17 กุมภาพันธ์ 2554 12:50 น.
บินเดี่ยวหมื่นลี้
๏ อาจเพียงหนึ่งกลการณ์ที่สานสร้าง
ร่นเถินทางให้สบพบความหมาย
รักฤๅใคร่บ่งบ่มจมใจกาย
ตราบสุดท้ายถูกผิดลิขิตการณ์
อารมณ์รัก -ใคร่ ลามเกินห้ามฝ่า
ช่วงเวลามืดดำร่ำประสาน
ดูงดงามท่ามหนอนธกาล
เพียงชั่ววารอุ้มสมแล้วล่มลา
จักตามติดชิดเนื้อดั่งเมื่อก่อน
ก็ถูกซ้อนการณ์กลให้ค้นหา
" รัก" ฤๅ " ใคร่" คราก่อนนั้นย้อนมา
เป็นปุจฉาขบคิดสะกิดทรวง
ฤๅเพียง" ใคร่" ไขว่คว้ามาแทนทด
รักที่หมดอาทรรอนแหนหวง
จึ่งเสาะหวังโอบอุ่นละมุนดวง-
หทัยล่วงผ่านขื่นสะอื้นตรม
หากเพราะ " รัก " ไยขืนฝืนลิขิต
ข้ามถูก - ผิดหยิบยื่นความขื่นขม
รักซ้อนรักทับรอยพลอยระทม
รักซ่อนคมบั่นบาดแทบขาดใจ
หากเพียงหนึ่งการณ์กลที่ร่นเถิน
ให้ดำเนินตามการณ์ความหวั่นไหว
ลองย้อนทวนหวนคิดวินิจนัย
" รัก " ฤๅ " ใคร่ " ท่ามกาลที่ผ่านมา ๚ะ๛
1 กุมภาพันธ์ 2554 08:28 น.
บินเดี่ยวหมื่นลี้
ลมหายใจแผ่วเบายามเช้าย่าง
ม่านหมอกจางวางสายก่อนวายหน
ผ่านอีกหนึ่งคาบวารที่ผ่านวน
ท่ามสับสนเคว้งคว้างบ่มกลางทรวง
ช่วงทิวาขับขานท่ามลานหล้า
กวาดดาราวาววับหายลับล่วง
แต่บางปมล่ามที่ฤดีดวง
มิคลายบ่วงเกลียวฝั้นแม้นวันใด
พันธนาก่อนเก่ายังเข้าห้อม
ครอบคลุมล้อมดวงมนเกินทนไหว
ช่างยากเกินจักตัดสลัดใย
ฤๅหัวใจยังมั่น..พันธนา
เฉกเดินทางกลางเถื่อนคราเดือนดับ
เกินจะกลับคืนหนก่อนด้นฝ่า
หากจักย่างย่ำข้ามตามดารา
ก็เกินกว่าถากขวางที่วางกล
ลมหายใจแผ่วเบายามเช้าย่าง
จักเดินทาง ไป - กลับ ช่างสับสน
มองเวิ้งฟ้าผาภูย้อนดูตน
บนเหตุผลอะไร??..ที่หมายทำ
27 มกราคม 2554 16:33 น.
บินเดี่ยวหมื่นลี้
..๏ ป่าเหนือยังพร่างพรมด้วยลมหนาว
คืนน้ำค้างหยาดพราวราวน้ำฝน
โสมไขแสงแต่งช่วงสรวงเบื้องบน
เกลื่อนดาวหม่นวาววิบอยู่ลิบไกล
เพลงราตรีเสียงแว่วช่างแผ่วหวาน
กล่อมดวงมานคนจรที่อ่อนไหว
รอนแรมทางท่ามเขาลำเนาไพร
เสาะแสวงสิ่งใด?ฤๅใครกัน
ฟ้าอีกฝั่งยังไกลจากไพรกว้าง
การเดินทางขื่นทุกข์ฤๅสุขสันต์
มิมีคำตอบวางแต่ปางบรรพ์
ตราบล่วงวันก้าวข้ามไปตามทาง
คาบราตรียาวนานยามกาลหนาว
ผินมองดาวดวงเดิมเริ่มลับห่าง
ค่ำคืนนี้เปลี่ยวเหงาท่ามดาวจาง
ปนอ้างว้างกลางเถื่อนคราเดือนจร
หลับท่ามแดนพงไพรไล้น้ำค้าง
กายใจวางแนบนิ่งหว่างสิงขร
เดินทางผ่านหมื่นลี้สีทันดร
ขอพักนอนก่อนพรุ่งเข้าปรุงวาร
ทางข้างหน้ายังยาวให้ก้าวข้าม
ขวางขวากหนามมากนักรอหักหาญ
ตราบปราณอยู่คู่กายท่ามสายกาล
ในดวงมานฤๅท้อต่อชะตา
ป่าเหนือยังพร่างพรมด้วยลมหนาว
รางแสงดาววาวหม่นเกินค้นหา
โสมเคลื่อนคล้อยลอยต่ำคล้ายร่ำลา
คาบทิวาส่องเถิน...ให้เดินทาง ๚ะ๛
28 ตุลาคม 2553 15:23 น.
บินเดี่ยวหมื่นลี้
๏ มาดแม้นด้วยเพรงกรรมที่นำสู่
สร้างเราคู่เคียงข้างแต่ปางไหน
ตราบชาตินี้ภพหน้าเข้าคลาไคล
คงยากเกินตัดใยในสัญญา
เมื่อบุพเพเขียนวาดหนึ่งชาติภพ
ที่ต้องสบ-พบ-คลาดตามวาสนา
อีกรอยกรรมขีดคั่นคำบัญชา
จำก้มหน้าก้าวข้ามตามกงเกวียน
พบแล้วพรากดวงจินต์เหมือนสิ้นดับ
จ่อมจมกับอดีตที่ขีดเขียน
ห้วงแห่งทุกข์โศกเศร้าเข้าวนเวียน
เฝ้าหมุนเปลี่ยนรายล้อมโอบอ้อมใจ
ด้วยรักที่หนักแน่นปานแผ่นผา
พันธนาสองคนแต่หนไหน
ผ่านสายกาลหมุนวัฎฎ์ระบัดไกว
มิหวั่นในสายธารกาลเวลา
เมื่อรอยกรรมบัญชาถึงคราจาก
ต้องถูกพรากลับไกลเกินไขว่หา
ประหนึ่งม้วยมอดสิ้นในวิญญา
ห้วงอุรายับแตกลงแหลกราญ
พบแล้วพราก - จากหายมิกรายกลับ
เกิดแล้วดับตามกรรมที่นำขาน
จวบเวียนว่ายเคียงชิดจิตกาธาน
คงถึงกาลเคียงคู่อยู่นิรันดร์๚ะ๛
24 ตุลาคม 2553 12:50 น.
บินเดี่ยวหมื่นลี้
๏ ยินลำนำตรอมตรมผ่านลมหนาว
ร้อยเรื่องราวขื่นขมเกินข่มไหว
ด้วยสัมพันธ์จืดจางของบางใคร
สะอื้นในอุราคราหนาวเยือน
ไยตัดพ้อทอคำระกำเศร้า
ดั่งเจ็บเร้ารุกใจหาใดเหมือน
ฤๅไหวหวั่นสัญญาจักลาเลือน
จึ่งเชือดเฉือนพากย์พจน์ประชดประชัน
หนาวลมหนาวคราวนี้เหมือนปีก่อน
ทุกบทตอนรักแท้มิแปรผัน
แม้นแสนห่างทางไกลในคืนวัน
ยังคงมั่นเราสองเต็มห้องใจ
อย่าเศร้าสร้อยปล่อยหนาวให้ร้าวจิต
ยังคงคิดถึงกันอย่าหวั่นไหว
อีกมินานยอดกมลของคนไกล
จักกลับไปรับขวัญ...ให้สัญญา๚ะ๛