กวีนิพนธ์สุนทรภู่

โคลอน

ด้วยจิตน้อมรำลึกถึงท่าน
บทกวีของท่านมักแฝงไปด้วยสุภาษิต คำคมมากมาย อ่านแล้วทำความเข้าใจได้ง่าย
ในโอกาสวัน ครบรอบ ๒๒๓ ปีเกิด  ของท่านใน วันที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๕๕๒ นี้จึงขอนำคำกลอนของท่านมานำเสนอค่ะ
บางพูด
๑. ถึงบางพูดพูดดีเป็นศรีศักดิ์
มีคนรักรสถ้อยอร่อยจิต
แม้นพูดชั่วตัวตายทำลายมิตร
จะชอบผิดในมนุษย์เพราะพูดจา
-นิราศภูเขาทอง-
..............
บางเดื่อ
๒. ถึงบางเดื่อโอ้มะเดื่อเหลือประหลาด
บังเกิดชาติแมลงหวี่มีในไส้
เหมือนคนพาลหวานนอกแล้วขมใน
อุปไมยเหมือนมะเดื่อเหลือระอา
-นิราศภูเขาทอง-
.................
บางซื่อ
๓. ถึงบางซื่อชื่อบางนั้นสุจริต
เหมือนซื่อจิตที่พี่ตรงจำนงสมร
มิตรจิตขอให้มิตรใจจร
ใจสมรขอให้ซื่อเหมือนชื่อบาง
-นิราศพระบาท-
....................
สองใจ
๔. โอ้กระแสแควเดียวทีเดียวหนอ
มาเกิดก่อเกาะถนัดสกัดหน้า
ต้องแยกคลองออกเป็นสองทางคงคา
นี่หรือคนจะมิน่ามีสองใจ
-นิราศพระบาท-
........................
เมื่อเคราะห์ร้าย
๕. มาถึงบางธรณีทวีโศก
ยามวิโยคยากใจให้สะอื้น
โอ้สุธาหนาแน่นเป็นแผ่นพื้น
ถึงสี่หมื่นสองแสนทั้งแดนไตร
เมื่อเคราะห์ร้ายกายเราก็เท่านี้
ไม่มีที่พสุธาจะอาศัย
ล้วนหนามเหน็บเจ็บแสบคับแคบใจ
เหมือนนกไร้รังเร่อยู่เอกา
-นิราศภูเขาทอง
....................
อนิจจัง
๖. ถึงองค์ฐานรานร้าวถึงเก้าแสก
เผยอแยกยอดสุดก็หลุดหัก
โอ้เจดีย์ที่สร้างยังร้างรัก
เสียดายนักนึกน่าน้ำตากระเด็น
กระนี้หรือชื่อเสียงเกียรติยศ
จะมิหมดล่วงหน้าทันตาเห็น
เป็นผู้ดีมีมากแล้วยากเย็น
คิดก็เป็นอนิจจังเสียทั้งนั้น
-นิราศภูเขาทอง-
.................
ตกตาล
๗. เจ้าของตาลรักหวานขึ้นปีนต้น
ระวังตนตีนมือระมัดมั่น
เหมือนคบคนคำหวานรำคาญครัน
ถ้าพลั้งพลันเจ็บอกเหมือนตกตาล
เห็นเทพีมีหนามลงราน้ำ
เปรียบเหมือนคำคนพูดไม่อ่อนหวาน
เห็นกิ่งกีดมีดพร้าเข้าราราน
ถึงหนามกรานก็ไม่เหน็บเหมือนเจ็บทรวง
-นิราศพระบาท-
...................
เมารัก
๘. ถึงโรงเหล้าเตากลั่นควันโขมง
มีคันโพงผูกสายไว้ปลายเสา
โอ้บาปกรรมน้ำนรกเจียวอกเรา
ให้มัวเมาเหมือนหนึ่งบ้าเป็นน่าอาย
ทำบุญบวชกรวดน้ำขอสำเร็จ
สรรเพชญโพธิญาณประมาณหมาย
ถึงสุราพารอดไม่วอดวาย
ไม่ใกล้กรายแกล้งเมินก็เกินไป
ไม่เมาเหล้าแล้วแต่เรายังเมารัก
สุดจะหักห้ามจิตคิดไฉน
ถึงเมาเหล้าเช้าสายก็หายไป
แต่เมาใจนี้ประจำทุกค่ำคืน
-นิราศภูเขาทอง-
.........................
รูปชั่ว-ใจดี
๙. เห็นขนุนหนามหนาไม่น่ากิน
แต่รสกลิ่นภายในชอบใจคน
เหมือนรูปชั่วใจดีเจ้าพี่เอ๋ย
ไม่เลือกเลยสุดแท้แต่กุศล
ที่รูปดีใจชั่วตัวซุกซน
ไม่เป็นผลคบยากลำบากใจ
-นิราศพระประธม-
.....................
คู่กัน
๑๐. แม้นเป็นได้ให้พี่นี้เป็นนก
ให้ได้กกกิ่งไม้อยู่ไพรสัณฑ์
แม้นเป็นนารีผลวิมลจันทร์
ขอให้ฉันเป็นพระยาวิชาธร
แม้นเป็นบัวตัวพี่เป็นแมลงภู่
ได้ชื่นชูสู่สมชมเกสร
เป็นวารีพี่หวังเป็นมังกร
ได้เชยช้อนชมชะเลทุกเวลา
แม้นเป็นถ้ำอำไพใคร่เป็นหงส์
จะได้ลงสิงสู่ในคูหา
แม้นเนื้อเย็นเป็นเทพธิดา
พี่ขออาศัยเสน่ห์เป็นเทวัญ
-นิราศพระประธม-
...........................................
ลำอ้อย
๑๑. อันลำอ้อยย่อยยับเหมือนกับอก
น้ำอ้อยตกเหมือนน้ำตาพี่กว่าขัน
เผาโหมไฟในโรงโขมงควัน
เหมือนอัดอั้นอกกลุ้มรุมระกำ
โอ้น้ำในใจคนเหมือนต้นอ้อย
ปล้องปลายกร่อยชืดชิมไม่อิ่มหนำ
ต้องหันหีบหนีบแตกให้แหลกลำ
นั่นแลล้ำจึงจะหวานเพราะจานเจือ
-นิราศพระประธม- 
................................................
ใจคน
๑๒. อันคดอื่นหมื่นคดกำหนดแน่
เว้นเสียแต่ใจมนุษย์สุดกำหนด
ทั้งลวงล่องอเงี้ยวทั้งเลี้ยวลด
ถึงคลองคดก็ไม่เหมือนใจคน
-นิราศเมืองเพชร-
.....................................................
ชะนีโหย
๑๓. เขาหลับเรื่อยเหนื่อยอ่อนนอนสนิท
พี่นี้คิดใคร่ครวญจนจวนสว่าง
เสียงนกร้องซ้องแซ่ครอแครคราง
ทั้งลิงค่างครอกโครกละโอกโอย
เสียงชะนีที่เหล่าเขายี่สาน
วิเวกหวานหวัวหวัวผัวผัวโหวย
หวิวหวิวไหวได้ยินยิ่งดิ้นโดย
ชะนีโหยหาคู่มิรู้วาย 
-นิราศเมืองเพชร-
......................................................
เรียนรัก
๑๔. ถึงเกาะเรียนเรียนรักก็หนักอก
แสนวิตกเต็มตรองเจียวน้องเอ๋ย
เมื่อเรียนรักจนจบถึงกบเกย
ไม่ยากเลยเรียนได้ดังใจจง
แต่เรียนรักรักนักก็มักหน่าย
รักละม้ายมิได้ชมสมประสงค์
ยิ่งรักมากพากเพียรยิ่งเวียนวง
มีแต่หลงลมลวงน่าทรวงโทรม
-นิราศวัดเจ้าฟ้า-
................................................
อนัตตา
๑๕. อสุรธรรมกรรมฐานประหารเหตุ
หวนสังเวชว่าชีวังจะสังขาร์
อันอินทรีย์วิบัติอนัตตา
ที่ป่าช้านี่แหละเหมือนกับเรือนตาย
กลับหายกลัวมัวเมาไม่เข้าบ้าน
พระนิพพานเพิ่มพูนเพียงสูญหาย
อันรูปเหมือนเรือนโรคให้โศกสบาย
แล้วต่างตายตามกันเป็นมั่นคง
-นิราศวัดเจ้าฟ้า-
................................................
นี่หรือใจ
๑๖. กระแสชลวนเชี่ยวเรือเลี้ยวลด
ดูค้อมคดขอบคุ้งคงคาไหล
แต่สายชลเจียวยังวนเป็นวงไป
นี่หรือใจที่จะตรงอย่าสงกา
-นิราศเมืองแกลง-
........................................................
วิชา
๑๗. อันข้าไทได้พึ่งเขาจึงรัก
แม้ถอยศักดิ์สิ้นอำนาจวาสนา
เขาหน่ายหนีมิได้อยู่คู่ชีวา
แต่วิชาช่วยกายจนวายปราณ
-เพลงยาวถวายโอวาท-
............................................................
คนคด
๑๘. คลองคดลดเลี้ยวล้วน      หลักตอ
เกะกะระเรือรอ                     ร่องน้ำ
คดคลองช่องแคบพอ             พายถ่อ  พ่อเอย
คนคดลดเลี้ยวล้ำ                   กว่าน้ำลำคลอง
-นิราศสุพรรณ-
.......................................................
ปากบอน
๑๙. ชุมนักผักคนซ้อน        นอนแซง
บอนสุพรรณหั่นแกง           อร่อยแท้
บอนบางกอกดอกแสลง      เหลือแหล่  แม่เอย
บอนปากยากจะแก้            ไม่สิ้นลิ้นบอน    
-นิราศสุพรรณ-
.............................................................
ใจเปล่า
๒๐. หนาวลมห่มผ้าห่อน       หายหนาว
ฟ้าพร่ำน้ำค้างพราว              พร่างฟ้า
เด่นเดือนเกลื่อนสาดดาว       ดวงเด่น
ใจเปล่าเศร้าซบหน้า             นึกน้องหมองใจ
-นิราศสุพรรณ-(กลบทสกัดแคร่)
................................................................
เสียงซอ
๒๑. เสียงซออ๋ออ่ออ้อ                 เอื่อยเพลง
จับปี่เตร๋งเต้งเตง                            เต่งต้อง
ตรุยตรุ๋ยตรุ่ยตรุ้ยเหนง                  เหน่งเน่ง ระนาดแฮ
ฆ้องหน่อง หนอง หน่อง หน้อง         ผรึ่งพรึ้งพรึ่งตะโพน
-นิราศสุพรรณ-(กลบทอักษรสาม)
.................................................................
เขาเขียว
๒๒. เขาเขียวโขดคุ่มขึ้น            เคียงเคียง
ร่มรื่นรุกข์รังเรียง                      เรียบร้อย
โหมหักหิ่งห้อยเหียง                  หันหาก  แฮ่วแฮ
ยางใหญ่ยอดยื่นย้อย                 โยกโย้โยนเยน
-นิราศสุพรรณ-(กลบทอักษรล้วน)
..................................................................
ความคิด
๒๓. อันความคิดวิทยาเหมือนอาวุธ
ประเสริฐสุดซ่อนใส่เสียในฝัก
สงวนคมสมนึกใครฮึกฮัก
จึงค่อยชักออกเชือดฟันให้บรรลัย
จับให้มั่นคั้นหมายให้วายวอด
ช่วยให้รอดรักให้ชิดพิสมัย
ตัดให้ขาดปรารถนาหาสิ่งใด
เพียรจนได้ดังประสงค์ที่ตรงดี
-เพลงยาวถวายโอวาท-
.............................................................
ไมตรี
๒๔. เขาทำชอบปลอบให้น้ำใจชื่น
จึงเริงรื่นรักแรงไม่แหนงหนี
ปรารถนาสารพัดในปัถพี
เอาไมตรีแลกได้ดังใจจง
คำโบราณท่านว่าเหล็กแข็งกระด้าง
เอาเงินง้างอ่อนตามความประสงค์
จงทราบไว้ใต้ละอองทั้งสององค์
อุตส่าห์ทรงสืบสร้างทางไมตรี
-เพลงยาวถวายโอวาท-
................................................................
ลมปาก
๒๕. อันอ้อยตาลหวานลิ้นแล้วสิ้นซาก
แต่ลมปากหวานหูไม่รู้หาย
แม้นเจ็บอื่นหมื่นแสนไม่แคลนคลาย
เจ็บจนตายก็เพราะเหน็บให้เจ็บใจ
-เพลงยาวถวายโอวาท-
.........................................................
พูดดี
๒๖. เป็นมนุษย์สุดนิยมเพียงลมปาก
จะได้ยากโหยหิวเพราะชิวหา
แม้นพูดดีมีคนเขาเมตตา
จะพูดจาจงพิเคราะห์ให้เหมาะความ
-สุภาษิตสอนสตรี-
......................................................
ตัวนาง
๒๗. อันตัวนางเปรียบอย่างปทุมเมศ
พึ่งประเวศผุดพ้นชลสาย
หอมผกาเกสรขจรขจาย
มิได้วายภุมรินถวิลปอง
ครั้นได้ชมสมจิตพิศวาส
ก็นิราศแรมจรัลผันผยอง
ไม่อยู่เฝ้าเคล้ารสเที่ยวจดจอง
ดูทำนองใจชายก็คล้ายกัน
-สุภาษิตสอนสตรี-
..................................................
มีสลึงพึงประจบ
๒๘. มีสลึงพึงประจบให้ครบบาท
อย่าให้ขาดสิ่งของต้องประสงค์
จงมักน้อยกินน้อยค่อยบรรจง
อย่าจ่ายลงให้มากจะยากนาน
ไม่ควรซื้อก็อย่าไปพิไรซื้อ
ให้เป็นมื้อเป็นคราวทั้งคาวหวาน
เมื่อพ่อแม่แก่เฒ่าชรากาล
จงเลี้ยงท่านอย่าให้อดระทดใจ
-สุภาษิตสอนสตรี-
..................................................
พูดจา
๒๙. จะพูดจาปราศรัยกับใครนั้น
อย่าตะคั้นตะคอกให้เคืองหู
ไม่ควรพูดอื้ออึงขึ้นมึงกู
คนจะหลู่วู่วามไม่ขามใจ
แม้นจะเรียนวิชาทางค้าขาย
อย่าปากร้ายพูดจาอัชฌาสัย
จะซื้อง่ายขายดีมีกำไร
ด้วยเขาไม่เคืองจิตคิดระอา
-สุภาษิตสอนสตรี-
...............................................
ลมบุรุษ
๓๐. อันคำคมลมบุรุษนั้นสุดกล้า
เขาย่อมว่ารสลิ้นนี้กินหวาน
จงระวังตั้งมั่นในสันดาน
อย่าลนลานหลงละเลิงด้วยเชิงชาย
เขารักจริงให้สู่ขอกับพ่อแม่
อย่าวิ่งแร่หลงงามไปตามง่าย
เขาไม่เลี้ยงไล่ขับจะอับอาย
ต้องเป็นม่ายอยู่กับบ้านประจานตน
-สุภาษิตสอนสตรี-
.....................................................
ชิงสุกก่อนห่าม
๓๑. จงรักนวลสงวนงามห้ามใจไว้
อย่าหลงใหลจงจำคำที่ร่ำสอน
คิดถึงหน้าบิดาและมารดร
อย่ารีบร้อนเร็วนักมักไม่ดี
เมื่อสุกงอมหอมหวนจึงควรหล่น
อยู่กับต้นอย่าให้พรากไปจากที่
อย่าชิงสุกก่อนห่ามไม่งามดี
เมื่อบุญมีคงจะมาอย่าปรารมภ์
-สุภาษิตสอนสตรี-
............................................................
เป็นสาวแส้
๓๒. ผู้ใดเกิดเป็นสตรีอันมีศักดิ์
บำรุงรักกายไว้ให้เป็นผล
สงวนงามตามระบอบให้ชอบกล
จึงจะพ้นภัยพาลการนินทา
เป็นสาวแส้แร่รวยสวยสะอาด
ก็หมายมาดเหมือนมณีอันมีค่า
แม้นแตกร้าวรานร่อยถอยราคา
ก็จะพาหอมหายจากกายนาง
-สุภาษิตสอนสตรี-
...........................................................
ยับยั้งชั่งใจ
๓๓. อันที่จริงหญิงกับชายย่อมหมายรัก
มิใช่จักตัดทางที่สร้างสม
แม้นจักรักรักไว้ในอารมณ์
อย่ารักชมนอกหน้าเป็นราคี
ดังพฤกษาต้องวายุพัดโบก
เขยื้อนโยกก็แต่กิ่งไม่ทิ้งที่
จงยับยั้งชั่งใจเสียให้ดี
เหมือนจามรีรู้จักรักษากาย
-สุภาษิตสอนสตรี-
...................................................................
อวดดี
๓๔. อย่าอวดดีมีทรัพย์เที่ยวจับแจก
ทำเกี่ยวแฝกมุงป่าหาฉิบหาย
ใครจะช่วยตัวเราก็เปล่าดาย
อย่ามักง่ายเงินทองของสำคัญ
เห็นผู้ดีมีทรัพย์ประดับแต่ง
อย่าทำแข่งวาสนากระยาหงัน
ของตนน้อยก็จะถอยไปทุกวัน
เหมือนตัดบั่นต้นทุนสูญกำไร
-สุภาษิตสอนสตรี-
..................................................
รูปรสกลิ่นเสียง
๓๕. คือรูปรสกลิ่นเสียงเคียงสัมผัส
ที่คฤหัสถ์หวงแหนไม่แก่นสาร
ครั้นระงับดับขันธสันดาน
ย่อมสาธารณ์เปื่อยเน่าเสียเปล่าดาย
-พระอภัยมณี-
............................................
รัก-ชัง
๓๖. ที่รักกันสรรเสริญเจริญสิ้น
ที่ชังนินทาแถลงทุกแห่งหน
การทั้งหลายร้ายดีมิได้พ้น
จะกลัวคนครหาว่ากระไร
-พระอภัยมณี-
...............................................
ดูนางดูแม่
๓๗. จะดูวัวชั่วดีดูที่หาง
จะดูนางดูแม่เหมือนแลเห็น
แม้ลูกยางห่างต้นหล่นกระเด็น
ก็จะเป็นเช่นเหล่าตามเผ่าพันธุ์
-พระอภัยมณี-
..................................................
ต้นร้ายปลายดี
๓๘. อันต้นร้ายปลายดีไม่มีโทษ
เป็นประโยชน์ยาวยืนอยู่หมื่นแสน
จะเที่ยวปล้นคนกินเหมือนสิ้นแกน
ถึงมาตรแม้นมีทรัพย์ก็อับอาย
-พระอภัยมณี-
....................................................
น้ำตาลใกล้มด
๓๙. ภุมรินบินเคล้าแม้เจ้าของ
ไม่ปกป้องดอกดวงจะร่วงหมด
อันน้ำตาลหวานวางไว้ใกล้มด
มดจะอดได้หรือน้องตรึกตรองดู
-พระอภัยมณี-
.......................................................
ยากอย่างเดียว
๔๐. จะเรียนร่ำทำอะไรไม่ลำบาก
มันยอดยากอย่างเดียวเกี้ยวผู้หญิง
ถึงยามดึกนึกนอนแนบหมอนอิง
เรไรหริ่งเรื่อยริมหิมวา
-พระอภัยมณี-
................................................
 ความรัก
๔๑. ด้วยวิสัยในประเทศทุกเขตแคว้น
ถึงโกรธแค้นความรักย่อมหักหาย
อันความจริงหญิงก็ม้วยลงด้วยชาย
ชายก็ตายลงด้วยหญิงจริงดังนี้
-พระอภัยมณี-
.......................................
ห้ามไม่ได้
๔๒. บาทหลวงว่าวิสัยในมนุษย์
ฟันจะหลุดแล้วก็ห้ามปรามไม่ไหว
ห้ามเกศาว่าอย่าหงอกยังนอกใจ
มันขืนหงอกออกจนได้มันไม่ฟัง
-พระอภัยมณี-
..........................................
ม้วยดิน-สิ้นฟ้า
๔๓. ถึงม้วยดินสิ้นฟ้ามหาสมุทร
ไม่สิ้นสุดความรักสมัครสมาน
แม้เกิดในใต้ฟ้าสุธาธาร
ขอพบพานพิศวาสไม่คลาดคลา
แม้เนื้อเย็นเป็นห้วงมหรรณพ
พี่ขอพบศรีสวัสดิ์เป็นมัจฉา
แม้เป็นบัวตัวพี่เป็นภุมรา
เชยผกาโกสุมปทุมทอง
เจ้าเป็นถ้ำอำไพขอให้พี่
เป็นราชสีห์สมสู่เป้นคู่สอง
จะติดตามทรามสงวนนวลละออง
เป้นคู่ครองพิศวาสทุกชาติไป
-พระอภัยมณี-
................................................
แหล่งที่มา จากหนังสือ โวหารในวรรณคดีไทย
คัดมาบางส่วนเฉพาะที่เป็นกวีนิพนธ์ของสุนทรภู่
ประวัติของท่านหาได้จากเว็บข้างล่างนี้ค่ะ
http://www.literatureandhistory.go.th/FineArts/DataService/data_service_detail.aspx?topicCode=H&topicId=659				
comments powered by Disqus
  • รักษ์บุญ เสาวนีย์

    26 มิถุนายน 2552 12:24 น. - comment id 23167

    แล้วมัสมั่นแกงแก้วตา  หอมหยี่หล่ารถร้อนแรง
    
    ชายใดได้กลืนแกง  แรงอยากให้ใฝ่ฝันหา 
    
    แล้วกลอนนี้เป็นกลอนใครอะแม่46.gif
    
    รวมคิดถึงสุนทรภู่นะจ๊ะ
  • โคลอน

    26 มิถุนายน 2552 12:47 น. - comment id 23169

    กาพย์เห่เรือ
    พระราชนิพนธ์ โดย พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ ๒ 
    
     เห่ชมเครื่องคาว 
    
    ๏ แกงไก่มัสมั่นเนื้อ                 นพคุณ พี่เอย
    หอมยี่หร่ารสฉุน                      เฉียบร้อน
    ชายใดบริโภคภุญช์                 พิศวาส หวังนา
    แรงอยากยอหัตถ์ข้อน             อกให้หวนแสวง ๚   
    
    ๏ มัสมั่นแกงแก้วตา              หอมยี่หร่ารสร้อนแรง
    ชายใดได้กลืนแกง                แรงอยากให้ใฝ่ฝันหา
    ๏ ยำใหญ่ใส่สารพัด               วางจานจัดหลายเหลือตรา
    รสดีด้วยน้ำปลา                     ญี่ปุ่นล้ำย้ำยวนใจ
    ๏ ตับเหล็กลวกหล่อนต้ม        เจือน้ำส้มโรยพริกไทย
    โอชาจะหาไหน                     ไม่มีเทียบเปรียบมือนาง
    ๏ หมูแนมแหลมเลิศรส         พร้อมพริกสดใบทองหลาง
    พิศห่อเห็นรางชาง                ห่างห่อหวนป่วนใจโหย
    ๏ ก้อยกุ้งปรุงประทิ่น             วางถึงลิ้นดิ้นแดโดย
    รสทิพย์หยิบมาโปรย             ฤๅจะเปรียบเทียบทันขวัญ
    ๏ เทโพพื้นเนื้อท้อง              เป็นมันย่องล่องลอยมัน
    น่าซดรสครามครัน               ของสวรรค์เสวยรมย์ 
    ๏ ความรักยักเปลี่ยนท่า        ทำน้ำยาอย่างแกงขม
    กลอ่อมกล่อมเกลี้ยงกลม      ชมไม่วายคล้ายคล้ายเห็น
    ๏ ข้าวหุงปรุงอย่างเทศ         รสพิเศษใส่ลูกเอ็น
    ใครหุงปรุงไม่เป็น                เช่นเชิงมิตรประดิษฐ์ทำ
    ๏ เหลือรู้หมูป่าต้ม               แกงคั่วส้มใส่ระกำ 
    รอยแจ้งแห่งความขำ           ช้ำทรวงเศร้าเจ้าตรากตรอม 
    ๏ ช้าช้าพล่าเนื้อสด              ฟุ้งปรากฏรสหื่นหอม
    คิดความยามถนอม              สนิทเนื้อเจือเสาวคนธ์
    ๏ ล่าเตียงคิดเตียงน้อง         นอนเตียงทองทำเมืองบน
    ลดหลั่นชั้นชอบกล                ยลอยากนิทรคิดแนบนอน
    ๏ เห็นหรุ่มรุมทรวงเศร้า       รุ่มรุ่มเร้าคือไฟฟอน
    เจ็บไกลในอาวรณ์                ร้อนรุมรุ่มกลุ้มกลางทรวง
    ๏ รังนกนึ่งน่าซด                  โอชารสกว่าทั้งปวง
    นกพรากจากรังรวง               เหมือนเรียมร้างห่างห้องหวน
    ๏ ไตปลาเสแสร้งว่า              ดุจวาจากระบิดกระบวน
    ใบโศกบอกโศกครวญ           ให้พี่เคร่าเจ้าดวงใจ
    ๏ ผักโฉมชื่อเพราะพร้อง       เป็นโฉมน้องฤๅโฉมไหน
    ผักหวานซ่านทรวงใน             ใคร่ครวญรักผักหวานนาง ๚
    
    
    .....................................................
    
    ยังมีอีกหลายบทเลย ทั้งเห่ชมผลไม้
     เห่ชมเครื่องหวาน
    
    ไปอ่านได้ที่เว็บนี้นะ
    
    http://www.ubmthai.com/leksoundsmf3/index.php?topic=9651.0
    
    
    ........................................
    
    ไปล่ะ....แวะมาตอบก่อนจะไปหม่ำข้าว20.gif
    
    ปล.เวลาว่างมักจะหิว และเวลาหิวก็คือเวลาว่าง...และเวลาว่างก็ถึงจะเข้ามาไง555.....เอาให้ งงเต๊ก
    
    
    โผล่อีกทีบ่ายแก่ๆนะ ...รักษ์บุญ...อิอิ
    
    
    
    แว๊บบบบบบบบบบบบบบบ5.gif
  • รักษ์บุญ เสาวนีย์

    26 มิถุนายน 2552 13:21 น. - comment id 23170

    นี่เป็นกูเกิ้ลตั้งแต่เมื่อไหร่  หาอะไรก็เจอ46.gif
    
    ตกลงนี่ยังอ่อนอยู่ ฤ6.gif
  • เพียงพลิ้ว

    26 มิถุนายน 2552 13:31 น. - comment id 23171

    ป้าโคฯ ขยันอ่านจังเลยนะคะ
    
    
    36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif36.gif1.gif
  • เฌอมาลย์

    26 มิถุนายน 2552 13:38 น. - comment id 23172

    sunthonbhu1.gif
  • เฌอมาลย์

    26 มิถุนายน 2552 13:38 น. - comment id 23173

    T250609_01C.gif
  • เฌอมาลย์

    26 มิถุนายน 2552 13:40 น. - comment id 23174

    T220609_01K.gif
  • เฌอมาลย์

    26 มิถุนายน 2552 13:45 น. - comment id 23175

    T220609_07P.gif
  • เฌอมาลย์

    26 มิถุนายน 2552 13:45 น. - comment id 23176

    T230609_58S.gif
  • เฌอมาลย์

    26 มิถุนายน 2552 13:46 น. - comment id 23177

    อิอิ ซ้ำอยู่1อัน ขออำภัยนะป้า
  • โคลอน

    26 มิถุนายน 2552 16:29 น. - comment id 23181

    ***รักษ์บุญ***
    
    ไม่ได้เป็นกูเกิ้ล แค่ใช้ กูเกิ้ล...อิอิ21.gif
    
    ปล.อารายอ่อนเหรอ....54.gif
    
    อ๋อ...หน้าอ่อนใช่ป่ะ..55520.gif (แอบเนียน)
    
    
    ***เพียงพลิ้ว***
    
    11.gif36.gif11.gif พอดีซื้อมาอ่านนานแล้วจ๊ะ วันนี้เป็นโอกาสพิเศษก็เลยไม่อยากเก็บไว้คนเดียว เอามาแบ่งปันกันอ่านดีกว่าโนะ46.gif36.gif
    
    
    ***เฌอมาลย์ 5-9 ***
    
    ว้าวววว57.gif58.gif...ขอบใจจ้า เฌอฯ....ร่วมด้วยช่วยกันเนาะ58.gif
    
    
    ***เฌอ 10 ***
    
    ไม่เป็นไรจ้า...แค่โพสมาก็ดีใจจะแย่57.gif11.gif36.gif
  • ฉางน้อย

    26 มิถุนายน 2552 18:32 น. - comment id 23185

    46.gif65.gif74.gif
  • รัมณีย์

    26 มิถุนายน 2552 18:51 น. - comment id 23186

    4.gif11.gif4.gif
  • อิอิ

    26 มิถุนายน 2552 21:12 น. - comment id 23187

    ป้า ๆ ๆ 
    
    
    เค้าเคยได้ยินแต่....สุภาษิตสอนหญิง......ง่ะ
    
    เดี๋ยวนี้เขาเปลี่ยนเป็น สุภาษิตสอนสตรี   ไปแซะแล้น เหรอ???
    
    
    42.gif42.gif42.gif
  • โคลอน

    27 มิถุนายน 2552 15:30 น. - comment id 23190

    ***ฉางน้อย***
    
    มาเล่นหูเล่นตาใช่มั๊ยเนี่ย...อิอิ21.gif36.gif
    
    
    ***รัมณีย์***
    
    ขอบคุณรอยยิ้มหวานๆแก้มแดงๆที่แสนน่ารักนั้นค่ะ11.gif36.gif11.gif
    
    
    ***ป้าอิอิ***
    
    จะบอกไงดีล่ะ55520.gif
    
    ฝนก็ได้ยินมาแบบนั้นแหละ สุภาษิตสอนหญิง...แต่คัดมาจากหนังสือไง เราก็ต้องให้เกียรติผู้รวบรวมใช่มั๊ยอ่า...ในหนังสือท่านบอกว่า สุภาษิตสอนสตรี...ก้สอนสตรีจิป้าก็....30.gif36.gif
  • แทนคุณแทนไท

    2 กรกฎาคม 2552 11:26 น. - comment id 23281

    ขอบคุณครับ
  • โคลอน

    2 กรกฎาคม 2552 12:19 น. - comment id 23282

    ^
    ^
    ^
    11.gif ยินดีค่ะ11.gif
  • คีตลักษณ์

    30 มิถุนายน 2555 21:08 น. - comment id 37389

    เพจนี้ดีมากทำให้คนรุ่นใหม่ในสังคมไทยได้เรียนรู้เพจอย่างนี้สิที่เป็นสิ่งที่สังคมต้องการ

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน