10 กันยายน 2552 13:00 น.
บพิตร
มีนิทานเรื่องเล่าเก่านานโข
เรื่องลาโง่เลียน้ำค้างช่างโง่เขลา
จนตัวตายถูกต่อว่าปัญญาเบา
คำยั่วเย้าโง่เหมือนลาน่าสงสาร
ทำงานหนักหวังไกลได้ก้าวหน้า
ไม่เคยลาพักผ่อนนอนอยู่บ้าน
แม้เจ็บป่วยไม่พักอยากทำงาน
ไม่เกียจคร้านลากิจไม่คิดเลย
แม้วันหยุดไม่ยั้งยังห่วงงาน
หอบกลับบ้านตรวจตราหานิ่งเฉย
เรื่องท่องเที่ยวดูหนังยังไม่เคย
ไม่ต้องเอ่ยเรื่องสังสรรค์นั้นไม่เอา
มีสิทธิลาไม่ลาสละสิทธิ์
ขออุทิศทุกเวลามาคอยเฝ้า
ทำแต่งานไม่พักทั้งหนักเบา
จากรุ่งเช้ายันค่ำทำทุกวัน
เวลานี้แสนสบายได้พักผ่อน
ได้กินนอนศรีธัญญาช่างน่าขัน
ทางก้าวหน้าสิ้นสุดหยุดลงพลัน
เพราะเขานั้นไม่เคย ลา หน้าโง่จริง.
บพิตร
๑๐/๙/๕๒
10 กันยายน 2552 09:15 น.
บพิตร
@ เสียงตึงตังฟังว่าผ้าขาดวิ่น
จึงวอนฟ้าฝากดินคราสิ้นหวัง
เห็นด้านหน้าห่อหุ้มคุ้มมิดบัง
แต่ชักหน้าไม่ถึงหลังช่างร้อนรน
@ งบขาดดุลงามหน้าเจ้าข้าเอ๋ย
จะบอกกล่าวเอื้อนเอ่ยเลยสับสน
เหมือนหวังน้ำบ่อหน้าชะตาตน
คงไม่พ้นตายดาบหน้าถ้าหมดแรง
@ มีทุนน้อยใช้เกินเดินหลงทาง
จึงล้าหลังถอยห่างทุกหนแห่ง
ต้องกู้หนี้ยืมสินลิ้นพลิกแพลง
ฝืนหน้ายิ้มแม้ไส้แห้งแข่งสังคม
@ ประเทศชาติขาดพอเพียงเลี่ยงความจริง
บอกบางอย่างซ่อนบางสิ่งยิ่งขื่นชม
ทำลึกลับซับซ้อนซ่อนลับลม
เกรงสักวันจักล่มจมบาดาล.
9 กันยายน 2552 09:53 น.
บพิตร
@ พับกระดาษแผ่นน้อยตามรอยฝัน
ว่าสักวันจะโลดแล่นเหนือแผ่นฟ้า
จะก้มมองแลดูหมู่เมฆา
กลางเวหาจะเวิ้งว้างหรืออย่างไร?
@ พับเครื่องบินเติมฝันที่ฉันขาด
ฝันที่วาดคือหวังครั้งยิ่งใหญ่
จะลอยล่องท่องฝันอันแสนไกล
ด้วยดวงใจไขว่คว้ามาเป็นจริง
@ ฉันจะบินบินไปไกลสุดหล้า
แม้เหนื่อยล้าเกินเข้าใจในบางสิ่ง
แผ่นดินเกิดแผ่นดินตายหมายแอบอิง
จะเดินวิ่งแผ่นดินใดใยสำคัญ
@ ใครสร้างโลกแบ่งดินแดนเป็นแคว้นเขต
มีประเทศมีกฎหมายหลายชนชั้น
แบ่งสัญชาติแบ่งหมู่เหล่าแบ่งเผ่าพันธุ์
คนเหมือนกันไม่เทียมเท่าไม่เข้าใจ?
บพิตร
๙/๙/๕๒
8 กันยายน 2552 16:27 น.
บพิตร
ปลิดปลิวทิ้งกิ่งก้าน
คราถึงกาลกำหนดขัย
แห้งโหยโรยราไป
เพื่อสิ่งใหม่ได้งอกเงย
จากไปใช่ไร้ค่า
ทอดกายาหานิ่งเฉย
ผุไปใช่เปล่าเลย
เป็นปุ๋ยอิ่มให้ลิ้มรส
หล่อเลี้ยงกิ่งใบใหม่
ให้เติบใหญ่แลใสสด
ผลดอกออกงามงด
บนใบเก่าเจ้าผุพัง
ทิ้งร่างให้เหยียบย่ำ
เพื่อน้อมนำความดียัง
เจ็บร้าวเพื่อจีรัง
สังคมใหม่ให้งดงาม.ฯฯฯ