ตอนนี้บ้านเมืองของเรากำลังลุกเป็นไฟ คนไทยตีกันเอง ฆ่ากันเอง น่าเศร้านัก แตกต่างแค่ความคิด ต้องเข่นฆ่ากันเลยหรือ สงสารขวานน้อยกำลังแตกเป็นเสี่ยงๆ ด้วยน้ำมือของผู้ที่มาพำนักพักพิง เหตุใดใยไม่รักกัน.
4 กันยายน 2551 15:44 น. - comment id 21550
"อนงค์วรรณ"เล็งเปิดป่าให้เอกชนลงทุน นำร่องอุทยานฯป่าเจ็ดคต-เขาใหญ่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2551 01:29:00 "อนงค์วรรณ" สั่งงานแรกอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติคนใหม่ เปิดพื้นที่ป่าให้เอกชนร่วมทุน บริการที่พัก การบริการในอุทยานแห่งชาติ กระตุ้นรายได้เศรษฐกิจ นำร่องอุทยานแห่งชาติป่าเจ็ดคต จ.สระบุรี อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เกาะพีพี เกาะตะรุเตา แต่เมื่อถามถูกว่า ขณะนี้ ร่างพ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ ยังไม่ผ่านการพิจารณาเป็นกฎหมาย จะสามารถเปิดให้เอกชนเข้าดำเนินการได้ทันทีหรือไม่ นางอนงค์วรรณ เทพสุทิน รัฐมนตรีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวว่า กำลังให้กรมอุทยานสรุปรายละเอียดต่างๆ ภายในเร็วๆ นี้ แต่เชื่อว่าไม่น่าจะมีปัญหา โดยเฉพาะเรื่องการแบ่งโซนพื้นที่สำหรับให้เอกชนเข้ามาทำกิจกรรม เพื่อการบริการท่องเที่ยว โดยคาดว่าจะนำร่องในพื้นที่วนอุทยานแห่งชาติเจ็ดคต จ.สระบุรี ซึ่งได้เคยลงพื้นที่มาแล้ว เพราะมีความเหมาะสมในเชิงพื้นที่ รวมทั้งที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ด้วย นอกจากนั้น ยังมีอุทยานแห่งชาติทางทะเลอีกหลายแห่งที่เอกชนให้ความสนใจ และเสนอผ่านมาทางผู้ใหญ่ อาทิเช่น ที่เกาะพีพี เกาะตุรุเตา เป็นต้น "โดยส่วนตัวอยากจะยกระดับการท่องเที่ยวในพื้นที่อุทยานให้มากกว่าที่เป็นอยู่ เพราะคนที่จะมาเที่ยวมีหลายกลุ่ม ทั้งกลุ่มผู้มีรายได้มาก และรายได้น้อย ขึ้นอยู่กับเม็ดเงินที่พร้อมจะจ่าย และทุกคนมีสิทธิเลือกพักที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกได้ ทั้งนี้ เห็นว่าบางแห่งสามารถปรับปรุงฟื้นฟูให้ดีได้ แต่การเปิดให้เอกชนเข้ามาแล้ว ยังต้องคำนึงผลประโยชน์ และต้องไม่ส่งผลกระทบสภาพธรรมชาติด้วย" นางอนงค์วรรณ กล่าว จากกรณีที่นางอนงค์วรรณ มีคำสั่งด่วน 235/2551 เมื่อวันที่ 5 ส.ค.ที่ผ่านมา โยกย้ายนายเฉลิมศักดิ์ วานิชสมบัติ อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช มาช่วยราชการที่กระทวงทรัพยากรฯ พร้อมทั้งแต่งตั้ง นายไพศาล กุวลัยรัตน์ รองปลัดกระทรวงฯไปรักษาราชการแทนนั้น นางอนงค์วรรณ กล่าวว่า ยืนยันว่า การโยกย้ายไม่ได้กลั่นแกล้ง หรือเป็นการวางคนเพื่อหวังผลทางการเมือง แต่เป็นเหตุผลที่ไม่สมควรจะนำมาพูดต่อสาธารณะ อีกทั้งนายเฉลิมศักดิ์ก็ไม่ได้ทำอะไรที่เสียหายต่อกระทรวงทรัพยากรฯ แต่เป็นเหตุผลที่เกี่ยวกับการทำงานบางอย่างมากกว่า อย่างไรก็ตาม กรณีการย้ายนายเฉลิมศักดิ์ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่ใช้อำนาจการเป็น รมว.ทรัพยากรโยกย้ายข้าราชการ รวมทั้งไม่จำเป็นต้องขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีแต่อย่างใดด้วย ทั้งนี้ ได้อธิบายเหตุผลในการโยกย้ายครั้งนี้ให้นายเฉลิมศักดิ์ฟังแล้ว ส่วนจะให้มาทำงานอะไรเป็นพิเศษ จะหารือกับนายศักดิ์สิทธิ์ ตรีเดช ปลัดกระทรวงทรัพยากรฯอีกครั้ง "การโยกย้ายก็เป็นเรื่องธรรมดาที่ทุกกระทรวงต้องทำในปีนี้มีข้าราชการระดับ 10 เกษียณ 3 ตำแหน่ง ได้แก่ นายเฉลิมศักดิ์ นายไพศาล และนายวิชัย แหลมวิไล รองปลัดฯ ดังนั้น ในช่วงอีก 1 เดือนข้างหน้า อาจจะโยกย้ายข้าราชการระดับ 10 ทั้งในส่วนที่เกษียณอายุและส่วนอื่นๆ ที่เหลืออยู่เพื่อความเหมาะสมกับเนื้องาน" นางอนงค์วรรณกล่าว การแต่งตั้งนายไพศาลให้ไปรักษาการแทนอธิบดีกรมอุทยานนั้น นางอนงค์วรรณ กล่าวว่า ได้มอบภารกิจสำคัญ 2-3 ประเด็น คือ การผลักดันโครงการเปิดให้เอกชนเข้ามาดำเนินการด้านที่พัก และด้านการบริการ โดยอาจจะเป็นการร่วมทุน หรือทำภายใต้กรอบกติกาที่กำหนด เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับอุทยานแห่งชาติ เพื่อจัดการท่องเที่ยว และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้กับรัฐบาล เพราะต้องยอมรับว่าเจ้าหน้าที่ไม่มีความถนัดและไม่เป็นมืออาชีพในงานบริการการท่องเที่ยว และควรทำงานด้านการป้องกันรักษาป่ามากกว่า http://www.suthichaiyoon.com/WS01_A001_news.php?newsid=4236
4 กันยายน 2551 15:54 น. - comment id 21551
ร้องอนงค์วรรณทบทวน ทส.ออกก.ม.ปล่อยเอกชนเช่าป่าสงวน โดย คม ชัด ลึก วัน จันทร์ ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2551 00:10 น. นางรตยา จันทร์เฑียร ประธานมูลนิธิสืบนาคะเสถียร เปิดเผยว่า ตามที่กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่า และพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ได้จัดทำร่างพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ.... และร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมการอนุรักษ์สัตว์ป่า พ.ศ.... ขึ้นแทนพระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. 2504 และพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครอง สัตว์ป่า พ.ศ. 2535 โดยว่าจ้างให้มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชเป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งได้มีการนำเสนอผ่านการประชุมรับฟังความเห็นของผู้มีส่วนได้เสียในเวทีต่างๆ จนมาถึงขั้นสุดท้ายที่จะเสนอให้กรมอุทยานฯ และทส.เพื่อพิจารณาและนำเข้าสู่คณะรัฐมนตรีในช่วงปลายเดือนกันยายนนี้ ยังพบว่าผู้จัดทำยังไม่ทบทวนรายละเอียดของเนื้อหากฎหมายที่ขัดต่อหลักการของพ.ร.บ.ฉบับเดิม และยังเอื้อประโยชน์ต่อกลุ่มทุนในการเข้ามาเช่าพื้นที่อุทยานฯ และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าได้ แม้ว่ามูลนิธิจะเคยทำหนังสือทักท้วงให้นายเกษม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา อดีตรมว.ทส. ทบทวนหลักการก็ตาม นางรตยากล่าวว่า สาระการปรับแก้พ.ร.บ. 2 ฉบับ ขัดต่อหลักการของกฎหมายฉบับเก่า ที่อยากรักษา ทรัพยากรธรรมชาติและรักษาสัตว์ป่าไม่ให้เปลี่ยนแปลง และรักษาที่อยู่ของสัตว์ แต่ฉบับใหม่กลับเปลี่ยนหลักการว่าทั้งอุทยาน และเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่ากลายเป็นเงิน สามารถเปิดให้ท่องเที่ยวได้ทั้งหมด แม้แต่เขตที่เป็นหัวใจของป่า เป็นการหาเงินและมีการอนุญาตให้เขานำพื้นที่บางส่วนให้มาเช่าระยะยาวได้ โดยจัดโซนให้เอกชนเข้าใช้พื้นที่ในเขตบริการ เพื่อทำกิจการเกี่ยวกับการท่องเที่ยวและการบริการที่พักแรมได้เขตบริการละไม่เกิน 10 ไร่ คราวละไม่น้อยกว่า 5 ปี แต่ไม่เกิน 30 ปี ส่วนเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าก็ได้เปิดป่าให้เอกชนใช้ประโยชน์พื้นที่ในเขตศึกษาธรรมชาติได้คราวละไม่เกิน 30 ปี ซึ่งจะเห็นว่า ยังคิดแบบกระแสของทุนนิยมอยู่ เป็นห่วงว่าถ้ายังไม่มีการทบทวนร่างกฎหมายแล้วมีการเร่งรัดเสนอออกเป็นกฎหมาย จะส่งผลกระ ทบและเสียหายต่อทรัพยากรป่าไม้ สัตว์ป่าและละเมิดสิทธิชุมชนด้วย ดังนั้นในวันที่ 29 กรกฎาคมนี้ มูลนิธิสืบจึงจะจัดเวทีให้นักวิชาการมาพูดคุยกัน เพื่อนำข้อสรุปเสนอต่อนางอนงค์วรรณ เทพสุทิน รมว.ทส. อีกครั้ง เนื่องจากขณะนี้กระแสการเปิดพื้นที่อุทยาน และเขตรักษาพันธุ์ เพื่อการท่องเที่ยวกำลังลุกลาม โดยล่าสุดเพิ่งทราบว่าเตรียมมีการเปิดเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และเขตห้ามล่าสัตว์ป่าอีก 6 แห่งเพื่อการท่องเที่ยว ประธานมูลนิธิสืบ ระบุ โกงกินแค่ในปัจจุบันยังไม่พออีกหรือ? นี่ไปเอาทรัพยากรธรรมชาติ ป่าเขาลำเนาไพรที่เป็นทุนของลูกหลานในอนาคต มาหาประโยชน์ แล้วต่อไปประเทศจะอยู่ยังงัย สัตว์ป่าจะอยู่ยังงัย ต้นน้ำจะเป็นยังงัย คุณมาอยู่ในตำแหน่งนี้ไม่นานคุณก้อไป จึงรับรองไม่ได้เลยว่าผลเสียจากนโยบายจะมีมากมายแค่ไหน...และกว่าจะถึงวันนั้น มันคงไม่มีป่าแล้ว... อะไรที่มันยังมีอยู่ก้อช่วยกันรักษาเถิดอย่าเห็นแก่ได้จนทำให้ประเทศชาติเดือดร้อน... http://news.sanook.com/politic/politic_290753.php
4 กันยายน 2551 16:04 น. - comment id 21552
ก้อคิดดูเอาเถิดพฤติกรรมนักการเมืองแบบนี้ใครจะทนได้... ไร้สำนึกตรึกตรองมองปัญหา ไร้ปัญญาสร้างสรรค์อันโปร่งใส มีแต่กินมีแต่โกงอยู่ร่ำไป ประเทศไทยจะสิ้นไร้ในไม่ช้า ..... ถ้าคนทำดี ยังงัยคนอื่นเค้าก้อต้องเห็นว่าดีวันยังค่ำ...แต่ไอ้คนที่ทำชั่วแล้วคิดว่าดีมันมีเยอะจริงๆ...เมื่อไรจะสำนึกซะที