..กิ่งโศก ตั้งแต่ออกจากบ้าน(นอก) มาเผชิญโชคใน เมืองหลวง จะว่าเมืองหลวงก็ไม่ค่อยจะถูกนัก เพราะแรก ๆ เลย ไปทำงาน ในโรงงาน ในจังหวัดสมุทรปราการเขตติดต่อ กับกรุงเทพฯ เรียกว่าปริมณฑล นั่นแหละครับ.. พูดถึงเมืองปากน้ำ ( สมุทรปราการ) หลายๆ คนคงนึกถึง สถานตากอากาศ บางปู ดูนกนางนวลและเต้นลีลาศ สถานพักฟื้นสวางค์ ฟาร์มจรเข้ หรือไม่ก็ เจดีย์กลางน้ำที่พระประแดง..( มีอยู่ช่วงหนึ่ง ถูกสังคมตราหน้าว่า ... โคตระ โกง..จากการเลือกตั้ง) อิอิ.. เนื่องจากสภาพทางภูมิศาสตร์ ของเมืองเป็นปากอ่าวทะเล คือเป็นที่สินสุด ของลำน้ำเจ้าพระยา..ดินแดนแถบนี้ มีเรื่องราวมากมายนัก..แต่ตามท้องเรื่อง หุหุ ..กำลัง จับประเดน บทเพลง ของเมืองๆ นี้ ..ยุคต้นๆ มีเพลง .เก่าๆ ร้องเกี่ยวกับบางปู..(ครูล้วน ควันธรรม หรือเปล่าไม่แน่ใจนะครับ กิ่งโศก ก้ออาศัยฟังจากการเล่า ทางวิทยุ AM ที่คนฟังกันน้อย แล้ว ..มีนักจัดรายการเพลงเก่าคนหนึ่ง แกเปิดเพลง แล้วเล่าความเป็นมาของแต่ละเพลง ว่ามาแบบนั้น ใครร้อง ..แล้วก็ขายยา หุหุ..ดีเจ ชื่อ คุณเกรียงศักดิ์ ประครองวงค์ ) และมาสะดุดใจเพลง...ลาทีปากน้ำ.. ที่สะดุดใจ เพราะ มาเป็นผู้ใช้แรงกายอยู่ที่นี่หลายปี เริ่มผูกพัน กับเมืองนี้ สาวๆ สวยครับ อิอิ ..ชีวิตจึงมีความ คล้ายๆ เพลงนี้ .. ตอนลาออกจากงาน เพื่อน ๆ พาไปเลี้ยงไล่ส่ง..เขาก็ให้กิ่งโศกร้องเพลงนี้ ..คาราโอเกะ.. มาดูเนื้อเพลงกันก่อนนะครับ ก่อนที่จะว่า...อย่างอื่น ต่อ. ลาทีปากน้ำ คำร้อง ศรีสวัสดิ์ พิจิตรวรการ ทำนอง เอื้อ สุนทรสนาน ผู้ขับร้อง นพดล ชาวไร่เงิน ตัวมาปากน้ำ น้ำตาเจ้ากรรมพรำร่วง มันรินล้นทรวง รดแดร้อนดวงร่วงพรำจนช้ำเลือดตรม อยากผลักชีวิตผลอย คล้อยลอยน้ำไปตามคลื่นลม ระทวยระทม แล้วจมร่างตามความรักร้างไป เธอคนปากน้ำ น้ำคงขึ้นลงตรงหน้า จะลอยน้ำมาหาเธอทุกคราคลื่นครวญรัญจวนป่วนใจ จะพร่ำคำเพ้อ ละเมอมนต์รักมาตามฝั่งไกล ร้องเพลงผีพราย พิไรขอรักเธอไว้โลมฝั่ง ฝันฝัน เพ้อเพ้อ เธอก็คงคร่ำครวญ ปากน้ำคงซึ้งโศกชวนทบทวนหวนไปยังเบื้องหลัง เราฝากสัมพันธ์ น้อยหรือนั่นมันรักหรือชัง เพราะเธอว่าจะรักจริงจัง ฉันจึงหวังคลั่งไคล้มิคลาย ลาทีปากน้ำ น้ำจงจบกรรมจำเศร้า วิญญาณรักเราน้ำจงรับเอาเฝ้าธารอันพล่านภูติพราย อนาถใจหนา ขอลาดินฟ้าอาวรณ์ก่อนตาย โถยังเสียดาย เสียดายนิยายสวรรค์สวาท หากพิจารณาการประพันธิ์ ผู้ประพันธ์ ท่านนี้ในประวัติ เคย เขียน โคลง กาพย์ กลอน ถวาย องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวด้วย..เพราะฉะนั้น ..จึงมีเกร็ด เล่าว่า...ผู้ประพันธ์เพลง ทะเลาะ กับครูเอื้อเป็นประจำ ..ด้วยครูเอื้อให้แต่งแบบ สุนทรภู่..แต่ ท่านกับชอบแต่งแบบศรีปราชญ์.. อันนี้คงเข้าเคล้า เพราะการเล่นคำ ออก ในแนวโคลง .. ....เพลงนี้ มีที่มา ว่า ท่านศรีสวัสดิ์ พิจิตรวรการ ..ไปหลงรักสาวปากน้ำ คนหนึ่ง ชื่อ คุณ ขนิษฐา.แต่สาวเขา เซย์โน..เลยน้อยใจ จนแทบ จะกระโดดน้ำ ที่ปากน้ำเจ้าพระยา ตายสิ้นแล้วสิ้นเลย ตายแล้ว ก็จะกลับมาหลอกหลอน..ในฐานที่ ปฏิเสธ รัก...หุหุ อยากผลักชีวิตผลอย คล้อยลอยน้ำไปตามคลื่นลม ระทวยระทม แล้วจมร่างตามความรักร้างไป ประโยคที่จะโดดน้ำตาย.. เธอคนปากน้ำ น้ำคงขึ้นลงตรงหน้า จะลอยน้ำมาหาเธอทุกคราคลื่นครวญรัญจวนป่วนใจ จะพร่ำคำเพ้อ ละเมอมนต์รักมาตามฝั่งไกล ร้องเพลงผีพราย พิไรขอรักเธอไว้โลมฝั่ง ประโยค ที่ตายแล้วจะตามมาหลอกหลอน ในรูปผีพราย....หุหุ . ................................................................................................. ที่ว่าเป็นเพลงปลุกกระแส คนไทยหันมาฟังเพลงไทย ในยุค ซิกตี้ ก็ คือ เพลงนี้ แต่งเมื่อ 2506 โอ้โห ยังไม่เกิดเลยอะ.. คือ คนรุ่นปู่ ย่า ตายาย ตอนนั้นกำลังคลั่งบทเพลง สากล แบบฝรั่ง เอลวิส..ลองอ่านตามที่มีผู้ เขียนไว้นะครับ ไปเจอหนังสือเล่มหนึ่ง เล่าถึงเรื่อง"เพลงเก่า"ในยุคซิ๊กตี้ หนังสือเล่าถึงเพลง"ลาทีปากน้ำ" ว่าเป็นเพลงที่"โดนใจ"นักเรียนไทยระดับมัธยมศึกษาในยุคนั้นมาก ทำให้นักเรียนมัธยมไทยในช่วงปี 2506 เป็นอย่างมาก ทั้งที่นักเรียนวัยรุ่นไทยยุคนั้นไม่ชอบฟังเพลงไทย เพราะเกือบทุกคนหลงใหลเพลงฝรั่ง ทั้ง เอลวิส เพรสลีย์ คลิฟ ริชาร์ด เดอะบีทเติ้ล ฯลฯ ใครที่"ชอบฟัง"เพลงไทยก็จะเป็นคนตกยุค โบราณ ...ไม่ต่างจากวัยรุ่นวันนี้มากนัก แต่เมื่อทุกคนได้ยินเพลงนี้ ก็กลับต้องฟังและชอบเพลงไทยจนเกิดกระแส"คลั่งเพลงไทย"ขึ้นมาในยุคนั้น(จริงเท็จผมไม่รู้นะครับ..เขาว่ามา) หนังสือเล่าว่า เพลง"ลาทีปากน้ำ" เป็นที่คลั่งใคล้ของนักเรียนมัธยมไทยสมัยนั้น ถึงขนาดวิทยุสมัยนั้นต้องเปิดเพลงลาทีปากน้ำวันละหลายๆครั้ง เพราะมี"หนุ่ม"มอบเพลงนี้ให้"สาว"...ไม่แน่ใจว่าสาวปากน้ำหรือเปล่า? ที่มา : http://www.oknation.net/blog/print.php?id=224401 ฟังเพลงเก่าๆ ใช่จะเก่านะครับ อิอิ
29 มกราคม 2553 11:12 น. - comment id 27169
พี่ปู่มัว ปลุกกระแสเพลงไทยอยู่นี่เอง ไม่ยอมโทรปลุก เลยตื่นสายเลย อิ๊กๆๆ เมื่อวานแวะซื้อหนังสือมือสองมา ในนั้นมีทั้งเพลงไทยเก่า และเรื่องของจิตวิทยาด้วยนะ ไว้อ่านจบจะมาเล่าให้ฟังจ้า
29 มกราคม 2553 11:26 น. - comment id 27171
คุณ แบม ผมว่า เวปบ้านกลอน ..สาระต่างๆ ที่คุย ควรเรื่องกลอนนะครับ อิอิ ..ส่วนบทเพลง นี่ ก้อจุดประกาย จากเวปบ้านกลอนที่มีเพลงเก่า ๆ เพียบเลย แต่เป็นแบบคาราโอเกะ.. ..อีกอย่างบทเพลง...เป็นกลอน อย่างหนึ่ง คือ กลอนเพลง ..หุหุ ไปจนได้ เรา
29 มกราคม 2553 14:37 น. - comment id 27176
บ่งบอกวัย คริ คริ
29 มกราคม 2553 16:28 น. - comment id 27178
เดิมทีเพลงนี้จะให้ครูยรรยงค์ เสลานนท์ นักร้องดาวรุ่งพรุ่งนี้ของกรมประชาสัมพันธ์ในเวลานั้นร้อง แต่เนื่องจากเหตุผลบางอย่าง(ในหนังสือเขียนว่าครูยรรยงค์ไม่ใคร่ถูกและเข้าใจความเนื้อร้องเพลงนี้) ครูเอื้อจึงมอบให้ ณพดฬ ชาวไร่เงิน ทหารพลป่าหวายสังกัดวงดนตรีฉัตรฟ้า ซึ่งสมัยนั้นท่านผู้บัญชาการพลเอกเทียนชัย สิริสัมพันธ์ ฝาก ณพดฬ ชาวไร่เงิน มาฝึกร้องเพลงกับวงดนตรีกรมประชาสัมพันธ์ และณพดฬก็ได้มีโอกาสบันทึกแผ่นเสียงเป็นครั้งแรกในชีวิต ต่อมาเพลงนี้ก็ฮิตติดอันดับเรียกว่าทะลุฟ้าเลยทีเดียว ทำให้นักร้องหน้าใหม่ที่มีชื่อแปลกๆว่า นพดฬ ชาวไร่เงิน ได้แจ้งเกิดทันทีตั้งแต่บัดนั้น. ข้อมูลจากบ้านคนรักสุนทราภรณ์ คุณกิ่ง ชอบเพลงเดียวกันครับ เพลงนี้ร้องยากตรงที่ ต้องแบ่งลมหายใจให้ถูกเพราะคำร้องจะร่าย ยาวเป็นรถไฟ ถ้าซ้อมไม่ดีหายใจไม่ทัน หรือเผลอกลืนน้ำลายตอนร้อง เป็นตกม้าตาย ทุกคน มีอีกเพลงที่ขอแนะนำให้ฟัง ครูศรีสวัสดิ์ แต่ง เนื้อร้อง นพดฬ ชาวไร่เงิน ขับร้อง ชื่อเพลง " ปากลัด " ไพเราะและคลาสสิคมากๆ
29 มกราคม 2553 16:41 น. - comment id 27179
ปากลัด คำร้อง ศรีสวัสดิ์ พิจิตรวรการ ทำนอง เอื้อ สุนทรสนาน ฟ้าแรมเลื่อมลายพริ้งพรายด้วยดาว พราวแพ้เสน่ห์ดาวสาวชาวเมืองพระประแดง เฝ้าฝันไปปองไปด้วยใจรัก แรง จูบเม้ยเสยแซงกอดมอญนอนแฝงอกฝัน ซึ้งทรวงซอกซอนรักมอญหมดใจ ถวายใจให้เธอไว้เชยชมใช้ชื่นกัน ปากลัดไกลดวงใจใกล้กันชิดกัน ฟากฟ้าอาถรรพณ์ไม่เคยคลาขวัญกั้นเรา ขอศรีศักดิ์รักตนคนเพ้อเพลง ประโลมประเล้าประเลงด้วยเพลงรักเก่า คืนผ่องพรรณแม่น้ำจันทร์บรรเจิดเงา ความรักเราจะกล่อมเกลาชาวตะเลงเคลิ้มฝัน ฝันไปกับเพลงเชลงรื่นรมย์ ชวนชิดสนิทสนมเชยชมสมสู่กัน ปากลัดฟังวังเวงสื่อเพลงสัมพันธ์ ปากลัดคงฝันสวาทสวรรค์ซ่านทรวง เอาเนื้อมาลงให้อ่านครับ ไม่รู้ว่าเอามะพร้าวห้าวมาขายสวนหรือเปล่า
29 มกราคม 2553 17:10 น. - comment id 27180
ศิษย์เราค้นหารายละเอียดได้ดีเยี่ยม ครูเอง ทันสมัยนั้น ครูเองยังนึกว่า นพดล ชาวไร่เงิน แต่งแล้วไปให้ครูเอื้อใส่ทำนองแล้วนำมาร้อง ใช่เพลงนี้โด่งดังมากในสมัยนั้น เป็นเพลงที่ฉีก แนวออกจากวงสุนทราภรณ์เข้าแนวใหม่ๆแม้ว่า จะคงทำนองเก่าๆก็ตามแต่เนื้อหาจะออกแนวสมัย ใหม่ ไม่ยืดๆเป็นเพลงกระชั้นๆและยืดตามลักษณะ ของผู้ให้ทำนองจีะ แต่เสียดายเพลงเดียวจบหรือ อาจจะเป็นดังศิษย์เราก็ว่าได้นะคือไม่ถูกกัน ที่ได้ร้องกับวงสุนทราภรณ์และอัดเพลงไว้นั้น เนื่องจากเบื้องบนสั่งลงมาครูรู้แบบงูๆปลาๆ อย่าเชื่อมาก แต่ว่าเป็นคำลือกันจ๊ะ รักเสมอ แก้วประเสริฐ.
29 มกราคม 2553 18:35 น. - comment id 27182
29 มกราคม 2553 19:07 น. - comment id 27184
เพลงเก่าๆ แต่คนใหม่ๆ อิ อิ อิ สวัสดีค่ะ พี่กิ่งโศก เพลงเก่านี้มีประวัติมาทั้งเลย ดีจังได้รับรู้จากพี่กิ่งโศก มีแต่ความสุขในวันหยุดนะค่ะพี่กิ่งโศก
29 มกราคม 2553 19:12 น. - comment id 27185
29 มกราคม 2553 19:12 น. - comment id 27186
10...............
30 มกราคม 2553 11:02 น. - comment id 27198
ปู่ย่า ผม ก็คนสมุทรปราการ อำเภอ บางพลี ครับ ตอนปู่ย่ายังมีชีวิตอยู่ ไปเยื่ยมท่านทุกปี ตอนหลังท่านมาอยู่ กับเราที่บ้านเลยไม่ค่อยได้ไป ยิ่งท่านเสีย นานๆ ก็ถึงจะไปเยี่ยมลุงๆ ป้าๆ เสียที มาทักทายและขอบคุณ เรื่องราวที่เล่าสู่กันฟังครับ
30 มกราคม 2553 23:38 น. - comment id 27207
ปากน้ำ กับ พระสมุทรเจดีย์ สมัยก่อนถือว่าโด่งดังมาก เมื่อลมหนาว พัดมา ถือว่า เป็นฤดูแห่งงานพระสมุรทรค่ะ งานลอยกระทง พวกเราได้นั่งเรือล่องไป จากท่าน้ำสาธุประดิษฐ์ ถึง พระสมุทร สมัยก่อนสองข้างทางตามลำคลอง สวยค่ะ นึกถึงชีวิตวัยเด็กเลย ปีนต้นลำภู กระโดด ข้ามท้องร่องสนุกมาก อิอิ...ถวิลหาอดีตน่ะ
31 มกราคม 2553 20:22 น. - comment id 27223
คุณ เฌอฯ ..ฟังเพลงเก่า แต่ หัวใจยังสะรุ่นอยู่ นะ 555 ........................................... คุณเสมอจุก..ว้าว เจอคอเพลงเก่าตัวจริง และขอบคุณมากครับ ในรายละเอียดแบบนี้..อืม เพลง...ปากลัด..ตอนแรกอ่านปลา-กัด อิอิ แหม ขอบคุณมากเลยครับ .............................................................. ครูแก้วประเสริฐ...ยังไม่เขียนกลอนช่วงนี้เลยหาอะไร ที่ง่ายๆ และสนุกลองเขียนดูนะครับครู อีกอย่าง ชอบเพลงเก่าๆ ฟังแล้ว เหมาะกับการเขียนกลอนดีนะครับ ..เรื่องสั้นของครูแก้ว ดู จะยาวแล้ว อิอิ... .............................................................. คุณโคลอน...ขอบคุณที่มายิงฟัน หุหุ ยิ้มนะครับ ต่อไปจะไม่เรียก ป้า แล้ว 555 นะ แต่เรียกยังไงดีอะ ป้าโค ฯ บอกหน่อย จิ .............................................................. คุณดอกบัว..อิอิ แก่ก็แก่ จ้า คือฟังเพลงแนวนี้ อารมณ์จะเยือกเย็นดีครับ ........................................................... คุณฉางน้อย 9-10 มาฉุบ ไข่ ก้อยังดีจ้า อิอิ ............................................................ คุณไร้อันดับ อ้าว..พี่ไร้ เป็นคนปากน้ำหรือ หุหุ จุดใต้ตำตอ...ตอนนี้ปากน้ำ ก็ดูดีกว่าเมื่อก่อน.....บ้าง..หุหุ ตามความรู้สึกของผมนะ ....................................................... คุณปราทิพย์ ผมว่าฟังเพลงแบบนี้ดูกินใจมากในเนื้อหา ทำนอง บางทีนึกถึง สภาพสมัยนั้นด้วยเพราะเขาจะสะท้อนออกมาเป็นบทเพลงนี่แหละ ..ขอบคุณมากครับ
2 กุมภาพันธ์ 2553 19:03 น. - comment id 27271
แวะบ้านพี่สดายุปวดหัวเลย ลงชื่อไว้ก่อนค่ะ เด๋วจะมาอ่าน
4 กุมภาพันธ์ 2553 19:36 น. - comment id 27312
อย่าอ่านนะขอร้อง ความลับมาบอก เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้น เคยมีเด็กถูกฆ่าตายที่ห้องนำของภารโรง แต่ไม่สามารถหาต้นเหตุของคดีได้ จึงได้ปล่อยร่างไร้วิญญานของเด็กน้อยทิ้งไว้ ณ ที่เดิม ไม่มีการทำพิธีอะไรทั้งสิ้น วิญยาณของเด็กจึงล่องลอยวนเวียนอยู่ในรร. เป็นเวลาหลาย10ปี จนวันหนึ่งได้มีกลุ่มน.ร. หญิงเข้าไปในห้องนำนั้นเพื่อหวังจะแกล้งภารโรง จึงได้พบวิญยาณของเด็กน้อยกำลังไต่ไปตามเพดาน พร้อมแสยะยิ้มให้ พวกเทอกลัวมากรีบวิ่งออกจากห้องน้ำ แต่เพื่อนคนหนึ่งพลันไปเหยียบแอ่งน้ำที่พื้นเข้า จึงได้ล้มและไปสะดุดขาของเพื่อนอีกคนหนึ่งเข้า เพื่อนคนนั้นได้จับแขนของอีกคนไว้จึงล้มกันมาเป็นทอดๆและหัวฟาดพื้นตายหมด วิญยาณของพวกเขาจึงวนเวียน ณ ที่แห่งนั้นตลอดไป จงส่งต่อไปอีก20 กระทู้ ภายใน 7ชม. ต่อแรกเราก็ไม่เชื่อหรอกแต่เพื่อนเราประสบอุบัติเหตุไปแล้ว 5ค