เรียน ท่านนายก เรื่อง ประชุมกันไป....ก็ไร้ผล จากที่ได้ติดตามการประชุมของรัฐสภาเมื่อวานนี้ ฟังบ้างไม่ฟังบ้าง แต่ก็พอจะจับใจความได้ว่า แม้สมาชิกสภาทั้งหลายจะเสนอแนวทางใดๆก็ตาม ก็คงจะไม่มีผลอะไรต่อการตัดสินใจของท่านนายกเลย การประชุมรัฐสภาจึงเปรียบเสมือนประหนึ่งว่า ทำไปอย่างนั้นแหละเพื่อให้รัฐบาลมีภาพพจน์ที่ดีในสายตาคนอื่นว่ารัฐบาลน่ะ ต้องการแก้ไขปัญหาจริงๆ รัฐบาลฟังเสียงของทุกคนทั้งที่จริงแล้ว เหมือนสมาชิกรัฐสภานั้น สีซอให้ควายฟังก็ไม่ปาน ปากก็บอกว่าผมไม่มีอะไรที่ต้องห่วงหรือหวงเก้าอี้ แต่ถามว่าทำไมไม่ลาออกหรือยุบสภาไป ถ้ามั่นใจในความดีของตัวท่านและคณะซะขนาดนั้น หรือจะเสียชื่อว่าแพ้ต่อพันธมิตร หากท่านจะอายว่าท่านพ่ายแพ้ต่อพันธมิตร ท่านก็ออกมาพูดสาเหตุที่ท่านลาออกหรือยุบสภา เพราะท่านไม่ต้องการให้ประชาชนเกิดความขัดแย้งขั้นรุนแรงถึงขั้นที่ยกพวกมาปะทะกัน ไม่ต้องการให้ประชาชนเกิดความแตกแยก และต้องขออภัยต่อประชาชนที่เป็นเสียงส่วนใหญ่ที่เลือกท่านมา จะมีก็เพียงบางกลุ่มเท่านั้นที่จะออกมาต่อต้านว่า ท่านอย่าลาออกนะ ทั้งที่จริงแล้ว ใจก็คิดว่า ท่านลาออกเถอะ เดี๋ยวพวกเราก็เลือกมาใหม่ได้ ท่านจะปฏิเสธหรือไม่หากกลุ่มพันธมิตรและกลุ่ม นปก.ของท่านมาปะทะกัน คงไม่ต้องออกมาปฏิเสธหรอกว่า นปก.ไม่ใช่ของท่าน เพราะไม่ต้องอ้าปาก คนไทยก็เห็นลิ้นไก่ท่านอยู่แล้ว การที่ท่านลาออกหรือยุบสภาไม่ได้หมายความว่า ท่านผิด หรือ ท่านแพ้ แต่หมายความว่าท่านได้เสียสละเพื่อประชาชน ในที่นี้คือ เสียสละโดยที่ท่านไม่ต้องการให้ประชาชนแบ่งเป็นสองฝ่าย ไม่ต้องการให้ประชาชนเกิดการปะทะกัน ทุกครั้งที่มีสส.หรือสว.ที่ออกมาพูดสนับสนุนรัฐบาลนั้น มันทุเรศสิ้นดี ท่านยังหูตามืดบอดไม่ฟังเสียงของคนอื่นอีกหรือ จริงอยู่ที่ประชาชนส่วนใหญ่ยังไม่ได้ออกมาแสดงตน ยังเป็นพลังเงียบอยู่นั้น ท่านแน่ใจแล้วหรือว่าเขาสนับสนุนท่านอย่างแน่นอน สิ่งที่อยากบอกท่านในวันนี้คือ 1. ถ้าท่านยังอยู่ต่อ แล้วประชาชนทั้งสองฝ่ายจะต้องมาปะทะกันนั้น พลังเงียบขอบอกว่า ท่านยุบสภาเถอะ เพื่อไม่ให้เกิดการนองเลือด ซึ่งการยุบสภานั้นก็น่าจะเป็นที่พึงพอใจของฝ่ายพันธมิตร ที่ทุกวันนี้มันต้องการให้เกิดการนองเลือด เพื่อที่มันจะได้ชนะ เพราะหัวหน้ากลุ่มมันว่า มันอยู่ข้างประชาชน แต่ก่อนที่จะยุบสภา ทั้งนี้ควรนัดผู้นำกลุ่มพันธมิตรมาร่วมลงนามข้อสัญญาที่อาจจะร่างขึ้นเพื่อเป็นข้อยืนยันหรือข้อตกลงว่ากลุ่มพันธมิตรจะต้องสลายการชุมนุม จะต้องไม่มีการก่อกวนต่อการเลือกตั้งครั้งใหม่ และจะต้องปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญที่ประชาชนได้ลงมติ ถึงแม้ท่านจะพูดว่า รัฐธรรมนูญที่ได้มานี้ไม่ชอบธรรม แต่ก็เป็นรัฐธรรมนูญที่ประชาชนได้ลงมติรับมาแล้ว อย่าพยายามเถียงว่าได้มาจากการรัฐประหาร เพราะทหารไม่ได้เอาปืนมาจี้ว่า พวกแกต้องรับร่างธรรมนูญนี้นะ ไม่งั้นตาย...อะไรประมาณนั้น ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ไม่ใช่เลย ถึงแม้ประเทศไทยจะมีการปกครองระบอบประชาธิปไตย อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย ผืนแผ่นดินเป็นของคนไทยทุกคน แต่การที่ประเทศไทยอยู่รอดมาจนถึงทุกวันนี้ ไม่ใช่เพราะนายกหรือรัฐสภา ไม่ใช่แต่เฉพาะประชาชน แต่เป็นเพราะการทูตของไทยที่พระเจ้าแผ่นดินท่านได้วางรากฐานไว้ และการทหารที่ปกป้องบ้านเมืองอย่างเข้มแข็ง (แม้เงินเดือนของทหารจะน้อยกว่าค่าขนมของลูกๆนักการเมืองที่อ้างว่าทำทุกอย่างเพื่อชาติก็ตาม) และอย่ามาพูดเรื่อง ประชาชนเป็นเจ้าของแผ่นดิน เพราะที่จริงแล้ว คนที่เป็นเจ้าของแผ่นดินอย่างแท้จริงคือพระเจ้าอยู่หัว 2. ถ้าท่านยังอยู่ต่อ ก็ขอให้ท่านแสดงท่าทีที่เป็นมิตรกับประชาชนทุกคน ทุกกลุ่มเสมอภาคกัน แสดงให้ประชาชนเห็นว่า ท่านได้ให้ความสำคัญกับประชาชนอย่างแท้จริง อย่าถูไถไปข้างๆคูๆ และอย่าคิดว่าตนเองดี เก่ง และวิเศษไปกว่าใคร คิดทำสิ่งใดให้นึกถึงประโยชน์ของประชาชนส่วนใหญ่เป็นหลัก หากท่านจะอยู่ต่อได้ ท่านควรจะมีนโยบายที่มีผลดีต่อประชาชนและมาประกาศให้ประชาชนได้รับทราบ แต่ทุกวันนี้ที่ท่านประกาศนโยบายแต่ละอย่างออกมานั้น มันทุเรศ และไม่มีที่มา ที่ไป มีอย่างเดียวคือ ที่ให้พวกพ้องกิน 3.ท่านควรออกมาแสดงท่าทีเรื่องกลุ่มนปก. และควรห้ามกลุ่มนปก.ไม่ให้ออกมาแสดงตนอะไรทั้งสิ้น กลุ่มพันธมิตรจะประท้วงอะไรก็ปล่อยไป ท่านไม่ต้องไปสนใจ สิ่งที่ท่านควรสนใจคือเรื่องของประชาชนเป็นหลัก และไม่ต้องออกมาแสดงท่าทีอะไรกับพันธมิตรอีก เพราะถ้าท่านทำงานหนักเพื่อประชาชน โดยไม่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนของตนและพวกพ้อง ไม่นำญาติหรือพวกพ้องเข้ามาเกี่ยวข้องกับการทำงานแล้ว เชื่อว่าประชาชนจะยอมรับให้ท่านทำงานต่อได้ แต่ถ้าท่านไม่เปลี่ยนนิสัยที่เห็นแก่ตัว เห็นแก่พวกพ้อง เห็นแก่เงิน ฟังความคิดเห็นเฉพาะของพวกตนเอง ท่านก็ลาออกหรือยุบสภาเสียเถอะ มันไม่มีประโยชน์หรอก ที่ท่านจะอยู่แล้วให้ประชาชนทั่วทั้งประเทศเริ่มเกลียดท่านมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะถึงแม้ประชาชนจะไม่เชื่อกลุ่มผู้นำของพันธมิตร แต่ไม่ได้หมายความว่าจะเข้าข้างท่าน พลังเงียบนี้ ไม่ได้หมายความว่าจะเข้าข้างท่าน เพียงแต่เห็นว่า ทั้งกลุ่มพันธมิตรและรัฐบาลนั้น มัวแต่ทำเรื่อง ไร้สาระ กันอยู่ จึงไม่สนใจก็เท่านั้นเอง 4. ทุกวันนี้ ประชาชนต่างจับตามองท่าทีของท่านทุกอย่าง สิ่งที่ท่านได้แสดงกับสื่อหรือรัฐสภานั้น เป็นการบ่งบอกถึงความคิดในใจของท่าน ทุกคำพูดและการกระทำของท่าน มันบ่งบอกว่าท่านไม่ได้ ห่วงประชาชนเลยแม้แต่นิดเดียว ถึงแม้กลุ่มพันธมิตรเอง ก็ไม่ได้ห่วงประชาชนเหมือนกัน จะเห็นได้จากการที่ท่านให้กลุ่มนปก.ดึงประชาชนมาเพื่อใช้เป็นโล่กำบังเช่นเดียวกันกับกลุ่มพันธมิตรที่ใช้ประชาชนเป็นโล่กำบังให้ตัวเอง การที่ท่านสั่งการตำรวจ ท่าทีของท่านที่แสดงออกต่อกลุ่มของประชาชนที่ร่วมชุมนุม อย่างนี้หรือที่เรียกว่า รักประชาชน อย่างนี้หรือที่เรียกว่า รักชาติ เพราะการที่ท่านใช้ประชาชนเป็นโล่กำบังแสดงว่าท่านไม่ได้ห่วงเรื่องความปลอดภัยหรือชีวิตของคนเหล่านี้เลย ถึงแม้ตายไปท่านก็ยอมสละได้ เพราะคนเหล่านั้นไม่ใช่ตัวท่าน ไม่ใช่ญาติพี่น้องท่าน ไม่ใช่ลูกหลานท่าน ไม่ใช่เพื่อนของท่าน เช่นเดียวกับกลุ่มพันธมิตรที่ยอมแลกประชาชนกับประชาธิปไตยที่ไม่รู้ว่ามันจะเอาโคตรประชาธิปไตยอะไรกันนักหนา ชีวิตทุกวันนี้มันไม่มีประชาธิปไตยตรงไหน ทุกวันนี้ถ้ามันไม่ได้เรียกร้องประชาธิปไตย มันจะตายหรือไง การที่เอาตัวเองเข้าไปอยู่ท่ามกลางประชาชนที่ไม่รู้เรื่องราวตื้นลึกหนาบางอะไร ไม่รู้ถึงเรื่องราวชั่วร้ายในสมองของผู้นำกลุ่มพันธมิตร ที่มันยอมให้ประชาชนเป็นด่านหน้า ยอมให้ประชาชนที่เป็นผู้หญิง คนชราไปเป็นด่านหน้า ไปตายด่านหน้าถ้าตำรวจใช้ความรุนแรง ซึ่งมันคิดว่าตำรวจจะไม่ใช้ความรุนแรง นี่หรือคนที่ประชาชนยอมตาย นี่หรือคนที่ประชาชนควรปกป้อง การกระทำทั้งฝ่ายรัฐบาล กลุ่มนปก.หรือกลุ่มพันธมิตร แสดงให้เห็นว่า ไม่ได้ห่วงชีวิตของประชาชนเลย ต้องการเพียงอย่างเดียวคือ บรรลุวัตถุประสงค์เท่านั้น ผิดกลับกลุ่มของทหารที่ออกมาทำการรัฐประหาร เป็นเพราะไม่ต้องการให้ประชาชนต้องเสียเลือดเนื้อ ไม่ต้องการให้ประชาชนแตกแยก ทหารออกมาขวาง เพียงเพื่อให้ประชาชนได้หยุดคิด ได้ถอยมาสักก้าวเพื่อคิดและมองออกไปเป็นมุมที่กว้างกว่าเดิม ถ้าเป็นกลุ่มของทหาร เขาจะไม่มีวันให้ประชาชนไปเป็นด่านหน้า ตัวของทหารเองจะเป็นด่านหน้า ด่านหลัง และคอยระวังรอบข้าง โดยให้ประชาชนอยู่ตรงกลาง เพื่อให้ประชาชนได้อยู่รอดปลอดภัย ความแตกต่างตรงนี้ที่ทำให้ดิฉันมองเห็นว่า การปฏิวัติรัฐประหาร เป็นเรื่องที่ดีที่สุดที่ควรทำแล้วในเวลาที่ผ่านมานั้น สุดท้ายนี้ขอให้ท่านนายกได้คิดวิเคราะห์สถานการณ์อย่างตรงไปตรงมา คิดในแบบที่ต้องการแก้ปัญหาอย่างจริงจัง อย่าคิดในแบบที่ยอมเสียเลือดเนื้อของประชาชน ขอให้ท่านได้รับผิดชอบชีวิตของคนทุกคนดังที่ท่านได้พูดเอ่ยอ้างอยู่ในสภา ขอให้ท่านได้มีจิตสำนึกดี ในการใตร่ตรองที่มา สาเหตุของปัญหา และแนวทางแก้ไข ถ้าหากท่านลาออกหรือยุบสภาไป ประชาชนก็เลือกท่านเข้ามาใหม่ได้ หากท่านและพรรคของท่านดีจริงดังที่ท่านคิดหรือมโนภาพเอง ขอแสดงความนับถือ(ถ้าหากท่านยุบสภา) พลพรรค...รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ขออภัย หากข้อความที่ปรากฏนั้นไม่ถูกใจท่าน...แต่มันคือความจริง ความรู้สึกนึกคิดของพลังเงียบที่ท่านว่า...
1 กันยายน 2551 13:32 น. - comment id 21521
ถูกใจสนองตัวเองได้ แต่ไม่ถูกต้องกับความจริงที่ดำรงในสังคม.... จิตบกพร่องหรือมีอะไรผิดปกติในความคิดจิตใจหรือไม่.. .
4 กันยายน 2551 15:43 น. - comment id 21549
บทเรียนครั้งสำคัญของประเทศไทยในการเรียนรู้การอยู่ร่วมกัน ของกลุ่มสังคม ที่มีความคิดเห็นทางการเมืองที่แตกต่างกัน ซึ่งอาจจะมากกว่า 2 ฝ่าย เหมือนอารยะประเทศประชาธิปไตย ที่ต้องเคารพกติกาการอยู่ร่วมกัน ฝ่ายที่ละเมิดกฎ สังคมจะประณาม และถูกต่อต้าน แต่สถานการณ์ปัจจุบันนั้น สังคมไทยอ่อนแอ ขาดสำนึกในหน้าที่ ถูกชี้นำได้ง่ายตลอดเวลา สถาบันที่มีหน้าที่รับผิดชอบสับสนทางความคิด ถูกชักจูงชี้นำจากชนชั้นนำทางความคิด ไม่เคารพกติกาประชาธิปไตย หน้าที่และอำนาจของนิติบัญญัติ อำนาจบริหารและอำนาจตุลาการ อาจถูกทำลายความศรัทธาเชื่อถือลง หมด ซึ่งจะนำไปสู่การล้มล้างระบอบการปกครองประชาธิปไตยในที่สุด พันธมิตร นปช. ประชาธิปัตย์ พลังประชาชน และกลุ่มอื่นๆ ต้องเรียนรู้และเคารพความคิดเห็นทางการเมืองที่แตกต่าง แต่จะต้องเรียนรู้และอยู่ร่วมกันได้ต่อไป สังคมโลกพัฒนาก้าวหน้ามาได้ทุกวันนี้ เพราะมีความคิดที่แตกต่างเป็นตัวผลักดัน อคิเมดิส อริสโตเติ้ล และนักคิดอีกหลายท่านถูกจับ ถูกประหาร เพราะคิดแตกต่าง สังคมไทยไม่ควรเกิดเหตุการณ์ผิดพลาดเหมือนในอดีตอีกแล้ว ประวัติศาสตร์เป็นกงล้อที่ควรศึกษาและตระหนัก นำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ ไม่ว่าเราจะสู้กันตายอีกกี่ศพ เราต้องอยู่ร่วมกันต่อไป ทะเลาะต่อสู้กันได้ แต่เราจะอยู่ร่วมกันได้ด้วยกฏกติกาเท่านั้น
4 กันยายน 2551 17:05 น. - comment id 21553
ถ้านายกลาออก หรือยุบสภา ก็แปลว่าประเทศไทยไร้ซึ่งขื่อแปร(กฎหมาย)ต่อไปใครอยากได้อะไรก็ใช้กฎหมู่รัฐก็ต้องยอมทุกครั้ง คนกลุ่มนี้อยากให้ใครเป็นายกก็ออกมาชุมนุมแล้วก็จะได้อย่างนั้นหรือ ประชาธิปไตยคืออะไรทำไมต้องยอมพวกโจรนอกกฎหมายด้วย อะไรกันนี่ประเทศไทย
4 กันยายน 2551 22:04 น. - comment id 21555
ตามที่ผมดูแล้วไม่คิดเข้าข้างใคร ผมดูพันธมิตร แล้วเศร้าจะการที่คนพวกนี่เสื้อเสื้อเหลืองแล้วมาตระโกนว่ากู้ชาติ..นี่ไม่เหมาะน่ะครับ โดยมาก ผู้นำพันธมิตรยิ่งแล้วใหญ่ คำพูดคำจะ ..รู้สึกว่า เหมือนคนไรการศึกษา พูด ให้ใช่แต่ความรู้สึกไม่มีหลักฐานไร พูดมาลอย. คำแต่ละคำ ฟังเข้าแถบช๊อค ....มีลูกมีหลานพาออกห่างๆหน่อยก็ดีน่ะ ผมคนความรู้ น้อยนิด ถ้าเอามาเปรียบเทียบ ..มีออมยิ้มนิดๆ ภูมิใจตัวเองน่ะครับ ....เห็นใจแต่นายก ทำงานอยู่ดี พวกพาน เอางานมาให้....กำ
5 กันยายน 2551 12:39 น. - comment id 21559
ตอนนี้ท่านนายกกำลังต่อสู้กับภัยร้ายของระบอบประชาธิปไตยครับ ถ้าต้องการให้บ้านเมืองสงบไม่ควรไปกดดันรัฐบาล ควรกดดันพันธมิตรครับ รัฐบาลมาตามระบอบระเบียบถูกต้องทุกอย่าง ส่วนพันธมิตรคือใครครับ นอกระบบใช่ไหม ม็อบมีได้แต่ควรอยู่ในกรอบแห่งความสร้างสรรไม่ใช่ทำลายประเทศ จุดไฟเผาบ้านตัวเองแบบนี้ คนที่มีสติอยู่กับตัวรู้ดีครับว่าอะไรเป็นอะไร ใครสู้กับใคร ระบอบอะไรสู้กับระบอบอะไร ไม่ใช่คนโง่หรอกครับ บ้านเมืองจะสงบต้องเคารพกฏหมาย เคารพกติกา สุดท้ายเคารพประชาชนครับ ไม่เช่นนั้นมันไม่มีวันจบ คุณด่านักการเมือง ดี ชั่ว เลวได้ แต่เราวิจารย์อำนาจมืดนอกระบบได้ไหมครับ แล้วถ้าอำนาจมืดนั้นมายึดบ้านเมืองอนาคตลูกหลานเราจะเป็นอย่างไร ประวัติศาสตร์โลกสอนเราได้เป็นอย่างดี แต่อำนาจมันยั่วยวนครับ ปิดตาคนทั้งประเทศด้วยกระบวนการที่ยากต่อกร เวลานี้เราเหมือนอยู่บนรอยต่อของประชาธิปไตยเต็มใบกับเผด็จการเต็มขั้นครับ เพื่อยุคสมัยหน้า เลือกเอาครับต้องการแบบไหน ผมคนหนึ่งไม่เอาล่ะกับระบอบ 70-30 มันน่ากลัวมากน๊ะครับ ท่านลองไตร่ตรองให้ดี อย่าให้อัตตาพาจน พาชาติบรรลัยเลยครับ
5 กันยายน 2551 12:43 น. - comment id 21560
สวัสค่ะค่ะ คุณ . ยังคงเสมอต้นเสมอปลายเรื่อง"ขวางโลก"นะคะ ทุกครั้งที่คุณแสดงความคิดเห็น มักจะตรงกันข้ามกับผู้เขียนเสมอ ไม่วาใครก็ตาม.. แต่ก็ยินดีที่คุณยังอุตส่าห์ลงความเห็นไว้ให้ทราบค่ะ เรื่องถูกใจตัวเองนั้น เป็นสิ่งที่แน่นอนอยู่แล้วค่ะ ก็ตามที่กลุ่มพันธมิตรต้องการไงคะ ว่า "ประชาชนมีสิทธิ์อันชอบธรรมที่จะแสดงความคิดเห็นหรือกระทำตนตามสิทธิ์อย่างเต็มที่ตามรัฐธรรมนูญ" นี่แค่ถูกใจโดยการเขียนนะคะ ไม่ได้ถูกใจในการไปนั่งทำเนียบหรือไปใส่เสื้อแดง..... ถ้าน้ำผึ้งฯเขียนแบบนี้แล้วมีจิตบกพร่องละก็....คงไม่มีใครที่จิตปกติแล้วล่ะค่ะ นี่ขนาดเขียนไว้ก่อนที่กลุ่ม นปก.กับพันธมิตรจะปะทะกันนะนี่ ยังเป็นจริงได้ตามที่คาดไว้...ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ
5 กันยายน 2551 13:24 น. - comment id 21561
สวัสดีค่ะ คุณสมชัย ที่จริงแล้วไม่ได้ต้องการให้นายกลาออกหรือยุบสภาหรอกค่ะ ถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้เขาทำงานจนครบวาระนั่นแหละ แต่ที่ต้องยอมให้ยุบสภาก็เพราะว่า ความขัดแย้งยิ่งรุนแรงขึ้นทุกวัน กลุ่มพันธมิตรนั้น ชอบที่จะเสียสละเลือดเนื้อของประชาชนอยู่แล้ว จะเห็นได้จากการที่ผู้นำไปนั่งกลางวงล้อมประชาชน แทนที่จะเป็นด่านหน้าของประชาชน น้ำผึ้งฯไม่เคยปลาบปลื้มการกระทำของกลุ่มพันธมิตรเลย....เพียงแต่ไม่อยากให้มีการนองเลือดเท่านั้น เราคงหลีกหนีความเป็นจริงไปไม่ได้หรอกค่ะ ถ้านายกไม่ยุบสภา เขาก็ต้องมีการจัดการขั้นเด็ดขาดกับผู้ชุมนุมอย่างแน่นอน พอถึงตอนนั้น ประชาชนที่เป็นพลังเงียบ เขาจะออกมาอยู่เคียงข้างกลุ่มของประชาชนถึงแม้เขาจะไม่เห็นด้วยกับคนกลุ่มนี้ก็ตาม ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ..
5 กันยายน 2551 13:29 น. - comment id 21562
สวัสดีค่ะ คุณสสส.น้ำผึ้งฯติดตามการพูดของกลุ่มพันธมิตร จาก ASTV ค่ะ จะเห็นได้ว่า เขาสามารถชักจูงและจูงใจให้ประชาชนเชื่อคำพูดเขาได้ สามารถพูดให้ประชาชนเคียดแค้นชิงชังรัฐบาลได้ สามารถพูดให้ประชาชนมายืนล้อมกลุ่มตนเองเพื่อเป็นเกราะกำบังได้ สามารถพูดให้คนแก่ ผู้หญิง ไปเป็นด่านหน้าเพื่อปกป้องตนเองได้...แค่นี้ก็รู้แล้วค่ะ ว่าเรื่องมันไม่จบง่ายๆอย่างแน่นอน อย่างที่บอก ถ้าไม่มีการยุบสภา ก็ต้องมีการปะทะและมีการจัดการขั้นเด็ดขาด ไอ้ผู้นำกลุ่มพันธมิตรมันไม่สนใจชีวิตของประชาชน ชาวบ้านตาดำๆหรอกค่ะ มันหวังแค่บรรลุวัตถุประสงค์ก็พอ...ที่จริงแล้ว เป็นเพราะห่วงประชาชนมากกว่าท่านนายก และคาดคิดว่าถ้าท่านลาออกจริงๆ คนก็เลือกเข้ามาใหม่ได้... ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ
5 กันยายน 2551 13:03 น. - comment id 21563
สวัสดีค่ะ song น้ำผึ้งฯเข้าใจดีทุกอย่างเรื่องกฏเกณฑ์ทางสังคม การอยู่ร่วมกันบนความต่าง แตก แปลกแยก ถ้าคุณได้ติดตามการเขียนของน้ำผึ้งฯคุณจะเข้าใจความคิดของน้ำผึ้ง แต่สิ่งที่น้ำผึ้งฯเขียนมานั้น เพราะต้องการสะท้อนให้ท่านนายกได้เห็นได้ทราบว่าประชาชนคนหนึ่งที่ได้ติดตามข่าวการเมือง การประชุมรัฐสภา การตอบคำถามของท่านนายก นั้นคิดแบบไหน อาจมีหลายคนที่คิดอย่างน้ำผึ้งฯ แต่ขอบอกไว้ก่อนว่าสิ่งที่น้ำผึ้งฯคิดนั้น อยู่บนพื้นฐานของความเป็นกลาง ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด ไม่เข้าข้างใคร แต่สิ่งที่บอกคือ การแก้ปัญหาที่น้ำผึ้งฯคิดและใตร่ตรองแล้ว น่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด เพราะกลุ่มพันธมิตรไม่ยอมถอนตัวแน่นอน หากไม่มีการลาออกหรือยุบสภา และแน่นอนว่าคนกลุ่มนี้ยอมแลกเลือดเนื้อของประชาชนที่เข้าไปชุมนุม เพื่อให้ได้ประชาธิปไตยแบบฉบับพันธมิตร ซึ่งใครเห็นด้วยก็บ้า ปัญญาอ่อนแน่ๆ แต่สิ่งที่น้ำผึ้งฯกลัวคือการปะทะและเสียเลือดเนื้อ นี่ขนาดน้ำผึ้งเขียนก่อนที่จะมีการปะทะกันนะ... น้ำผึ้งฯอยากให้ท่านนายกได้เสียสละ และการเสียสละครั้งนี้ จะได้ใจของประชาชนอีกเยอะแยะมากมาย ไม่ใช่คนแค่ไม่ถึงครึ่งล้านของกลุ่มพันธมิตร อีก 60 กว่าล้านคนเขาจะคิดและตัดสินใจเอง ตอนนี้พันธมิตรชุมนุมกันมากว่าร้อยวันแล้ว ถ้าประชาชนเห็นด้วยกับกลุ่มนี้ เขาย่อมจะมาร่วมด้วยนานแล้ว แต่ประชาชนส่วนใหญ่ก็ยังไม่เห็นด้วย เขาจึงนิ่งเฉยอยู่ สิ่งที่กลัวคือเสียเลือดเนื้อ เพราะถ้ารัฐบาลไม่ยุบสภา ก็ต้องมีการจัดการขั้นเด็ดขาดกับประชาชนอย่างแน่นอน อันนี้น่ากลัวมาก.... ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ
5 กันยายน 2551 13:33 น. - comment id 21564
สวัสดีค่ะ คุณน้องน้ำผึ้ง..สงครามทางความคิดนี้ มันมีนัยยะแอบแฝงที่ประชาชนตาดำๆไม่รู้และไม่คิดไม่ถึง ว่าจะมีเรื่องราวตื้นลึกหนาบางอะไร ที่กลุ่มพันธมิตรมาชุมนุมกันนี้ มีอยู่หลายปัจจัยซึ่งน้องน้ำผึ้งน่าจะทราบดี ถ้าใครก็ตามที่เปิดหู เปิดตา เปิดใจมองทั้ง 2 ฝ่าย ก็จะรู้ว่าใครกันแน่ที่ถูกหรือผิด และใครกันแน่ ที่เหิมเกริมขึ้นทุกวัน...เนอะ..
5 กันยายน 2551 14:01 น. - comment id 21565
สวัสดีค่ะ คุณรักเมืองไทย ประชาชนทุกคนก็รักเมืองไทยเหมือนกันทุกคนค่ะ แต่บางคนก็รักแบบขาดสติยั้งคิด ไม่มีใครที่จะเลือกประชาธิปไตยแบบใหม่ตามแนวคิดของพันธมิตรหรอกค่ะ คนพวกนี้เหมือนกับสมองกลับด้าน ความคิดกลับทาง เห็นผิดเป็นถูก เห็นถูกเป็นผิด ยึดถือความคิดของตนเองเป็นหลักฝ่ายเดียว และน้ำผึ้งฯทราบและเข้าใจค่ะ ว่ามีอำนาจมืดที่ผลักดันกลุ่มนี้อยู่ เป็นอำนาจมืดนอกระบบ คนพวกนี้ถ้าทำงานให้กับอำนาจมืด สักวันกรรมก็จะตามสนองเอง ทั้งหลายทั้งมวลที่แสดงความรู้สึกออกไปนั้น เพียงเพราะไม่ต้องการให้ประชาชนตาดำๆที่ไม่รู้ต้นสายปลายเหตุที่แท้จริง ต้องมาตายอย่างไร้ค่าค่ะ...ที่จริงก็เห็นใจนายกอยู่ แต่ยิ่งปล่อยนานไปเรื่องราวยิ่งบานปลาย ทำรุนแรงก็ไม่ได้ ไม่รุนแรงก็คาราคาซัง...โอย ปวดหัว เลิกสนใจดีก่า...ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ
7 กันยายน 2551 01:32 น. - comment id 21580
โอ.. ผมเพิ่งเห็นครับว่าเราก็เขียนหัวข้อเดียวกัน แล้วผมก็คงจะต้อง ขอโทษที่เพิ่มความเครียดให้บ้านกลอนเช่นกัน แต่ ..ไปส่งจดหมายพร้อมกันเลยดีมั้ยครับ
7 กันยายน 2551 20:37 น. - comment id 21585
อืมม เข้ามาอ่านค่ะ สังเกตอย่างหนึ่ง น้ำผึ้งเดือนห้า กับ ไพรน้ำผึ้ง อิอิ สงสัยพี่จะสับสนกับคนชื่อคล้ายกันแล้วล่ะ ส่วนเรื่องนี้ งดแสดงความคิดเห็นค่ะ เพราะเหนื่อยมากมาย