สุภาษิตกำเมือง ตกต่าเปิ้นเป๋นดีใค่หัวตกต๋าตั๋วเป๋นดีไข้ไห้ คนเราเมื่อเห็นคนอื่นประสบเคราะห์กรรม เจอเหตุการณ์ร้ายต่างๆ มักจะเฉยชาไม่เดือดเนื้อร้อนใจเลย บางทียังหัวเราะเยาะ เห็นเป็นเรื่องชวนหัวด้วยซ้ำ ยามเมื่อตนเองเจอเหตุเช่นนั้นบ้าง ก็จะรู้สึกตัวหาทางออกไม่ได้ มืดแปดด้านและอยากร้องไห้ เป็นลักษณะนิสัยที่ไม่ดี นอกจากไม่มีจิตใจเมตตาธรรมต่อกันแล้วยังเป็นคนใจจืดใจดำ ไม่รู้จักเห็นอกเห็นใจผู้ที่ประสบภัยต่างๆ เป็นคนตระหนี่ ไม่รู้จักการให้ปันและเสียสละ หากสังคมใดมีคนเช่นนี้มากสังคมจะไม่มีความสุข เป็นสังคมที่ไร้น้ำใจ ไม่มีการเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กัน อยู่แบบตัวใครตัวมัน สุภาษิตนี้ให้คติสอนใจว่าเราควรเห็นใจเพื่อนมนุษย์โลกที่เป็นเพื่อนร่วมทุกข์ คนเราทุกคนเกิดมาล้วนปรารถนาสุข เมื่อพบเห็นคนประสบทุกข์ควรจะแสดงความเห็นอกเห็นใจ ให้กำลังใจและปลอบใจกันมากกว่า โลกนี้เป็นอนิจจัง ทุกคนมีกรรมที่ติดตัวมา ดวงชะตาจะเป็นไปตามผลแห่งกรรม ที่ประพฤติปฏิบัติสะสมมาส่งผลให้ เราไม่สามารถล่วงรู้อดีตชาติของเราเอง แต่เราสามารถทำดี ในวันนี้เพื่อให้บุญทาน หรือผลแห่งบุญที่เรากระทำในวันนี้จะส่งผลให้เราได้พบแต่สิ่งดีงามในวันหน้า ดังเนื้อร้องเพลงฮิตในอดีตเพลงหนึ่ง ที่ว่า อย่าเยาะเย้ยฉันแล้วคงสักวันเธอต้องร้องไห้ วันนี้ปรีดาพรุ่งนี้ปราชัย แล้วจะเจ็บใจ โทษใครเล่าเอย.......
22 มกราคม 2553 19:23 น. - comment id 27002
..ชอบกำเมืองค่ะ...โดยส่วนตัวแล้ว...ราชิกาชอบเมืองเหนือมาก...อาณาจักรล้านนา..ในสมัยโบราณ...ได้ความรู้เพิ่มขึ้นค่ะ... ...หากมีเวลา...คุณกันนา..สอนภาษาเหนือ..วันละ1-10 คำ...ให้ราชิกา..ได้มั้ยคะ..สอนทาง เมล์ก็ได้ค่ะ..เรามาแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันดีมั้ยคะ...ขอบคุณในสิ่งที่นำเสนอค่ะ..