอุรา
แต่พบเพียงความปวดปร่ามากำนัล
คืนเหน็บหนาวยาวนานมิผ่านลับ
แม้นโสมดับสูรย์เลื่อนกาลเปลี่ยนผัน
ซากทรงจำเลือนลับกับวารวัน
เจ็บอนันต์เสถียรอยู่มิรู้คลาย๚ะ๛