12 ตุลาคม 2551 23:02 น.
บินเดี่ยวหมื่นลี้
๏ ผิด..กอ..ขอ..รอครูมาดูให้
หาผ้าใหม่ให้สะไภ้ใคร่สับสน
ออ..อา..อา..ขอ..อับ..ขับ..ยิ่งอับจน
ยินครูบ่นสอนยากลำบากจัง
โคลงเรือเรือโคลงเหมือนโยงยุ่ง
สมองฟุ้งอ่านความตามหน้าหลัง
ตราบครูบอกท่อนวรรคจักระวัง
อย่าเผลอพลั้งกำหนดแล้วจดจาร
นึกถึงคำคุณครูผู้พร่ำกล่าว
เหมือนยิ่งตอกเรื่องราวหลากกล่าวขาน
ณ วันนี้ หลากพจน์ถ้อยร้อยเหตุการณ์
เราจักผ่านกลั่นกรองตรองเช่นไร
หาไร้ซึ่งสมองให้ตรองตรึก
ล้นสำนึกครบครันมิหวั่นไหว
เพียง..กอ...กา..กอ...กู..ดูเปลี่ยนไป..
ฤๅจักเริ่มอ่านใหม่..วัยก่อนเรียน..๚ะ๛
.........................................................
อักษรสูง..ฤๅต่ำ..จำมิได้
อักษรกลางยิ่งไร้ไม่ขีดเขียน
กะโหลกหนาปัญญาด้อยน้อยพากเพียร
หวังเป็นเธียร...คงอุบาทว์...แผกชาติพันธุ์
10 ตุลาคม 2551 00:41 น.
บินเดี่ยวหมื่นลี้
๏ แผ่นดินนี้กี่คืบอยากสืบถาม
เพราะกี่นามบรรพชนทนรักษา
เลือดกี่หยดรดรินถิ่นพสุธา
จึ่งได้มาเป็น " สยาม" นามว่า " ไท "
กี่ร้อยศึกตรากตรำเข้าห้ำหั่น
กี่หมื่นหนประจัญมิหวั่นไหว
เอกราชที่ปกป้องเพื่อผองใคร???
สำนึกไหม???...ซากเถ้า...กู..ที่กู้มัน
อันเลือดกูหยาดรินบนถิ่นด้าว
มิปวดร้าววิปโยคแสนโศกศัลย์
เทียมเท่า "ไทย" เข่น " ไทย " ..ทำไมกัน??
ฤๅจักบั่นแผ่นดินอยู่...กู...สร้างมา
ศึกนอกแคว้นแดนเมืองใช่เรื่องใหญ่
ศึกภายในเรื้อรังน่ากังขา
สายเลือด..กู..แบ่งแยกแตกศรัทธา
อนิจจา...ช่างอดสู...เลือดกูจริง
หาก..กู..รู้...เบื้องหน้าว่าเยี่ยงนี้
จักมิพลีชีพตนบนทุกสิ่ง
ปล่อยข้าศึกทั้งปวงเข้าช่วงชิง
มิประวิง...เพราะมิรู้...สู้เพื่อใคร??? ๚ะ๛
........................................................
หาก..กู..รู้...เบื้องหน้าว่าเยี่ยงนี้
คงมิพลีชีพข้า(ฆ่า)เพื่อหน้าไหน??
โน่นก็อ้าง...นั่นก็ว่า..ประชาธิปไตย
..........?????.......?????...................
30 กันยายน 2551 01:05 น.
บินเดี่ยวหมื่นลี้
๏ ถ้อยรำพันรันทดกำสรดโศก
คล้ายดั่งโลกโหดร้ายทำลายหวัง
ปริ่มสิ้นแล้วชีวินต้องภินท์พัง
ทุกข์ประดังซัดสาดพิฆาตใจ
ฤๅ รันทดหมดหวังทุกอย่างแล้ว
ดุจดั่งแก้วแตกยับเกินนับไหว
จึ่งรำพันพจน์พากย์หลากความใน
กลั่นออกไปจนหมดความจดจำ
หยดน้ำตาเจ้ารินแทบสิ้นสาย
ด้วยมลายศรัทธาค่าเคยล้ำ
แท้เพียงหลอกตอกใจให้ระกำ
สุดท้ายช้ำข่มขื่นสะอื้นตรม
ในภาษาปรากฏคล้ายหมดหวัง
ไร้พลังจักฝืนความขื่นขม
อยากหยุดสิ้นหายใจ...จึ่งวายระทม
ช่างมิสม...กับตัวตนคนทระนง
หนึ่งความห่วงอาจห่างเหมือนอย่างเริ่ม
แต่คงเดิมห่วงใยมิไหลหลง
คำสัญญาต่อกันยังมั่นคง
อย่าพะวงว่าจักหายดุจสายลม
เธอเจ็บร้อย..ฉันเจ็บล้าน...เกินขานกล่าว
เธอหมื่นร้าว..ฉันโกฏิแสนแน่นขื่นขม
หากแลกหนึ่งสุขน้อย...กับ..ร้อยระทม
ฉันขอตรม..เพื่อเธอสุข...ทุกโมงยาม๚ะ๛
29 กันยายน 2551 09:47 น.
บินเดี่ยวหมื่นลี้
..๏ สงบบ้างเถิดใจในไหวหวั่น
ลืมวารวันอิดโรยมิโหยหา
ลืมภาพฝันทั้งปวงที่ลวงตา
ลืมเวลาอ่อนแออย่าแพ้มัน
เมื่อความรักความหวังมาพลั้งพลาด
จนมิอาจหลุดโลกความโศกศัลย์
ปล่อยเรื่องราวผันผ่านกับวารวัน
เผื่อจาบัลย์เลือนหายกับสายกาล
มิมีใคร ผิด - ถูก อย่าผูกเรื่อง
มันเปล่าเปลืองวาจามากล่าวขาน
ต่างคนต่างเหตุผลจนร้าวราน
เกินจักสานสัมพันธ์ให้มั่นคง
สงบบ้างเถิดใจอย่าไหวหวั่น
ปล่อยคืนวันล่องไปอย่าไหลหลง
เมื่อรักนี้เกินรั้งให้ดำรง
ขอจบลงอย่างสงบมิทบทวน๚ะ๛
๏ สายวสันต์อันฉ่ำชื้น..............วสันต์
รินพร่างพรมห่มขวัญ................ค่ำเช้า
สายกาลผ่านคืนวัน....................ลับผ่าน
คงแต่ความโศกเศร้า..................เอ่อล้นทรวงใน๚
๏ สายวสันต์ยังฉ่ำชื้น.................วสันต์
พรมพร่างหว่างคืนวัน.................ค่ำเช้า
น้ำตาแห่งโศกศัลย์.....................ไหลเอ่อ
คงแต่ความตรมเศร้า..................ชั่วฟ้าดินสลาย๚ะ๛
20 กันยายน 2551 12:05 น.
บินเดี่ยวหมื่นลี้
๏ เมื่อสำนึกแห่งใจไม่รอบคอบ
จึงโกยกอบอัตตามาก่อสาน
ยึดเหตุผล " ตัวกู " อยู่ชั่วนาน
ช่างดักดานดึงดันอย่างมั่นใจ
ปิดทวารมิรับสดับโสต
ยิ่งพาลโกรธเกี้ยวกราดตวาดใส่
หากมีคนท้วงติงในสิ่งใด
ยกเหตุผลตนใหญ่ว่าใครปวง
หนอนผีเสื้อดักดานกับวารผัน
กี่เพ็ญจันทร์แรมดับลับล่องล่วง
จวบครบวัฏสลัดพรากจากคราบกลวง
กางปีกงามรับดวงแห่งตาวัน
เมื่อสำนึกแห่งใจไม่รอบคอบ
เพียรเขียนกรอบอัตตามาสร้างสรรค์
อีกกี่นานสูรย์ลับดับเพ็ญจันทร์
จึงจักหันเห็นทางสว่างเดิน ๚ะ๛