วันนี้ โทรศัพท์ ไปบอกเพื่อนท่านหนึ่งเรื่องบุญร่วมกันพิมพ์หนังสือ เธอสั่งสอนอบรมว่าเรียน พระไตรปิฎกอยู่ สิ่งที่เพื่อนและเราทำกัน อยู่นี้ไม่มีประโยชน์โภชน์ผลในทางพุทธศาสนาอย่างถูกทาง จึงเรียนไปด้วยข้อมูลทุกอย่างที่ได้เขียนไว้ อนึ่ง...การที่เราจะตัดสินใครเขาดีไม่ดี กับการที่เขาทำบุญอะไรกับใคร มิใช่เรื่องที่ควรจะกระทำ หากเราคิดว่า เขาทำดีแล้ว ดีกว่าไม่ทำอะไรเลย กั้นนิวรณ์ตัวเราจากการติเตียนผู้อื่น ใช้เมตตา พิจารณา อนุโมทนาบุญให้เขา ชาวพุทธก็มีพลังใจในการบริจาคทาน รักษาศีล ประพฤติธรรม ลองคิดง่ายๆ ข้าพเจ้าเคยไปโบสถ์คริสต์ชน เขาให้รักษาสัจจะ ร้อยชักสิบ สิบเปอร์เซ็นต์ของเงินที่ได้ ถวายให้พระเจ้าเขา แล้วทำไม ผู้คนจะมาคิดปิดกั้นมิให้ชาวพุทธ บริจาคทาน ทานนั้น จะบริจาคด้วยเงินทอง ทรัพย์สิน หรือ แรงกายอย่างใดก็ได้ ส่วนทานจะเป็นยอดปัญญาหรือไม่ ก็อยู่ที่ผุ้บริจาค ก่อนทำ ระหว่างทำ ได้อธิษฐานดี เช่น เพื่อเป็นการบริจาคสละออกลดกิเลส ในตน หรือ เพื่อ ขอเป็นปัจจัยให้ถึงนิพพานในเร็วไวชาติ หรือ จะอธิษฐานทางโลกให้ร่ำให้รวยก็เป็นเรื่องส่วนบุคคลของจิตท่าน แต่ละท่านอันได้ฝึกสติ ฝึกการบริจาคทานมา เมื่อเช้า ตอนตื่นนอนอาบน้ำแต่งตัวแล้ว ข้าพเจ้าก็เขียนบันทึกลงหน้ากระดาษเรื่องการบริจาคด้วยปัญญานี้เช่นกัน การที่จะ วิพากย์วิจารณ์ เพื่อนของข้าพเจ้า หรือ ตัวข้าพเจ้าไปอย่างใดก็เรื่อง ของเขา ของเธอ แต่สำหรับข้าพเจ้า คิดว่า การที่เพื่อนข้าพเจ้า ได้เข้าไปช่วยหลวงปู่ ท่าน ทำกิจของสงฆ์ ในการที่ท่านดำริจะแจกทาน ๙ อย่างในงานฉลองเสนาสนะ (ปอยหลวง) ของท่าน ก็ไม่ได้เสียหายอันใด ใครมีเงินเหลือใช้ไม่ลำบาก ก็เข้าช่วยเธอให้สำเร็จกิจไป มิเห็นว่าจะ เป็นการผิดอะไรตรงไหน หาก ทุกคนจะมัวแต่ไปพะวงหาทานอันเปี่ยมไปด้วยปัญญาบารมี หรือ มัวแต่คิดว่า เงินของเราจะได้ประโยชน์ที่สุดกับนอกวัดอย่าง นั้น ก็ไม่จำเป็นต้องทำ แต่ก็ไม่สมควรไปว่าผู้กระทำที่เขามี ศรัทธา มีน้ำใจ ไม่จำเป็นต้องไปกล่าวว่าเขาไร้ปัญญาในการ บริจาคทาน มิฉะนั้น ศาสนาจะตั้งอยู่ได้อย่างไร หากมีแต่คนคอยว่ากล่าวบุคคลที่เขาบริจาคทาน ข้าพเจ้า อาจจะอึดอัดบ้างที่ถูกกล่าวหาว่า มาเสริมส่งให้เพื่อน ทำบุญอย่างไร้ปัญญา นึกเวทนา คนถูกกล่าวหา อย่างน่าสมเพช จึงอธิษฐานจิต ขอให้คุณ ชุติญา ยูประพัฒน์ ใบเงิน พร้อมทั้งญาติโยม ที่พร้อมเพื่อการบุญนี้ ได้ร่วมกันทำสำเร็จลุล่วงไป ส่วนข้าพเจ้า ด้วยความเหนื่อยเพลียที่ต้องตอบคำถามซ้ำซาก วันนี้เลยไม่ค่อยได้พิมพ์ต้นฉบับ หนังสือที่ว่าจะพิมพ์ เพราะห่วงกังวลเรื่องงานอาชีพของตนพรุ่งนี้ยังไม่เสร็จด้วย แต่กระนั้น ข้าพเจ้า เอง ก็มั่นใจว่า งานพิมพ์หนังสือเพื่อหลวงปู่ดวงดี ของข้าพเจ้าจะสำเร็จลุล่วงด้วยดี ขณะนี้ ก็กำลังพิจารณาเส้นทาง สายเหนือที่จะไปในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ว่าจะไปเมื่อไรแน่ จะไปทางใด ไปด้วยพาหนะอะไรที่จะปลอดภัย และเย็นใจ ไม่ร้อนใจ มีโอกาสเยี่ยมเยือนหลายจังหวัด โดยเฉพาะ ลำปาง พะเยา เชียงราย ด้วย... ใครจะมา ว่ากล่าวข้าพเจ้า เที่ยววิ่งแร่ไปหาพระอาจารย์องค์โน้นองค์นี้ อะไรก็เรื่องของเขา นี่ญาติทางเชียงราย ก็กำลังจะส่งเรื่องบุญ สร้างเจดีย์พระธาตุ มาให้ข้าพเจ้าร่วมบอกบุญ ข้าพเจ้ายิ่ง เจริญในเมตตาธรรมใคร่จะบอกญาติธรรมทั้งหลาย มากยิ่งขึ้นไปอีก... สิ่งหนึ่งที่ข้าพเจ้ากำหนดไว้ในใจเสมอคือ เมื่อศรัทธาจะทำ จงทำ..อย่างไม่เดือดร้อนใคร เมื่อทำแล้ว สบายใจ จงทำ เมื่อทำแล้ว รำลึกบุญ ก็อิ่มเอิบ ปิติใจ ที่ได้ทำ เพราะหลวงพ่อเสือที่ข้าพเจ้าเคารพรัก ท่านเคยเทศน์ สอนไว้ให้จำ เสมอว่า ใครพบ ใครพ้น ใครทำ ใครได้ ดังนั้น ข้าพเจ้าจึงยึด ทำดีไว้อย่างเดียว ที่จะไปพูดร้ายให้เขาไม่สบายใจ อย่าไปทำเลย อย่าไปคิดไม่ดี พูดไม่ดี ทำไม่ดีเลย คิดดี พูดดี ทำดี แล้วทุกอย่างก็จะดีไปเอง ก็กราบทุกท่านไว้อีกรอบด้วยความชื่นชมโสมนัส ในบุญกิริยาวัตถุสิบ ที่ท่านทั้งหลายได้ร่วมกระทำมา กราบขอบพระคุณทุกท่านที่ได้เข้ามาร่วมอนุโมทนาบุญด้วยค่ะ
9 มกราคม 2549 00:55 น. - comment id 13054
เมื่อวานมีท่านผู้อ่านท่านหนึ่งในเว็บนี้ สอบถามข้าพเจ้า ความว่า ถ้าได้หนังสือบริจาคไม่ครบจะพิมพ์ไหม ข้าพเจ้าจึงขอกราบเรียนไว้สักนิดว่า เมื่อขึ้นเชียงใหม่ไปเที่ยวนี้ ก็เพื่อจะขออนุญาตหลวงปู่ ดวงดี ว่าจะพิมพ์หนังสือให้ท่านด้วยตนเองอยู่แล้ว ครั้น ท่านอนุญาตให้หนังสือที่เคยพิมพ์ไว้เมื่อสามปีก่อน ว่าให้พิมพ์อย่างนั้นได้... ท่านรองเจ้าอาวาสเขียนอนุญาต ให้เรียบร้อย..ท่านก็เปรยว่า.. .... . \"การพิมพ์หนังสืองานบุญ ควรจะให้คนอื่นร่วมบุญ มิฉะนั้นมันจะสำเร็จไปได้อย่างไร ถ้าคิดจะทำบุญแต่ผู้เดียว ควรจะให้ทุกคนได้ร่วมบุญบ้าง\" .....ข้าพเจ้ากลับมาถึง ก็บันทึกการเดินทาง..ไปก่อน ยังมิได้หยิบต้นฉบับหนังสือมาเพื่อคัดเลือกแก้ไขอะไร แต่อย่างใด...ใจก็ยังใคร่จะพิมพ์เองแต่เพียงผู้เดียวเช่น เดิม.... .....ครั้นหยิบหนังสือ ธรรมะเป็นตั้งของ หลวงพ่อเปลี่ยน ปัญญาปทีโป แห่งวัดบ้านปง แม่แตง มาพิจารณาดูจำนวน พิมพ์ ทีละ 27000 เล่ม โดยศิษยานุศิษย์มากมายของ หลวงพ่อผู้มีบารมีมากท่านนั้น... ก็มองเห็นว่า...การจำกัดตนเองผู้เดียวเหมือนทำบุญ เอาหน้า...มิควรจะกระทำอย่างยิ่ง...ดังนั้น ข้าพเจ้าจึงได้ ตัดใจ(กลั้นใจ)พิมพ์ประกาศชวนร่วมบุญ ไปทุกเว็บที่ข้าพเจ้าผ่านไปผ่านมาอยู่ตลอดเวลา.. .....ขอท่านอย่าว่ากล่าวข้าพเจ้ากันเลย..อย่างไร ก็พิมพ์ และตั้งใจพิมพ์ถวายท่านอยู่แล้วเจ้าค่ะ.. เรื่องหนังสือเป็นจิตวิญญาณ ของข้าพเจ้าอยู่แล้ว เรื่องธรรมะ ก็เป็น จิตวิญญาณ อันลึกซึ้งของข้าพเจ้า อีกเช่นกัน...หากชีวิตนี้ นั่งอยู่ท่ามกลางกองหนังสือ หรือเครื่องคอมพ์เพื่อค้นหาข้อมูลอ่านในเน็ตได้ ข้าพเจ้าคงจะไม่ทำอันใด คงค้นไปเช่นนั้น ....เมื่อท่านทั้งหลายได้รับทราบความในใจของข้าพเจ้า แล้วก็ได้โปรด เข้าใจความรู้สึกของข้าพเจ้าด้วยเถิด และ ยินดีอย่างยิ่งที่พวกท่านปราถนาจะร่วมบุญ... ไม่ว่าจะเท่าไหร่ อย่างใด ก็เชิญท่าน...และ จะต้อง ผลักดันให้หนังสือ จัดหน้าให้เสร็จก่อนวันที่ 20 มกราคม 2549 นี้ เพื่อให้โรงพิมพ์พิมพ์ให้ทัน งานบุญถวาย.. หากไม่ทัน ก็คงไปแจกงานเดือนมีนา หรือ เดือนถัดไป โน่น...จะพยายามเร่งเต็มที่เจ้าค่ะ ก็กราบเรียนให้ท่านเข้าใจจุดประสงค์ของข้าพเจ้าก่อน อาศัยว่าเคยทำหนังสือของตนมาสองเล่มไปแล้วก็ พอประเมินค่าใช้จ่ายได้อยู่ คาดว่าน่าจะมีเงินไว้ร่วม ถวายหลวงพ่อ เพื่อ ร่วมสร้างตึกคนไข้ ในโรงพยาบาล สันป่าตองให้ท่านบ้าง ทั้งนี้ก็กราบขอบพระคุณทุกน้ำใจ ที่ให้มานะคะ