24 มิถุนายน 2553 20:21 น.
บินเดี่ยวหมื่นลี้
๏ ลั่นทมร่วงดอกหล่นเกลื่อนบนพื้น
ในยามคืนมืดดำฟ้าฉ่ำฝน
ดอกซีดเซียวบอบบางทอดวางตน
กลีบสีหม่นหมดงามเมื่อยามวาย
เคยเบ่งบานชูดอกลมหยอกล้อ
ผึ้งพนอรุมเร้าทุกเช้าสาย
ดอมดมกลิ่นทั่วร่างสรรพางค์กาย
แล้วลับหายเหินห่างเหมือนอย่างเคย
ปล่อยลั่นทมเศร้าสร้อยละห้อยหา
หลายเวลานานเนิ่นคล้ายเมินเฉย
ผึ้งมิคืนย้อนมาสักคราเลย
มีเพียงลมรำเพยดั่งเผยนัย
ว่าเขาคงมิคืนมาชื่นแก้ม
ผ่านคืนแรมวันลับกับสมัย
เฝ้าคิดถึงภุมรามีค่าใด?
เขาจากไกลหายสิ้นมิยินยล
ความหอมหวานหมดแล้วมิแคล้วหมอง
คือครรลองแห่งธรรมตอกย้ำผล
ถ้วนทุกสิ่งแปรเปลี่ยนและเวียนวน
มิว่าคนฤๅผึ้ง..คือหนึ่งการณ์
ลั่นทมเอยดอกหล่นเกลื่อนบนพื้น
ยามค่ำคืนแสนเศร้าเกินกล่าวขาน
ลมรำเพยเลือนหายกับสายธาร
ปล่อยลั่นทมร้าวราน..กับวารเวลา๚ะ๛
22 มิถุนายน 2553 13:43 น.
บินเดี่ยวหมื่นลี้
๏ คืนฝนโปรยหยาดหยดลงรดป่า
ท่ามนิทราล้นท่วมด้วยความหลัง
หวังฝนล้างรอยช้ำที่กำลัง-
แฝงกายฝังลึกแน่นกลางแก่นใจ
เสียงฟ้าครืนครวญคร่ำลมร่ำสาย
เพลงเดียวดายขานขับเกินรับไหว
หวังเสียงฟ้ากลบเกลื่อนจนเคลื่อนไกล
เพื่อวันใหม่ชื่นหน้าดังฟ้างาม
ด้วยหัวใจตรอมตรมเกินข่มเจ็บ
อีกหนาวเหน็บถูกย้ำในคำถาม
ยิ่งตอบความดั่งปลุกความทุกข์ลาม
จนยากปรามน้ำตาที่บ่านอง
หวังฟ้าฝนช่วยขับความอับเฉา
ชะล้างเงาเศร้าโศกในโลกของ-
คนบาดเจ็บแพ้พ่ายที่หมายปอง
โลกที่ผ่องงดงามด้วยความจริง๚ะ๛
18 มิถุนายน 2553 10:00 น.
บินเดี่ยวหมื่นลี้
๏ เราห่างกันเกินไปหรือไม่หนอ
ความทดท้อจึ่งรุมเข้ากุมเหง
คราเงียบเหงาภวังค์ช่างวังเวง
ดั่งเร้าเร่งโศกเศร้ารุดเข้ากุม
ฤๅอาทรอาลัยเริ่มไกลห่าง
ความจืดจางจึงเพาะเข้าเกาะสุม
สนิมรักแฝงกายเข้ารายรุม
จื่งเกินอุ้มความฝันของวันวาน
ฤๅเรื่องราวร่วมสร้างถึงทางแยก
อยากปลดแอกเพราะท้อเกินก่อสาน
ปล่อยทุกสิ่งยับแตกจนแหลกลาญ
หยุดตำนานงดงามของความจริง
ฤๅเราห่างกันมากจึ่งยากรั้ง
วันแห่งหวังเลือนลับดับทุกสิ่ง
อ้อมแขนเคยโอบอุ่นได้หนุนอิง
ก็เพียงสิ่งคุ้นเคย...เคยคุ้นไป๚ะ๛
4 พฤษภาคม 2553 15:28 น.
บินเดี่ยวหมื่นลี้
๏ ตาวันคล้อยลอยลับใกล้ดับแล้ว
นกค่ำแว่วเสียงคูหาคู่ขวัญ
คาบราตรีขานขับรอรับจันทร์
ยามวารวันลับลาทิวาไกล
สายลมพลิ้วพัดผ่านท่ามลานหล้า
พงพนาคืนกลับความหลับไหล
สงบเงียบเยียบเย็นทุกเป็นไป
สงัดในโศกช้ำเพียงลำพัง
ยิ่งดึกดื่นชื้นฉ่ำด้วยน้ำค้าง
คนแรมทางหมองหม่นแต่หนหลัง
ท่ามเถื่อนถิ่นเคว้งคว้างจากรวงรัง
เพียงเสาะหวังท่ามวันที่สัญจร
หลากเรื่องราวร้อยพันในบันทึก
จากส่วนลึกสุดใจถึงใต้หมอน
สุข โศก เศร้า พ่ายแพ้มิแน่นอน
ทุกบทตอนกระจ่างอยู่กลางทรวง
ตาวันคล้อยลอยลับใกล้ดับแสง
ค่ำคืนแห่งเดียวดายเริ่มกรายล่วง-
เข้ากักกุมโบยตีฤดีดวง
ท่ามกลางห้วงนิทราทุกราตรี ๚ะ๛
10 มีนาคม 2553 15:18 น.
บินเดี่ยวหมื่นลี้
๏ ดูเหงาเหงาเศร้าสร้อยเกลื่อนรอยยิ้ม
นัยน์ตาปริ่มหยาดใสคล้ายไหวหวั่น
ฤๅกั้นกักกล้ำกลืนโศกหมื่นพัน
หวังเจ็บนั้นจมห้วงหว่างดวงมาน
ก่อนนั้นรอยยิ้มแย้มช่างแต้มแต่ง
แววตาแห่งปรีดาและกล้าหาญ
โลกนี้ดูงามทั่วไปชั่วนาน
จวบสูรย์ผ่านจันทร์จรดยังงดงาม
แต่ยามนี้คล้ายคล้ายความหมายว่า
ในแววตาซ่อนงำหลากคำถาม
บางคำตอบที่รู้ทุกครู่ยาม
คือน้ำใสไหลลามตามแก้มตน
ในระทมขมขื่นสะอื้นนั้น
ท่ามคืนวันรองรับความสับสน
คงยากเอ่ยพจน์พากย์จากกมล
จึ่งฝืนทนยิ้มย้ำ...ทั้งน้ำตา
ดูเหงาเหงาเศร้าสร้อยเกลื่อนรอยยิ้ม
เค้นความอิ่มเอิบทรวงว่าห่วงหา-
กลบความเจ็บเหน็บหนาวทุกคราวครา
แม้นน้ำตาไหลริน...แทบสิ้นใจ ๚ะ๛