สำเนียงเสียงใดเล่า
ที่คลุกเคล้ากับสายลม
พรายฝนผสานผสม
กลับเวิ้งว้างทางชีวิต
รอยยิ้มที่เปื้อนหน้า
อาจน้ำตาแอบซาบจิต
คำหวานซ่านยาพิษ
อาจซุกซ่อนมาชอนไช
เดินทางกลางป่าลึก
ย่อมรู้สึกหวั่นและไหว
ก้านกิ่งที่โยกไกว
อาจภูตผีที่สิงซบ
ท่ามกลางเหล่าผู้คน
ที่สับสนเกินเลี่ยงหลบ
อึงมี่ที่พานพบ
อาจใช่แยกหรือแตกคอ
น้ำนิ่งยังลึกไหล
ความในใจยากยิ่งหนอ
ผู้คนหาเพียงพอ
กิเลสกร่อนทอนปัญญา
ทรัพย์สินสิ่งลวงล่อ
งามลออบดบังตา
ทรวดทรงเสน่หา
จ้องแผดเผาเข้าซึมลึก
ตัวกูเป็นของกู
ก็พรั่งพรูความรู้สึก
ลืมเลือนเตือนสำนึก
ลืมผิดชอบลืมชั่วดี
ทะเลก็ขาดน้ำ
ท้องฟ้าครามไร้ปักษี
กลางป่าดงพงพี
สัตว์น้อยใหญ่ไม่แนบเนา
ค่ำคืนไม่มีดาว
ยิ่งเหน็บหนาวยิ่งเงียบเหงา
กงกรรมตามเป็นเงา
เหล่าคนเข็ญต้องเป็นไป
ธรรมชาติยังอาจหาญ
จิตวิญญาณแม้ยิ่งใหญ่
สุดท้ายล่วงเลยวัย
ทิ้งสังขารผ่านกองฟอน.
เก็บดาวดวงน้อยน้อย
มาเรียงร้อย ณ ราวฟ้า
แต้มแต่งแสงดารา
ด้วยสายธารม่านหมอกขาว
ฟ้าเหนือเมื่อราตรี
จะสาดสีให้พรายพราว
สุกสว่างกลางลมหนาว
ด้วยแสงศิลป์ให้ยินยล
ไอดินส่งกลิ่นกรุ่น
หอมละมุนทั่วแห่งหน
อาบยิ้มอิ่มกมล
ที่ฉาบฉายสายใยรัก
แสงสีที่สาดส่อง
มิหม่นหมองยังแน่นหนัก
เส้นสายมาทายทัก
เป็นเรื่องราวเร้าอารมณ์
โบยบินสู่ถิ่นฝัน
เพียงคืนวันที่ทับถม
เหือดหายกับสายลม
เพียงสังขารกาลเวลา
เสียงศิลป์ยังกึกก้อง
คงร่าร้องละลานตา
ไล้โลกให้โสภา
ที่รุ่มร้อนได้ผ่อนคลาย.
โลกออนไลน์อยากดังสร้างคอนเทนต์
จับประเด็นฮิตฮอตหวังยอดไลค์
เรื่อสร้างสรรค์พอมีให้ดีใจ
น่าห่วงใยคืออวดอ้างทางมิควร
บ้างนุ่งน้อยห่มน้อยคอยอวดอึ๋ม
มากันตรึมทุกช่วงวัยให้เสสรวล
บ้างสองแง่สองง่ามตามสำนวน
บ้างเชิญชวนชี้ช่องลองเกมกาม
บอกลีลาท่าทางพลางขานไข
บอกเล่าได้แคล่วคล่องไม่ต้องถาม
พูดเต็มปากเต็มคำไม่อำความ
คงก้าวข้ามว่ายุคใหม่ไร้กังวล
เรื่องผัวเมียเคยลับจับมาเล่า
บ้างเคลียเคล้าซาบซ่าน่าฉงน
บอกท่วงท่าเคล็ดลับสัปดน
บ้างก็บ่นอี้อู้คู่ไม่มอง
โลกออนไลน์ลูกหลานคลานเข้าถึง
จะฉุดดึงตกต่ำทำให้หมอง
หรือเสริมส่งก้าวไกลได้ตรึกตรอง
หรือคะนองหวังไลค์ให้สำนึก!!!