เหตุใดจึงเกิดมาเป็นมนุษย์ (คัดลอก)

ยัยแว่นน้ำเงิน

เหตุใดจึงเกิดมาเป็นมนุษย์   (คัดลอก)
     เพื่อเผยแพร่เป็นความรู้และเป็นข้อคิด แก่ชีวิต
ไม่ได้มีเจตนาใดอันเป็นเครื่องหม่นหมองใจ
จากหนังสือธรรมะของ ดังตฤณ ชื่อเรื่องเสียดายคนตายไม่ได้อ่าน
	เราได้เห็นพระพุทธองค์ทรงตรัสว่าเพราะมีกรรเป็นไร่นะ  จึงมีวิญญาณเป็นพืชตั้งอยู่ได้  ใบบทนี้จึงมองตามจริงว่า  ...
	เพราะมีกรรมดีเก่ารองรับ   วิญญาณมนุษย์เราจึงปรากฏมีอยู่ได้  ร่างมนุษย์จึงต้องเกิดมีเป็นที่อาศัย
	และเพราะต้องมีร่างมนุษย์  โลกมนุษย์จึงต้องประกฎอยู่เป็นภาชนะรองรับ 
	และเพราะต้องมีโลกมนุษย์  มหาจักรวาลทั้งหมดจึงปรากฏออกมาจากความว่าง/
ความเป็นมนุษย์
	บางคนนั่งชมทะเลอย่างเหม่อลอยก็เป็นสุขแล้ว  ไม่ต้องการคิดอะไรเกี่ยวกับความเป็นมนุษย์อีก
	หลายคนได้เสพกามไปวันๆก็หนำใจพอ  ศักยภาพมนุษย์อย่างอื่นมีอย่างไรบ้างไม่สน
	หลายคนได้รับผิดชอบตนเองและครอบครัวให้อยู่รอดก็เหนื่อยแล้ว  อย่าเข็นให้คิดใช้ความเป็นมนุษย์ในทางอื่นใดเพิ่มเติมเสียให้ยาก
	หลายคนตั้งเป้าหมายและมุ่งมั่นบากบั่นไปจนถึงปลายทางสักครั้งเดียวก็เต็มอิ่มกับความเป็นมนุษย์แล้ว
	หลายคนรักการใฝ่ฝันหลากหลาย  และเต็มใจบินไปคว้าดาวจากหลายขอบฟ้า  เพื่อรู้จักความเป็นมนุษย์อย่างพิสดารสูงสุด
	แต่มีคนน้อยเท่าน้อย  ที่ตั้งคำถามกับตนเองอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันว่า  อะไรคือประโยชน์สูงสุดที่สมควรได้จากความเป็นมนุษย์
	ใครจะเห็นความเป็นมนุษย์อย่างไร  ก็ขึ้นอยู่กับว่าเจอใครกันมาบ้าง  ประสบพบพานอะไรกันมาบ้าง  และใช้ชีวิตอย่างไรมาบ้าง
	แค่เพียงถือกำเนิดขึ้นในโลกนี้เป็นวันแรก  ก็เหมือนพวกเราเกิดความไม่ค่อยชอบใจกันแล้ว  โดยประกาศผ่านการร้องไห้จ้าทันทีที่ออกจากท้องแม่  ถ้าไม่ร้องก็จะโดนตีให้ร้องเป็นการบริหารปิดกน  นอกกจากนั้นยังมีใครบางคนต้องรับภาระแจ้งเกิดของเราให้เป็นที่รับรู้  อยู่ๆจะยอมให้มาประกฎตัวบนโลกเฉยๆไม่ได้  สำหรับในไทย  กำหนดว่าอย่างช้า  ๑๕ วันนับแต่ถือกำเนิด  เกินกว่านี้ต้องมีใครสักคนโดนปรับเป็นพัน
	และนับนาทีที่ถูกแจ้งเกิด  เราจะมีเอกลักษณ์ประจำตัวให้สำคัญว่าเป็นตนคือชื่อพร้อมนามสกุล  เราจะไม่รู้เลยว่าชื่อไปซ้ำกับใครเข้าบ้าง  รวมทั้งไม่รู้เลยว่าร่วมใช้นามสกุลกับญาติกี่คน  รู้อย่างเดียวหลายคนไม่ทราบด้วยซ้ำว่าเพียงร่วมนามสกุลกับใครบางคน  ก็อาจมีหน้ามีตาไปทั้งชีวิต  หรืออาจต้องอยู่แบบหลบๆซ่อน  ไม่อาจเป็นปกติสุขในสังคมได้อย่างคนอื่น
	แต่แม้ขั้นตอนอันผิวเผินของการเกิดจะยุ่งยากเช่นนี้  จำนวนมนุษย์ที่มากมายน่าลายตามีส่วนทำให้เราไม่เลื่อมใสว่าการเกิดเป็นมนุษย์นั้นยากสักเท่าไหร่  เหมือนใครๆก็มีชีวิตมนุษย์กันได้  แถมการเปลี่ยนแปลงของประชากรโลกที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆดุจการโถมเข้ามาของคลื่นยักษ์เป็นการยืนยันเสียด้วย  เมือสี่ร้อยปีก่อนจำนวนพลโลกเพิ่งมีแค่  ๔๐๐  ล้าน  แต่ในปี  ๒๕๐๔  พุ่งพรวดขึ้นเป็น  ๓,๐๐๐  ล้าน  และในเดือนกรกฎาคม  ๒๕๔๖  โลกมีประชากรทั้งสิ้นประมาณ  ๖,๓๐๐  ล้านคน  เกือบ  ๑๖  เท่าของเมื่อสี่ร้อยปีก่อน *  มากพอที่เรามองไปตามแหล่งชุมชนด้วยตาเปล่าแล้วรู้สึกเหมือนตัวเองร่วมเป็นหนึ่งของขบวนมดปลวกบนเส้นทางอันไร้ความหมาย
	และแม้เรายอมเชื่อว่าโลกมีมนุษย์กว่าหกพันล้านคน  ก็ไม่ไดแปลว่าเราเข้าใจถูกต้องร้อยเปอร์เซ็นต์  ความจริงคือทุกวินาทีมีการเกิดตายถ่ายเทอยู่ตลอดเวลา  พูดง่ายๆคือ  สมมุติว่าเราสามารถเป็นดวงตาสวรรค์  รู้ครอบโลกในคราวเดียว  เราจะเห็นวิญญาณจำนวนหนึ่งมาสู่โลกและได้ร่างมนุษย์แหกปากร้องอุแว้วินาทีละ  ๔  คน  และเห็นมนุษย์จำนวนหนึ่งเดินทางลาโลกวินาทีละ  ๒ คน  ดุจฝนที่ตกลงมาจากเวิ้งฟ้าแห่งความว่างเปล่า  และเป็นกระแสธารไหลบ่าออกสู่มหาสมุทรแห่งความไร้แก่นสาร  ปริมาณไม่เคยคงที่มีสมาชิกเก่าอยู่พร้อมหน้าเลยแม้แต่วินาทีเดียว/
	มนุษย์ทุกคนต้องการเป็นที่จดจำ  แต่มีไม่ถึงหนึ่งในล้านที่ถูกบันทึกในหน้าประวัติศาสตร์  อาจยาวนานหลายสิบปี  หลายร้อยปี  หรือหลายพันปี  แล้วนี่สุดก็จะต้องถูกลืมเลือนไปจนได้  แม้แต่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้เป็นหนึ่งใสศาสดาของศาสนาใหญ่ก็เคยทรงตรัสพยากรณ์ถึงยุคของสงฆ์รุ่นสุดท้ายที่เรียก  โคตรภูสงฆ์ ซึ่งพ้นยุคนั้นไปแล้วจะไม่มีใครท่องจำธรรมบทได้อีก และนั่นหมายความว่าจะไม่มีใครรู้เลยว่าครั้งหนึ่งโลกนี้เคยเป็นที่อุบัติของมหาบุรุษผู้ทรงความสำคัญยิ่งยวดต่อมนุษย์และเทวดาอินทร์พรหมยักษ์นับจำนวนไม่ถ้วน
	จะพูดว่าพวกเราเกิดมาเพื่อรู้แล้วลืมก็ได้
	จะพูดว่าพวกเราเกิดมาเพื่อถูกลืมก็ได้
	แก่นสารและคุณค่าของความเป็นมนุษย์อยู่ที่ไหน  *  นี่คือสิ่งที่ถูกถามมาตลอด  แต่ละคนก็ให้ความหมาย  ให้คุณค่ากันไปตามมุมมองของตน  แท้จริงเราอาจได้คำตอบอันถูกต้อง  หากตั้งคำถามเสียใหม่ให้ตรงประเด็นกว่าเดิม  นั่นคือเราเกิดมาเป็นมนุษย์ได้ด้วยเหตุใดกัน
หน้า  31-34  เสียดายคนตายไม่ได้อ่าน				
comments powered by Disqus
ชื่อเรื่องสั้น-นิยาย

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน