ตับเป็นอวัยวะภายในที่ใหญ่ที่สุด และมีความสำคัญอย่างยิ่งในระบบเผาผลาญอาหาร เพราะอาหารที่เรารับประทานก็จะผ่านตับทั้งสิ้น เพื่อนำสารอาหารไปใช้ภายในร่างกาย และน่าใจหายที่มะเร็งในตับส่วนใหญ่เกิดจากวัยหนุ่มสาวสักส่วนใหญ่ ซึ่งสาเหตุที่เสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งในตับก็เกิดจากหลาย ๆ สาเหตุ เช่น เกิดจากหลายๆ สาเหตุ เช่น เชื้อไวรัส บี, พยาธิ, พิษสุรา หรืออื่นๆ อาการ จะพบว่าน้ำหนักตัวลด อ่อนเพลีย และโลหิตจาง ตับโตขึ้นอย่างรวดเร็ว อาการดีซ่าน ปรากฏขึ้นเมื่อท่อน้ำดีใหญ่ ถูกกดด้วยก้อนเนื้องอกที่ขั้วตับ และอาการท้องบวมน้ำปรากฎขึ้นได้ต่อเมื่อหลอดโลหิตดำของเส้นเลือดที่ไปยังตับอุดตัน การรักษา การผ่าตัดมะเร็งของตับจะได้ผลก็ต่อเมื่อเนื้องอกนั้นอยู่ในระยะแรกเริ่ม ไม่มีการลุกลาม แพร่กระจายไปยังอวัยวะอื่น ส่วนในรายที่มะเร็งแพร่กระจายแล้ว รักษาได้วิธีเดียว คือ ช่วยให้บรรเทาอาการทั่วๆ ไป การป้องกันและการปฏิบัติตน ส่วนใหญ่ป้องกันตามสาเหตุ เช่น มีสาเหตุมาจากพยาธิ ก็ป้องกันโดยไม่รับประทานอาหารสุกๆ ดิบๆ ควรสังเกตอาการผิดปกติของตนเองและสมาชิกในครอบครัว เช่น น้ำหนักตัวลด อ่อนเพลีย ท้องบวม ตัว ตาเหลือง ให้รีบไปพบแพทย์ รับประทานยาตามแพทย์สั่ง หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีสารก่อมะเร็ง เช่น ถั่วป่นที่ขึ้นรา ของรมควัน ข้อควรปฏิบัติเกี่ยวกับคนที่เป็นโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร 1. ควรสังเกตอาการของตนเองและเพื่อว่ามีอาการอย่างไร 2. เมื่อมีอาการน่าสงสัยควรไปปรึกษาเจ้าหน้าที่สาธารณสุข หรือแพทย์ 3. ไม่ไปรักษาโดยวิธีอื่นๆ นอกจากแพทย์เท่านั้น ความน่ากลัวของมะเร็งในตับก็คือ ผู้ป่วยจะมีอาการก็ต่อเมื่อเป็นในขั้นระยะสุดท้ายแล้ว ซึ่งโอกาสที่จะรักษานั้นไม่มีเสียแล้ว เพราะมะเร็งในตับมักจะไม่ส่ออาการระยะแรก ดังนั้นศรรกขอฝากเกร็ดความรู้เกี่ยวกับมะเร็งในตับ เพื่อให้เพื่อน ๆ สังเกตตัวเอง และคนใกล้ตัว เพื่อหันมาเอาใจใส่ในสุขภาพตัวเอง
23 เมษายน 2550 16:35 น. - comment id 17455
ขอบคุณค่ะพี่หนูศรรก สำหรับความรู้ที่นำมาฝาก
23 เมษายน 2550 17:03 น. - comment id 17456
ไม่รู้เรื่อง
23 เมษายน 2550 20:36 น. - comment id 17457
เป็นความรู้ที่ดีมากเลยค่ะ พ่อของอุ๋ยก็จากโลกใบนี้ไป ด้วยโรคร้ายนี่ล่ะ มารู้ก็ระยะสุดท้ายล่ะ
24 เมษายน 2550 10:21 น. - comment id 17460
ดีจ้าพี่สาวววว....เพิ่งได้รับผลการตรวจสุขภาพประจำปีมาเมื่อเช้า หายห่วงจ้าการทำงานของตับปกติ...และมีภูมิต้านไวรัสตับอักเสบชนิด บี แล้วด้วย ค่อยโล่งอกหน่อยยย ขอบุณสำหรับความรู้นะจ๊ะ
29 เมษายน 2550 19:06 น. - comment id 17557
ขอบคุณนะกำลังสนใจเรื่องนี้พยายามศึกษาข้อมูลอยู่เหมือนกัน ไม่เกิดกับครอบครัวใครก็คงไม่รู้สึก ว่าน่าเศร้าใจแค่ไหน...........อยากรู้จังถ้าผ่าออกแล้วจะหายมั้ยนะ.....ความจริงดูแลไม่ให้เป็นพวกนี้จะดีกว่า
29 เมษายน 2550 19:24 น. - comment id 17558
อยากจะฝากบอกอีกนิดนะคะ การตรวจสุขภาพประจำปี บางครั้งตรวจไม่เจอ ถ้าจะให้รู้ผลจริงๆต้องเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์เท่านั้น เครื่องเอกซเรย์ธรรมดาปกติจะเจออยากกว่า เรื่องจริงค่ะ เจอแล้วกับคนในครอบครัว ตรวจสุขภาพเมื่อเดือนธันวา 49 ผลตรวจดีมาก แต่เมษา50 ไปหาหมอแค่ปวดท้องแล้วไม่หายสักที กว่าจะรู้ผล ไปตั้ง 4 โรงพยาบาล ผลออกมาเกินคาด ไม่รู้จะโทษหมอหรือโทษใคร
15 กุมภาพันธ์ 2553 10:57 น. - comment id 27604
ขอบคุณค่ะ ตอนนี้แฟนของฉันก้อเป็น แต่เราไม่เคยรู้มาก่อนเลย กว่าจะรู่ก้อสายไปแล้ว สายไปจิงๆ...แต่ก้ออยากบอกเค้าน่ะว่า ถึงนั้นเค้าไม่อยู่แล้วเราก้อยังรักเค้า...เค้าจะอยู่ ในจัยและความรู้สึกเราเสมอ