.. ปฐพีเพลิง..

กิ่งโศก

447.jpg   
ฟ้าหม่น ถูกประดับไปด้วยก้อนเมฆกลั้วด้วยเฉดสีหมองกระจายทั่วท้องฟ้าเบื้องบนนั่น?
อา...แลนิมิตรภาพเหล่าอสุรา จากขุมโลกันยืนจังก้าแสยะยิ้มรออย่างกระเหี้ยนกระหือ
กรงเล็บกางรอขย้ำ เต็มด้วยคราบโลหิต...หยดเลือดกำลังรินไหลร่วงพื้นแล้ว
เลือดจากเบ้าหลอมเดียวกัน กำลังมล้างกัน
บรรเลงคีตพญาโศก คลอทอดท่วงทำนอง กำสรดเศร้า ...อา พญาโศกกำสรวล ..และเหมือนสวดส่งความอาลัย.
ขับส่ง...วิญญาณทุกผู้ที่ร่วงทาบไปบนพื้น  
ขับรับ....บอกเตือนแด่ชนผู้มีกิเลสได้พึงรับรู้ถึงผลลัพภ์  แห่งพิษ...อัคนีใจ..มนุษย์
442.jpg
เห็นภาพเปลวควัน ที่คละคลุ้ง บ่งบอกถึง ความแปลกแยก ได้ลุกลามทั่วแล้ว การต่อสู้ทางความคิด ในระบอบประชาธิปไตย ช่างโหดร้ายสิ้นดี
บ้านเมืองเผาป่น
ผู้คนล้มตาย
บาดแผลถูกกดคมลง ยิ่งกรีดรอยลึกอยู่ทุกขณะ โอสถใดเล่าจะมาสมานรอยไหม้รอยนี้
เมืองพุทธ ที่เพาะบ่ม กล่อมเกลา ให้คนไทย นั้น มีสติด้วยต้วของตัวเอง  มีศีลธรรม  มีเมตตา กรุณา พึงปฏิบัติต่อกัน ของชนชาวไทย ใต้เบื้อง พุทธศาสนา หรือแม้แต่ศาสนาอื่นๆ ที่พึงสั่งสอน ให้ ...เป็น คนดี เช่นเดียวกัน
ความดี ที่ทุกคนพึงปฏิบัติ ควบคู่กับ วัฒนาการสังคมเมือง ที่แทรกแซง แซะสิ่งเหล่านี้ออกห่างจากฐานเดิม ฐานแห่งความรู้จัก ดี ไม่ดี
สังคมเมืองที่มาแทน วิถีเดิม ได้แปร หลายอย่างๆ ให้ขยับออกห่าง เพื่อนำวิถีครองตนแบบใหม่เข้าแทนที่
สายตาแห่งมิตรแปรเปลี่ยนเป็นอมิตร  
0012523.jpg
ภาพที่เห็น กิ่งโศก ยิ่งนึกถึงนวนิยาย แนวภาระตะ เรื่องหนึ่ง คือเรื่อง ปฐพีเพลิง..ประพันธ์โดย พนมเทียน  เป็นนักเขียนที่กิ่งโศก ได้พบ ได้ลายเซ็น เป็นที่ระลึก และ สะสมงานของนักเขียนท่านนี้ไว้มากมาย แม้แต่ นามเรียกชื่อเล่นที่เล่นกันในบางเวป กิ่งโศก ยังนำชื่อตัวละคร มาตั้งเป็นชื่อเรียกของตัวเอง
ภาพเปลวไฟลุกท่วมไม่แตกต่างกัน  ภาพคนล้มตาย ต่อสู้ไม่ต่างกัน 
การบันทึกครั้งนี้ไม่ได้เจตนาจะซ้ำเติมฝ่ายใดแต่อย่างใด เพียงอยากกล่าว อยากพุด อยากแสดงออก  เพราะเป็นๆคนหนึ่งในประเทศนี้ เท่านั้น..
445.jpgbeaubud01.jpg
+ ศีล ที่ละไร้กระทำ +
๏  ศีล  เหี้ยนละห่างเว้น....... วายทำ
ธรรม  ลบหน่ายหายนำ........ห่อนน้าว
หลุด  ร่วงโกรธถลำ.............ลุกกร่าง
หาย  หดลดแหว่งเว้า...........กลบสิ้นเกลี่ยสูญ ๚ะ
๏  อสูรแอบซ่อนเร้น.......ร่างแทน ชนเฮย
นัยน์ปูดบึ้งตึงแหงน...........ผงกงุ้ม
เงื้อง่าฆ่าแบ่งแบน.............หวังบิ่น
แสยะยักษ์ยิ้มขยุ้ม........... ขยอกย้ำฉีกสยอง  ๚ะ
๏  ส่องไฟใส่ลุกเชื้อ.......แดงเพลิง
บ้านล่มจมกระเจิง.........เจื่อนเถ้า
หือระห่ำร่อนเขิง...........ตาข่าย
ปะทุลามรุกเร้า.............ดุจคล้ายผีสาง  ๚ะ
๏  ต่างรบต่างล่าล้าง.......บรรลัย  ต่างนา
แค่ต่างจิตต่างใจ.............ต่างเชื้อ
ต่างความต่างข้อไข........คำต่าง
ต่างฉีกต่างเฉือนเนื้อ.....ต่างไร้ศีลธรรม  ๚ะ
๏  เนื้อนำธรรมชะล้าง........ลอกรอย ได้ฤา
ให้สุกใสเฉกพลอย.............เลื่อมแพร้ว
สลักเสลาสลอย..................สล้างจิต
ประสิทธิ์ประสาทแก้ว..........เกิดสร้อยโคมไสว  ๚ะ
+  กิ่งโศก +
425.gif				
comments powered by Disqus
  • แก้วประภัสสร

    20 พฤษภาคม 2553 10:36 น. - comment id 30057

    ภาวนาดลใจให้ทุกคน มีสติ
    และจบเรื่องร้ายในเร็ววันค่ะ
    36.gif16.gif
  • แก้วประภัสสร

    20 พฤษภาคม 2553 10:43 น. - comment id 30062

    "ประกาศสถานการณ์กราฟิวด์...
    ขอให้แมวทั้งหลาย ห้ามออกจากห้องใต้หลังคา
    ตั้งแต่ 6 โมงเช้า ถึงสองทุ่ม แมวตัวใดฝ่าฝืน ถือว่าผิดต่อกฏแห่งแมว มีโทษงดกินปลาทู 3 วัน.. ."
    ..............................
    ด้วยรักและปรารถนาดีจาก
    น้องต้า รัมณีย์
    19.gif19.gif20.gif
  • เฌอมาลย์

    20 พฤษภาคม 2553 10:57 น. - comment id 30189

    ไม่เคยคิดว่าจะเป็นฝีมือของคนไทยด้วยกันเอง
    ไร้ซึ่งมนุษยธรรม ศีลธรรม หมดแล้วซึ่งความเป็นคน 29.gif36.gif
  • ธันวันตรี

    20 พฤษภาคม 2553 11:21 น. - comment id 30190

    แวะมาสวัสดีครับ ^ ^
    
    หวังว่าไฟสงครามจะจบลงโดยเร็วครับ
    
    คนไทยมีนิสัยดี และมีน้ำใจเป็นทุนเดิม
    
    แต่อาจจะเพราะความแตกต่างทางการเมือง ทำให้ขาดสติไปขั่วขณะ หวังว่าทุกฝ่ายจะเรียกสติกลับมาโดยไวครับ ^ ^
    
    
    36.gif36.gif11.gif36.gif36.gif
  • เพียงพลิ้ว

    20 พฤษภาคม 2553 11:46 น. - comment id 30215

    ควันไฟตามไปหลอกหลอนในฝันด้วยค่ะ แย่จัง
    
    
    36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif1.gif
  • ปู่กิ่งฯ

    20 พฤษภาคม 2553 17:07 น. - comment id 30228

    คุณแก้วประภัสส
    
    ๐ ภาวนาแล้วช่วยกันครับโดยเริ่มที่ตัวเราเอง
    
    เฮ้อ  ไม่อยากฟัง อยากเห็นภาพ  เหล่านี้เลย
    ดูมันโหดร้าย ในความรู้สึกเป็นอย่างมาก
  • ปู่กิ่งฯ

    20 พฤษภาคม 2553 17:09 น. - comment id 30229

    คุณแก้วประภัสสร
    
    อิอิ..แหม มาเบรคอารมณ์ที่กำลังจะจมดิ่ง
    
    ได้ดีครับ...อิอิ   กาฟิล..
  • ปู่กิ่งฯ

    20 พฤษภาคม 2553 17:11 น. - comment id 30230

    คุณเฌอฯ
    
    อเน็จอนาถใจนัก....
    
    เป็นไปได้ขนาดนี้  ..
    
    ....ไทยตีไทย  ฆ่าไทย  ..
  • ปู่กิ่งฯ

    20 พฤษภาคม 2553 17:13 น. - comment id 30231

    คุณธันวันตี
    
    ครับ ต้องช่วยกันดึงสติให้กับมาเป็นเช่นพื้นเพ นิสัยของคนไทยจริงๆ ..ครับ
    
    ความโหดร้าย  แบบนี้ ไม่เคยพบเห็นอะ
    
    ..ขอบคุณนะครับ
  • ปู่กิ่งฯ

    20 พฤษภาคม 2553 17:14 น. - comment id 30232

    คุณเพียงพลิ้ว
    
    ..ครับว่าว่า เรื่องราวจะค่อยๆ สงบในไม่ช้า
    
    ภาพหลอกหลอน เหล่านี้ ขอเพียงให้มันเกิดครั้งนี้ เป็นครั้งสุดท้ายเถอะ
    
    ขอบคุณที่แวะมานะครับ
  • เด็กวัด ป1

    21 พฤษภาคม 2553 05:37 น. - comment id 30276

    บทเรียนนี้ต้องจดดจำแน่
    
    ชีวิตคนจนยากตายไปด้วยฝีมือไอ้ทรราชย์ฆาตกรชั่ว
    
    วิญาณของพวกเขาต้องมีการชดใช้
  • กิ่งโศก

    22 พฤษภาคม 2553 09:20 น. - comment id 30322

    ความเห็น 11
    
    ถูกแล้ว  คนที่ทำให้ล้มตายนะ คือ คนที่ต้องได้รับโทษอย่างสาสม
  • test

    22 พฤษภาคม 2553 12:01 น. - comment id 30331

    logobma.JPG
    
    ..อย่าไปเลย บางกอกจะบอกให้..
    .. ผู้คนมีแต่จิตใจที่แห้งแล้งน้ำใจ ใจร้ายด้วย
    ..รถราก็ติด มลพิษ ไม่น่าอยู่ โจรผู้ร้ายในคราบผู้ดี มีมาก ผู้คนสาหน้ากากเข้าหากัน 
    
    แต่อีกมุมหนึ่ง บางกอก คือความศิวิไล
    บ้านเมืองสวยงาม
    ของกินของใช้ มากมาย
    ไฟแสงสี เป็นดั่งเมืองสวรรค์
    
    นี่คือ คำกล่าวของคนต่างถิ่น ที่พูดถึงเมืองหลวง
    
    37401.gif
    
    กิ่งโศก ขับรถกลับจากที่ทำงานแถวเมืองชลบุรี เพื่อกลับบ้านที่กรุงเทพ ในห้วงเวลาสถานการณ์เคอร์ฟิว
    ด้วยความรีบเร่งจึงต้องทำความเร็วอีกนิด  แต่ด้วยความระมัดระวัง
    อีกด้านหนึ่งฟังข่าว จากคลื่นข่าว(ที่ไม่ได้เชียร์ข้างใดข้างหนึ่ง) ที่ผู้ดำเนินรายการ วิจารณ์ข่าวอยู่ พร้อมให้คนที่ฟัง ส่งข้อความเข้ามาด้วย
    กิ่งโศก ติดใจกับข้อความหนึ่งที่ส่งมา โดยใช้นามว่า คนกรุงเทพ  เขาส่งมาแบบนี้ครับ
    
     เมื่อก่อน ผมเบื่อกรุงเทพ มาก เพราะ   กรุงเทพ น้ำจะท่วมทุกปี  รถก็ติด
    หน้าร้อนมีแต่ไอควันพิษ
    โจรผู้ร้าย เหล่ามิจฉาชีพ เยอะแยะ ไปไหนมาไหนไม่ปลอดภัย
    เป็นคนกรุงเทพ แต่เบื่อกรุงเทพ แทบจะเกลียดไปเลย
    
    มาวันนี้ กรุงเทพของผม  เต็มไปด้วยเสียงระเบิด  เสียงปืน คนล้มตาย
    โจร ยิ่งกว่าโจร เผากรุงเทพ 
    ซากกองตึก ไหม้ดำ ผู้คนอลหม่าน ตกงาน บ้านช่องถูกเผา ถูกปล้น
    กองขยะเกลื่อน
    
    วันนี้ ผม อยากจะบอกว่า..ผมรักกรุงเทพครับ
    กรุงเทพไฉน ถูกทำร้าย บ้านผมทำไมถูกทำร้าย
    ....ผมรักกรุงเทพ..
    
    
    15455_95637.gif
    
    กิ่งโศก อยากได้ยินเขากล่าว อยากได้ยินในน้ำเสียงของเขานัก  
    มันคง เศร้าสร้อย อาดูร บวกถึงอารมณ์ที่หวงแหนสิ่งของที่ตัวเองรัก แล้วมาถูกทำลาย
    สายดายที่ความรู้สึกที่ไม่ดี เมื่อครั้งก่อน
    มันสะท้อนออกมาได้หลายแง่ หลายๆ อารมณ์
    ...กิ่งโศก ในฐานะ ที่อาศัย กรุงเทพ  วันนี้เลย ขอนำบทเพลง ที่กล่าวถึงความสวยงามของ กรุงเทพ
    
    ในบทเพลงที่ฟังดูเยือกเย็น แต่ได้กล่าวถึง ความงดงามของเมือง บางกอก นครแห่งสวรรค์เมืองนี้ไว้ครับ มาร่วมรับชมรับฟังกันครับ
    
    
    A9276563-0.jpg
    
    เพลง  กรุงเทพฯราตรี 
    
    ศิลปิน  สุนทราภรณ์ 
    
    
    ..ญ.โอ้กรุงเทพฯเมืองฟ้าอมร
    (ช.)ฮู ฮู ฮู ฮู ฮู ฮู ฮู
    (ญ.)สมเป็นนครมหาธานี
    (ช.)ฮู ฮู ฮู ฮู ฮู ฮู ฮู ฮู
    (ญ.)สวยงามหนักหนายามราตรี
    (ช.)งามเหลือเกินเพลิดเพลินฤดี
    (ญ.)ช่างงามเหลือที่จะพรรณนา
    (ช.)เที่ยวดูเล่นแลเห็นอาคาร
    (ญ.)ฮู ฮู ฮู ฮู ฮู ฮู ฮู
    (ช.)เหมือนดังวิมานสถานเทวา
    (ญ.)ฮู ฮู ฮู ฮู ฮู ฮู ฮู ฮู
    (ช.)ทั้งยานพาหนะละลานตา
    (ญ.)งามแสนงามเหมาะนามสมญา
    (ช.)เหมือนเทพสร้างมาจึงงามวิไล
    (ญ.)ราชดำเนินน่าเดินเพลิดเพลิน
    เรียบร้อยแพรวพรรณ
    (ช.)สมนามสำคัญเฉิดฉันท์อำไพ
    (ญ.)แสงไฟแสงโคมเล้าโลมฤทัย
    (ช.)ทั้งเมืองวิไลคล้ายยามทิวา
    (ญ.)ยอดปราสาทเป็นชั้นเป็นเชิง
    (ช.)ฮู ฮู ฮู ฮู ฮู ฮู ฮู
    (ญ.)เหมือนลอยระเริงเล่นเหลิงนภา
    (ช.)ฮู ฮู ฮู ฮู ฮู ฮู ฮู ฮู
    (ญ.)เหมือนดังจะเย้ยดวงดารา
    (ช.ญ.)เป็นเพราะจันทร์ผ่องพรรณฉายมา
    จึงวาววับตายิ่งพาเคลิ้มใจ
    (ญ.)ยอดมณฑปช่อฟ้าตระการ
    (ช.)ฮู ฮู ฮู ฮู ฮู ฮู ฮู
    (ญ.)สำเริงสำราญสถานเวียงชัย
    (ช.)ฮู ฮู ฮู ฮู ฮู ฮู ฮู ฮู
    (ญ.)เหมือนเมืองสวรรค์ของชาวไทย
    (ช.)ชนทั้งเมืองรุ่งเรืองวิไล
    (ญ.)ถ้วนทั่วทุกวัยเลิศจริงหญิงชาย
    (ช.)ดังจะข่มอัปสรเทวา
    (ญ.)ฮู ฮู ฮู ฮู ฮู ฮู ฮู
    (ช.)ยิ้มยวนเย้าตาดูแล้วสบาย
    (ญ.)ฮู ฮู ฮู ฮู ฮู ฮู ฮู ฮู
    (ช.)หรือเป็นชาวฟ้ามาเดินกราย
    (ญ.)เมืองนั้นงามดั่งเทพนิยาย
    (ช.)ทั้งหญิงและชายแต่งกายสวยดี
    (ญ.)แหล่งเที่ยวหย่อนใจทั่วไป
    หลากหลายรายเรียง
    (ช.)หญิงชายเคล้าเคียงเพลินเสียง
    (ญ.)ทุกคืนเสียงเพลง
    ครื้นเครงเพราะดี
    (ช.)สวนลุมพินีเขาดินวนา
    (ญ.)โอ้เมืองแก้วเลิศแล้วราตรี
    (ช.)ฮู ฮู ฮู ฮู ฮู ฮู ฮู
    (ญ.)ทุกสิ่งล้วนมีชีวิตชีวา
    (ช.)ฮู ฮู ฮู ฮู ฮู ฮู ฮู ฮู
    (ญ.)ทั้งเงาลำน้ำเจ้าพระยา
    (พ.)ยามสายลมเฉื่อยฉิวพริ้วมา
    ประกายวับตาเลิศเลอนักเอย
    (ญ.)หากกรุงเทพฯขาดฉันและเธอ
    (ช.)ฮู ฮู ฮู ฮู ฮู ฮู ฮู
    (ญ.)ถึงงามลัำเลอไม่พร้อมไพบูลย์
    (ช.)ฮู ฮู ฮู ฮู ฮู ฮู ฮู ฮู
    (ญ.)เหมือนเป็นเมืองร้างใจอาดูร
    (ช.)ความวิไลไม่งามพร้อมมูล
    (ญ.)ขาดความสมบูรณ์เกื้อกูลทวี
    (ช.)เมื่อมาอยู่ใกล้ชู้ชูใจ
    (ญ.)ฮู ฮู ฮู ฮู ฮู ฮู ฮู
    (ช.)ทั้งเมืองวิไลสดใสทันที
    (ญ.)ฮู ฮู ฮู ฮู ฮู ฮู ฮู ฮู
    (ช.)เพราะเราถนอมกันโดยดี
    (ญ.)ความรักเราแน่นอนทวี
    (ช.)ถึงนานกี่ปีไม่มีร้างรา
    (ญ.)ต่างคนปลื้มเปรมอิ่มเอมคลอ
    เคล้ากันไป
    (ช.)น้ำคำน้ำใจมอบไว้บูชา
    (ญ.)รักเราน้อมนำน้ำคำสัญญา
    (ช.)ขอองค์พุทธารับเป็นพยาน
    (ญ.)จิตสลักด้วยรักเจือจุน
    (ช.)ฮู ฮู ฮู ฮู ฮู ฮู ฮู
    (ญ.)นับเป็นผลบุญอุดหนุนบันดาล
    (ช.)ฮู ฮู ฮู ฮู ฮู ฮู ฮู ฮู
    (ช.)ทุกยามค่ำเช้าเราบนบาน
    (พ.)ความรักเราไม่มีร้าวราน
    ถ้อยคำสาบานแน่นอนนักเอย....
    
    A9276563-1.jpg
    
    กรุงเทพวันวาน  ดั่งเมืองแมนนั้น คือความฝาฝันคน บ้านนอกที่มุ่งถวิลหวังชื่นชม
    หวังพบ หวังเห็น ความวิจิตพิสดารเหล่านั้น
     
    A9276563-2.jpg
    บัดนี้ใยเหลือเพียง ร่องรอย ฝุ่นไอ ที่คละคลุ้ง สูญเสีย ซากปรักหักพังเช่นนี้เล่า
    กรุงเทพถูกย่ำกระทำด้วยเพียง เชิงความคิดที่แตกต่างกัน ทางการเมือง
    ประชาธิปไตย ที่ กระทำต่อ เมืองบางกอกขนาดนี้หรือ ปล้น เผา ฆ่า ฟันกัน
    52672.gif1194257209.jpg
    
      ๏ โอ้กรุงเทพแดนฟ้า.......ทิพย์สถาน
    เสียงร่ำเสียงลือนาน.....เลื่องนั้น
    เทพประดิษฐ์ตระการ.....เสกก่อ
    ไตรภพจบช่วงชั้น.......แซ่ซร้องสรรเสริญ ๚ะ
    
    
     ๏ เกริ่นก่อนพึงกล่าวไว้.........นานเนา
    ข้าวผ่องท้องทุ่งเงา......ทอดง้ำ
    ปลาเวียนว่ายคล้ายเมา......น้ำม่าน นองแฮ
    สินทรัพย์ระยับล้ำ......เอ่อล้นหลากหลาย ๚ะ
    
    
     ๏ โอ้แดนฟ่องล่องฟ้า.......... อมร 
    ปัจจุสมัยหลอน.......รุกเร้า
    เพลิงพุ่งเทียบอำพร......ผืนด่าง
    สุมซากกำสรดเศร้า.....ทุกเส้นเหล่าชน ๚ะ
    
     ๏ รอนใจไร้จิตแสร้ง.......ฉ่ำเย็น หน้าเฮย
    นรกรุมกุมเข็น.........จิกค้ำ
    เกรี้ยวกราดสาดกระเซ็น....พร่าชีพ
    กลียุคปลุกขย้ำ.....ขยอกขย้อนให้สยอง  ๚ะ
     ๏ โอ้กรุงเทพทิพย์แคว้น....ครืนลง
    ใครเจ็บใครสิ้นอง.........ดับโอ้
    ใครพ่ายปลิดปลดปลง.....ใครพ่าย
    ใดมืดใดล่วงโพล้.....พลบสิ้นหมองเมือง ๚ะ
    
    
    reply-00000028374.gif
  • m

    3 มิถุนายน 2553 19:43 น. - comment id 30840

    36.gif
  • ...

    23 มิถุนายน 2553 20:49 น. - comment id 31372

    bnbbnbbb
  • คนดอย หลังเขา 251

    27 มิถุนายน 2553 23:27 น. - comment id 31421

    ชีวิตที่อยู่ท่ามกลางขุนเขาธรรมชาติที่เขียวขจีคละเคล้าด้วยสายลมและแสงแดดไม่รู้จุดยืนที่แน่นอนแต่ก็อบอุ่นด้วยแรงใจ   
    เพราะยามนี้สุดจะเหงามีเพียงเราเฝ้าชายแ    
    แดน....วันนี้ผ่านมาทางนี้ครับ
    เลยแวะเยี่ยม
  • t

    6 ธันวาคม 2554 16:16 น. - comment id 35695

    2011_06_18_113413_ahv91yen.jpg
    นับเนื่องเวลาอันก่อนหน้านี้ไปสักหนึ่งปีหรือหลายๆปีที่ผ่านมานั้น ในทุกๆวันสำคัญที่เกี่ยวกับวันพ่อ วันแม่ ได้ถูกพ่วงรวมพร้อมไปกับวันเฉลิมพระชนพรรษาขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และองค์สมเด็จพระราชินี  เหมือนเน้นให้เราๆ ท่านๆ จดจำและระลึกตรึกถึงผู้มีพระคุณทั้งสองท่านนั่นคือบิดามาดร    ในช่วงที่ผ่านมากิ่งโศกมักจะมีแต่ความปีติยินดีทุกครั้งเมื่อถึงวันเหล่านี้ โดยเฉพาะคนที่ต้องจากบ้านเกิด หรือคนที่ห่างบ้านไกลพ่อแม่มาพำนักพักอาศัยอยู่ในเมืองกรุงเช่นนี้ วันพ่อหรือวันแม่ที่คนมักเรียกกันติดปาก จะเป็นวันรวมญาติโกโหติกา รวมพี่รวมน้องพร้อมหน้าพร้อมตา ต่อหน้าบิดามารดาบังเกิดเกล้า จึงมีแต่ความรื่นชื่นมื่นในใบหน้าของเหล่าผู้ลุกและผู้ให้กำเนิดทั้งสอง
        หลังจากที่คุณแม่ได้ไปสรวงสววรค์เมื่อต้นปี  คล้ายกับว่าดวงโคมประทีบแสงสว่างนำทางชีวิตได้ดับไปแล้วดวงหนึ่ง แลเหลือเพียงอีกหนึ่งดวง นั่นคือคุณพ่อ ผู้เฒ่าที่มักบ่งบอกความรู้สึกผ่านสายตาอยู่เป็นนิจ
    00027557_102299.gif
    เด็กผู้ชายส่วนมาก มักจะสนิทกับคุณแม่มากกว่าคุณพ่อ แต่ในอีกมุมหนึ่งของหัวใจของเด็กผู้เป็นลูก พ่อคือบุรุษผู้เป็นแบบอย่าง เป็นผู้นำ เป็นกำแพง เป็นอำนาจที่จะคอยปกปัก ปกป้องอันตรายให้กับครอบครัว  และพร้อมกับพ่อเป็นผู้นำนำพาครอบครัวฝ่าฟันอุปสรรค์   ดังนั้นพ่อคือผู้ที่ปลูกถ่ายปลูกฝังความอุสาหการต่อสู้ชีวิต และสะท้อนถึงความรับผิดชอบต่อครอบครัว ส่วนแม่คือผู้ประสาท ขัดเกลาบ่มสอน ให้รู้จักอ่อนโยน รู้จักความแข็ง รู้จักสิ่งที่เรียกว่าความดี และความไม่ดี  นั่นคือสิ่งหล่อหลอมเราจนเติบใหญ่มาจวบเท่าทุกวันนี้  กิ่งโศกให้คิดย้อนกลับไปเมื่อหลายปีที่ผ่านมา ขณะที่กิ่งโศกได้ก้าวเท้าออกจากบ้านเกิด มุ่งเข้าสู่เมืองกรุงในครั้งแรกในชีวิตหลังจากที่จบมัธยมปลาย โดยมาแบบไร้จุดหมายปลายทางเพราะมาตามแรงดึงดูดของความศิวิไลในเมืองหลวงที่แผ่ประกายไปยังคนชนบทเช่นที่บ้านกิ่งโศก ง ตอนนั้นแม่มองก็สอบถามด้วยความเป็นห่วง ส่วนพ่อนั่งอยู่ที่ชานบ้านมองไม่พูดอะไร แต่จับสัมผัสความห่วงกังวลได้
    00026064_97985.gif
    ครั้นเมื่อมาถึงเมืองกรุงโดยการรถไฟชั้นสาม ณ สถานีหัวลำโพง กิ่งโศกต้องใช้คำว่าตื่นกรุง เลยทีเดียว เพราะจากความชาชินสภาพป่าเขาลำเนาไพร ท้องทุ่งนา ต้องมาประสบพบตึกรามบ้านช่องอันละลานตาไปหมด มองไปทางไหนแสนจะสับสน เพราะมีแต่ตึกและและก็ตึก สภาพคล้ายๆกันไปหมด รถราก็เยอะ คนก็แยะ คืนแรกต้องหอบสังขารมาอาศัยวัดในเมืองหลวงพอเป็นที่ซุกหัวนอน เช้าตรู่ก็เดินตามพระสงฆ์ออกบิณฑบาตรคอยเก็บกับข้าวสิ่งของใส่ถุงหิ้ว  ตอนนั้นยังไม่กังวลหรือห่วงแต่อย่างใดว่าจะลำบากเพียงไหนเพราะมีแต่ตื่นตาตื่นใจ แต่ด้วยกิ่งโศกมีเงินพกเก็บเอาไว้แน่นอยู่ในกระเป๋าไม่กี่ร้อยบาท จึงตั้งเป้าว่าจะหางานทำในโรงงานสักแห่ง และจะใช้เวลาหางานไม่เกิน 7 วันหากไม่ได้งานก็จะกลับบ้านเกิด ไปช่วยแม่ทำนา ทำไร่แล้วค่อยหาทางเรียนต่อ แต่แล้วก็โชคดีเพียงแค่ 5 วัน ที่อาศัยข้าวก้นบาตรของหลวงพ่อที่วัดประทังชีพ กิ่งโศกก็ได้งานทำโดยได้รับเกียตริ(หุหุ)ให้ไปเป็นคนงานแบกถุงเม้ดพลาสติก ในโรงงานอุตสาหกรรมแห่งหนึ่ง ย่านสมุทรปราการ  จากนั้นจึงไปขอลาพระภิกษุสงฆ์ที่เมตตาให้ที่พักออกจากวัดมาเช่าห้องแถวอยู่คนเดียว หลังจากที่ทำงานไปสิบห้าวันค่าจ้างออกแล้ว ขอไปยืนหยัดด้วยลำแข้งของตัวเอง  ในขณะบางค่ำคืนหรือทุกๆคืนบนที่นอนอันมีมุ้ง หมอนและเสื่อ ในหัวของกิ่งโศกจะหวนคิดวนเวียนถึงบ้านเกิดอยู่บ่อยมาก คนคิดถึงมากคือ พ่อ แม่  พี่และน้อง  ตั้งใจไว้ หากกลับบ้านครั้งใด จะซื้อนั่น ซื้อนี่ไปฝากพ่อ ฝากแม่ ฝากพี่ ฝากน้อง..อานั่นคือภาพที่ผ่านไป แลไม่ย้อนกลับ แต่ภาพเหล่านั้นมันไม่เคยลบหรือลับหายไปจากอณูสำนึกของตัวเองจนจวลขณะนี้
    00024619_93436.gif
    วันสำคัญที่ย้อนเวียนหวนมาให้รำลึกนึกถึงพระคุณของพ่อ ในครั้งนี้ และเป็นวันเฉลิมฉลองพระชนมายุขององค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชการที่ ๙ กิ่งโศกขอให้องค์พ่อหลวงมีพระชนม์พรรษายิ่งยืนนานตราบนานเท่านาน ขอพระองค์เป็นหลักชัย ให้บ้านให้เมืองพ้นและปลอดจากภัยต่างๆ จากธรรมชาติหรือมนุษย์ด้วยเทอญ ขอเดชะ
    และขอร่วมรำลึกถึงพระคุณพ่อ พระคุณแม่ แลผู้มีพระคุณทุกๆคนที่มีต่อตัวเอง   บทกลอนวันพ่อ มิตรสหายก็คงได้ร่วมกันจารจรดให้เห็นอยู่มากมีแล้วบนหน้ามุมนักกลออนแห่งนี้ให้เป็นที่ประจักษ์ต่อสายตากันแล้ว  ในมุมคำนึงแห่งบทลำนำของกิ่งโศกในครานี้ จึงจะขอรำลึกด้วยบทเพลง ซึ่งเป็นเพลงเก่าถึงขั้นเก่ามากๆ เพราะชื่อนักร้องไม่คุ้นหูเอาเสียเลยและไม่แน่ใจว่ายังมีชีวิตอยู่หรือไม่กิ่งโศกก็ขอประทานอภัย ส่วนชื่อเพลงยิ่งแล้วใหญ่ เผลอๆต้องไม่เคยได้ยินมาก่อนแน่ๆ กิ่งโศก ฟังเนื้อเพลง ทำนองเพลงแล้ว ก็ชวนควรจำยิ่งในส่วนตัวกิ่งโศก เหมือนกึ่งจะเตือนสติบรรดาลูก ว่าอย่าได้ลืมบุญคุณพ่อแม่เป็นอันขาดเชียว ทำเพลงเกือบจะเป็นเพลงไทยเดิม ..ลองพินิจและฟังเนื้อหาพร้อมๆกับทำนองเพลงนี้ดูกันนะครับ...
    NackVision-18.gifm90817.jpg
    เนื้อเพลง : โอ้บุพการี
    ศิลปิน : ลัดดา ศรีวรนันท์
    
    ...ปิตุมาตาพรหมโม
    ปิตุมาตาพรหมโม
    บิดรมารดา
    เขาว่าเป็นองค์บุพการี
    โอ้ชนกชนนี
    ย่อมมีพระคุณไพศาล
    ถ้า ใครแม้นในกมลสันดาน
    เนรคุณพระคุณของท่าน
    คือทรพีแน่แท้
    ...เกิดมาเป็นคน
    ชั้นต้นควรตรองมองศีลธรรม
    กตัญญุตาจงนำ
    ใส่ใจอย่าให้ปรวนแปร
    เทิด ทูนรู้คุณเอาใจเหลียวแล
    ควรเลี้ยงดูอุ้มชูพ่อแม่
    กว่าแกจะสิ้นชีวา
    ...บุพการี ใครมีความกตัญญู
    ประเสริฐนักเอยควรเอ่ยเชิดชู
    สรรเสริญเคารพบูชา
    แม้แต่ว่าองค์พระบรมศาสดา
    ยังโปรดเทศนา
    พุทธมารดาแทนคุณ
    
    ...ลูกคนใดทราม
    หยามพ่อแม่คือมนุษย์กาลี
    ให้นรกอเวจี
    เกาะกินจนสิ้นใบบุญ
    ลูก ดีแม้นมีดวงใจรู้คุณ
    ชีวิตจงมั่นคงอบอุ่น
    บุญและกุศลค้ำชู (ซ้ำ)
    
    
    
    กิ่งโศกคนยาก ฝากถ้อยท้าย
    %E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%87%E0%B8%81%E0%
    
    ๏.. ลำนำ ยอยศ  บุพการี .. ๏
    
    
    ๏ เบิกเนตรบ่งนัยรู้		สบพบคู่นัยน์อุ่นคราว-
    ตาแลถนอมราว-		ปิ่นมณีศิวะวรรณ ๚ะ๛
    
    
    
    ๏ แลเนตรแรกนั่นรู้    	โลมเห็น
    วงด่ำหวำดวงเป็น    		ปกหุ้ม
    อาบเต่อเอ่อดื่นเอ็น	-  	ดูอ่อน  หวำแม่ 
    แดโอบชับซ้อนอุ้ม 	       แอบโอ้อกนาง ๚ะ
    
    ๏ กางอู่ยู้แกว่งเย้า	   	โยงเปล
    ขานหับรับขวัญเห           เหื่อย้อย
    หลับสาอย่าอ้อนเฉ          ออเซาะ 
    อุสวะรื้นร้อย               แม่เอื้อนไกวถนอม ๚ะ
    
    ๏ ในอ้อมแขนแน่นนั้น	นิตย์แรง
    ปิตุผู้ปรุงแปลง			ปัดป้อง
    พนอพ่อไม่แหนง            มิหน่าย ใดนา
    มานะตีผ้ายต้อง            ต่อสร้างสุขศานติ์ ๚ะ
    
    ๏ กี่กาลกี่พลบก้าว		ผ่านกลืน ดูรา
    ปิตุมาตาฝืน			นั่งเฝ้า-
    สอนความสั่งข้อยืน           ครบอย่าง  ถ้วนแล
    ความเยี่ยงเนื้อแก้วเก้า        กล่าวเน้นเบื้องเขนย ๚ะ
    
    ๏ บุตรเอยเปรยบอกย้ำ	อย่าลืม
    แทนหมั่นทอใยฟืม		ยกฝั้น
    สานจิตสนิทยืม		เหนือยอด -เมฆแล
    แนบยอบอยู่รู้นั้น            นบไหว้ยอสวรรค์ ๚ะ
    
    ๏ จารบทจรดบอกถ้อย	แถลงขาน
    สำนึกปลุกลูกหลาน		เหล่าผู้-
    ประเสริฐเลิศน้อมมาน		นิมิตร 
    นมัสการถ้วนรู้  	       แรกแท้เทิงเศียร ๚ะ
         + กิ่งโศก +
    
    
    
    NackVision-13.gif
  • 6 ธันวาคม 2554 20:08 น. - comment id 35706

    41.gif41.gif41.gif
  • กิ่งโศก

    23 ธันวาคม 2554 09:48 น. - comment id 36621

    es
  • anusit

    29 มกราคม 2555 20:42 น. - comment id 37510

    41.gif41.gif41.gif
  • sadly

    16 กุมภาพันธ์ 2555 19:31 น. - comment id 38033

    41.gif41.gif41.gif41.gif41.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน