เขียนกลอนให้ดีทำได้อย่างไร

เนยหวาน

เขียนกลอนให้ดีได้อย่างไรหนอ
ดีเพียงพอเขาเขียนกันอย่างไหน
หรือว่าการเขียนดีอยู่ที่"ใคร"
จงตอบให้ฉันหายข้องใจเสียที่				
comments powered by Disqus
  • .

    14 กันยายน 2548 13:37 น. - comment id 11982

    บทร้อยกรองประกอบด้วยเนื้อหาที่อยู่ภายใต้รูปแบบที่กำหนดไว้ ซึ่งในส่วนของรูปแบบดังกล่าวได้แก่ลักษณะที่มีแผนผังและบังคับแตกต่างกันไปตามชนิดของคำประพันธ์ 
    
    ลักษณะเฉพาะของร้อยกรองของไทยคือมีรูปแบบเป็นระเบียบ มีบังคับสัมผัสให้คล้องจองกัน เพื่อให้เกิดความไพเราะและง่ายแก่การจดจำ มีการจัดแบ่งวรรค และกำหนดจำนวนคำ ตลอดจนเสียงของคำ ในส่วนของเสียงก็มีทั้งบังคับเสียงหนัก-เบา (ครุ-ลหุ) เสียงสูง-ต่ำ (มีทั้งบังคับตามเสียงและตามรูปวรรณยุกต์) 
    
    
    ผมเห็นด้วยกับที่ วาณิช จรุงกิจอนันต์ ได้ให้คำสรุปลักษณะของกลอน (น่าจะรวมถึงร้อยกรองชนิดอื่นๆด้วย) ว่าเป็นเรื่องของจังหวะและการใช้คำให้ได้ความที่กินใจ เพราะผมเองก็เรียนรู้มาเช่นนั้น และทำให้ทุกครั้งเมื่อผมเขียนร้อยกรองก็จะให้ความสำคัญกับการใช้คำให้ได้ความที่กินใจควบคู่ไปกับจังหวะลีลาของมัน 
    
    ในส่วนของจังหวะนั้น เป็นเรื่องของความไพเราะซึ่งเป็นคุณสมบัติพื้นฐานที่ขาดไม่ได้ของบทร้อยกรอง โดยเฉพาะบทร้อยกรองของไทยนั้นแต่เดิมใช้ในการขับ แปลว่ามีท่วงทำนองคล้ายกับเพลงโดยมีทั้งจังหวะและทำนองที่เป็นกรอบให้เราต้องร้อยเรียงถ้อยคำให้สอดรับกลมกลืนกับทำนองเพลงหรือการขับที่จะเลือกใช้ประกอบด้วย แม้ปัจจุบันเราจะหันมาเสพสุนทรีย์แห่งบทร้อยกรองด้วยสายตาเพียงอ่านโดยไม่ออกเสียง ก็ไม่น่าจะถึงขนาดให้เขียนบทร้อยกรองกันโดยไม่มีจังหวะกำกับ เพราะลักษณะเช่นนั้นจะกลายเป็น ร้อยแก้ว ซึ่งผิดประเภทกัน 
    
    จังหวะ(รวมทั้งท่วงทำนอง)ของร้อยกรองไทยมีวิวัฒนาการหลายชั้นหลายยุคสมัย จนมีชนิดของคำประพันธ์มากมาย และไม่แปลกถ้าจะมีใครทำให้ วิวัฒน์ ไปกว่านี้ ผมจึงไม่เห็นด้วยถ้าใครจะยึดติดกับกรอบของ ของเก่า เพียงอย่างเดียว แต่ก็ไม่เคยชื่นชมกับ ของใหม่ ที่เกิดขึ้นอย่างไร้หลักเกณฑ์อันเหมาะสม การได้ศึกษาจนเข้าใจจะทำให้เราพบว่าการสร้างจังหวะนั้นก็เพื่อโน้มน้าวอารมณ์ผู้ฟัง(ผู้อ่าน) ทั้งนี้สามารถเทียบเคียงกับดนตรีที่มีจังหวะและทำนองแตกต่างหลากหลาย 
    
    
    คงต้องเป็นอัจฉริยบุคคลจึงจะสามารถเขียนบทร้อยกรองโดยไม่มีจังหวะของร้อยกรองอยู่ก่อนในใจ และการที่จะให้มีจังหวะของร้อยกรองในใจได้ก็ทำได้เพียงอ่านและฟังมาจนขึ้นใจ ใครที่คิดจะเขียนร้อยกรองจึงจำเป็นต้องอาศัยการอ่านมากฟังมากเป็นพื้นฐาน และน่าจะเป็นการเลือกอ่านงานที่มีคุณภาพเพียงพอด้วย 
    
    สำหรับ การใช้คำให้เกิดความกินใจ จะเป็นมาตรวัดคุณภาพของบทร้อยกรอง เพราะถ้าบทไหนมีคนประทับใจจดจำแล้ว บทนั้นก็จะกลายเป็นชิ้นงานอมตะ ซึ่งถือเป็นความสำเร็จอย่างสูง จึงอยากให้คนเขียนร้อยกรองหันมาเน้นคุณภาพกัน ลองคิดดูเถอะว่าถ้าเราเคยเขียนบทร้อยกรองเป็นร้อยเป็นพันชิ้น แต่ไม่มีสักชิ้นที่ประทับใจคน ปริมาณงานทั้งหมดก็ไม่มีค่าอะไรเลยเมื่อเทียบกับคนที่สร้างงานอย่างประณีตจนเกิดเป็น วรรคทอง ขึ้นมาได้ 
    
    
    ทุกวันนี้เมื่อกล่าวถึงบทร้อยกรองไทย เราจะนึกถึงรูปแบบเป็นอย่างแรก จนหลายคนลืมไปว่าสิ่งที่ขาดเสียมิได้ก็คือเนื้อหา ตรงจุดนี้เองที่ทำให้หลงทิศหลงทางกันไปมากมาย ยิ่งเมื่อการเรียนการสอนในโรงเรียนหันมาใช้ข้อสอบปรนัยแทนข้อสอบอัตนัย เด็กไทยก็ขาดทักษะในการเรียบเรียงและลำดับความคิด จนไม่สามารถเขียนอะไรให้คนอ่านเข้าใจได้ ถ้าคนอ่านอ่านแล้วไม่เข้าใจก็เป็นไปไม่ได้ที่จะเกิดความประทับใจ และถ้าคนเขียนต้องการสื่อความคิดด้วยแล้ว การที่คนอ่านไม่สามารถเข้าถึงเนื้อสารได้ก็เป็นความล้มเหลวของคนเขียน ไม่ว่าจะเป็นเพราะความผิดของคนเขียนหรือไม่ก็ตาม 
    
    คุณสมบัติอย่างแรกของเนื้อหาก็คือความถูกต้อง ก่อนที่นักประพันธ์เอกของโลกจะเขียนอะไรนั้นเขาต้องศึกษาเรื่องที่เขาเขียนมาอย่างดี เราจะไม่คิดเอาอย่างเขาบ้างเชียวหรือ และนอกจากความถูกต้องแล้วก็ยังต้องมีการจัดลำดับไม่ให้วกวนสับสน ส่วนจะมีเทคนิคในการสร้างความน่าสนใจ หรือมีการใช้สัญลักษณ์หรืออุปมาอุปมัยไปขนาดไหน ก็ยังต้องให้ความสำคัญกับการสื่ออยู่ดี ยกเว้นว่าตั้งใจแค่เขียนไว้อ่านเองคนเดียว 
    ภาษา เป็นเครื่องมือสำคัญที่สุด และเราคงต้องเข้าใจความหมายของคำทุกคำที่เราเลือกใช้ด้วย ความรู้เรื่องภาษานี่เองที่จะช่วยให้เราเรียบเรียงเรื่องที่ยุ่งยากซับซ้อนให้กลายเป็นเรื่องง่ายที่จะเข้าใจ ซึ่งบางครั้งให้ผลถึงขนาด กินใจ ได้ แต่ถ้าเราใช้คำผิดความหมายหรือผิดกาละเทศะก็กลายเป็นการประจานตัวเอง 
    
    
    ไม่มีใครสามารถสร้างประติมากรรมขึ้นมาจากความว่างเปล่าได้หรอก
  • จีจัง

    14 กันยายน 2548 15:35 น. - comment id 11984

    12.gifต้องใช้ใจเขียนเหมืนเราไง  เขียนไม่เพราะหรอกแต่ใจรักอ่ะ
  • แดดเช้า

    15 กันยายน 2548 09:18 น. - comment id 11997

    เขียนกลอนให้ดี ต้องคีย์จากใจ
    สมองอย่าไหว   อารมณ์ต้องชัด
    ภาษาต้องคล่อง   สอดคล้องอยู่หมัด
    หมั่นฝึกจึงสันทัด ต้องหัดเสมอ : )
    
    แหะแหะ ... เข้ามาให้กำลังใจค่ะ
    อ่านเยอะๆ นะคะ
  • อัลมิตรา

    15 กันยายน 2548 09:33 น. - comment id 11998

    ..๏ ร้อยกรองรายกรอบรอบกั้น
    แท้นั้นเน้นเพื่อเนื้อหา
    จังหวะจัดวางสร้างมา
    ลีลาผสานผสมกลมกลืน
    
    เรียบเรียงอารมณ์บ่มร่ำ
    ความนำคำทยอยรอยคลื่น
    แพรวพราวผ่องผุดจุดยืน
    ไหลลื่นลึกล้ำคำคม
    
    พากเพียรเขียนคิดประดิษฐ์ถ้อย
    ใช่พล่อยพลั้งเผลอเพ้อผสม
    คุณค่าราคาแล้งลม
    ควรฤๅชื่นชมเชิดชู
    
    ร้อยกรองก่ายกองตรองตั้ง
    ร้อยครั้งอรรถรสอดสู
    ร้อยเรื่องหลากหน้าพาดู
    ร้อยรู้ฤๅครึ่งหนึ่งทำ ๚ะ๛
  • ทำนอง Rock

    16 กันยายน 2548 20:51 น. - comment id 12031

    คห.  copy มาจากไหนนะ ^^\'
  • MOO

    27 กันยายน 2548 22:09 น. - comment id 12153

    คงต้องฝึกฝนนะครับ  หัดใช้ภาษา ถ้อยคำ ที่ สละสลวย  อ่านหนังสือเยอะๆ และต้องใช้ อารมณ์ร่วมบ้าง ที่สำคัญคือ ใจ ครับ ต้องรักด้วยนะ  28.gif
  • ไม้เก็ด

    4 ตุลาคม 2548 22:51 น. - comment id 12226

    เคยจำบทกลอนได้บทหนึ่ง  แต่จำไม่ได้จริง ๆ ว่าเป็นผลงานของใคร  ดังนี้
    
          กลอนจะดีอยู่ที่เรื่องเป็นเบื้องแรก
    ความคิดแปลก โวหารคม สมสมัย
    ถ้อยคำหรู ตรูอรรถ สัมผัสใน
    เก็บความได้แน่นหนักในวรรคเดียว.
    
           คิดว่ามีหลายอย่างให้ค้นหาในบทกลอนนี้ ที่เป็นประโยชน์ต่อการเขียนกลอนให้ดีได้61.gif61.gif61.gif61.gif61.gif61.gif

thaipoem ที่สุดกลอนดีๆ

thaipoem บ้านกลอนไทยที่ที่สร้างแรงบันดาลใจของทุกๆคน เป็นเพื่อนเมื่อยามเหงา คอยปลอบใจเมื่อยามร้องไห้ ที่ที่อยากให้ทุกๆคนรู้ว่าสิ่งดีๆเกิดขึ้นได้ทุกวัน