28 มิถุนายน 2548 11:17 น.
บินเดี่ยวหมื่นลี้
ยินสายลมตัดพ้อถึงกอหญ้า
ว่าอุราร้าวลึกเมื่อนึกหวน
ห้วงความฝันเพียงคืนสะอื้นครวญ
ยิ่งรัญจวนครารุ่งสางต้องห่างกัน
ลมเอ๋ยลมอย่าพ้อและต่อว่า
ที่ผ่านมาหวั่นไหวเพราะใครนั่น
โอบลูบไล้ใต้ดาวพราวแสงจันทร์
พอตะวันเยี่ยมฟ้ากลับลาไกล
ปล่อยกอหญ้าคอยเก้อชะเง้อหา
ทุกทิวาหวาดหวั่นจนสั่นไหว
หรือเพียงโบกพัดเล่นแล้วเร้นไป
ทิ้งให้ใครขื่นขมจมน้ำตา
เจ้าพัดพริ้วโอบใครที่ไหนอีก
จึงหลบหลีกซ่อนตนเกินค้นหา
หรือลืมถิ่นเก่าก่อนมิย้อนมา
หรือค้นหาหญ้ากอใหม่ตามรายทาง
24 มิถุนายน 2548 10:53 น.
บินเดี่ยวหมื่นลี้
วันทากวีแก้ว..............................กรุงสยาม
รัตนมณีงาม..............................แห่งหล้า
ศาสตร์ศิลป์เลื่องลือนาม............เอกบุรุษ
กลอนกาพย์เคียงคู่ฟ้า...............หนึ่งนั้นใครเทียม
จันทร์แปดหนึ่งค่ำขึ้น.................แรมวาย
นักษัตรมะเมียหมาย..................ท่านท้าว
จวบจนล่วงปีกราย......................เดือนหก
กำเนิดครูผู้ก้าว.........................สู่ห้วงวรรณศิลป์
.
สองศตวรรตพ้น........................นานปี
คุณค่าอีกความดี........................ท่านสร้าง
แบบแผนแห่งกวี.......................คงอยู่
สานก่อมิลบร้าง...........................ล่มสิ้นวรรณกรรม
น้อมกราบครูภู่สร้าง...................แนวทาง
แบบอย่างกลกลอนวาง...............ก่อไว้
พระคุณดั่งฟ้ากาง.......................โอบสมุทร
ขอเทิดทูนท่านไซร้.....................เหนือเกล้าเกศี
22 มิถุนายน 2548 09:22 น.
บินเดี่ยวหมื่นลี้
บนยอดภูครูดอยคอยความหวัง
ค่ำคืนยังยาวนานสานสิ่งฝัน
อุดมการณ์แกร่งกล้าท้าตะวัน
เพียรสร้างสรรค์เด็กน้อยตามรอยตน
สูงเสียดฟ้าท้าทายความรู้สึก
ในสำนึกแห่งครูสู้ทุกหน
แม้นลำบากขวากหนามข้ามผจญ
มิเคยบ่นก่นคำทำเพื่อใคร
สักกี่คนรับรู้ครูผู้น้อย
ที่เฝ้าคอยแพ้วทางสว่างไสว
ดั่งเทียนน้อยส่องสาดวาดแสงไฟ
ประกายใสทั่วแดนมิแรมลา
จากยอดภูสู่พื้นราบลำบากนัก
แต่ยากหักคิดถึงคะนึงหา
หอบหัวใจน้อยน้อยลงดอยมา
เพื่อพบหน้าหวานใจคนไกลกัน
แม้หนทางลำบากมิเคยล้า
ข้ามภูผาเลาะไพรหาได้หวั่น
เพียงน้องนางยามห่างคราคืนวัน
อย่าเปลี่ยนผันจากครูบนภูพาน
21 มิถุนายน 2548 10:00 น.
บินเดี่ยวหมื่นลี้
ด้วยหัวใจรวดร้าวยามเขาจาก
รักถูกพรากเกินกู่เคียงคู่ฝัน
ความเศร้าหมองจองจับนานนับวัน
บาดแผลอันลึกรอยคอยย้ำใจ
เจ็บเกินเจ็บเหน็บหนาวคราวหวนนึก
ความรู้สึกหวาดหวั่นจนสั่นไหว
มิกล้าก้าวตามฝันอยากมั่นไป
เพราะหัวใจย่ำแย่แผลเรื้อรัง
จึงลั่นดาลปิดตายในความรัก
ฝืนทนหักสัมพันธ์ตัดวันหวัง
มิมอบจิตสนิทใครให้ระวัง
กลัวความหลังย้อนรอยพลอยระทม
ก่อกำแพงกักตัวกลัวหม่นหมอง
หาคิดครองเคียงใครให้สุขสม
ซากที่ช้ำยังบาดบากถากอารมณ์
เกินจะล่มทลายทุบยุบป้อมกัน
หากวันหนึ่งใจกล้าท้าความเจ็บ
ฝังกลบเก็บความเหงาเศร้าโศกศัลย์
พึงนึกย้อนศรัทธาค่าอนันต์
ใครคนนั้นยังรอรับซับน้ำตา
20 มิถุนายน 2548 11:58 น.
บินเดี่ยวหมื่นลี้
คลื่นความถี่ล่องฟ้าทุกคราค่ำ
ส่งลำนำเพลงหวานอาบลานฝัน
ท่วงทำนองเพลงเศร้าคละเคล้ากัน
เปิดทุกวันที่มวลมิตรคิดจะฟัง
นั่งหลังไมล์บอกกล่าวทุกข่าวสาร
วิชาการตำนานเก่าเล่าความหลัง
ศิราณีของผู้พ่ายไร้พลัง
จุดความหวังให้เข้มแข็งแกร่งกล้าเดิน
กี่ร้อยคนทักทายในความถี่
หลากเรื่องมีแนะนำมิขัดเขิน
สร้างรอยยิ้มพิมพ์ใจได้เพลิดเพลิน
ถูกหยอกเอินพูดส่อเสียดหาเกลียดกัน
นั่งหลังไมค์ใจส่งคลื่นยื่นความสุข
ให้หมดทุกข์เศร้าคลายหายผ่านผัน
สักกี่คนรับรู้ได้ในบางวัน
ดีเจนั้นก็มีเหงาเฝ้าฝืนทน